สภาเกษตรกรฯ อยากเห็นเกษตรกรหลุดพ้นสับปะรดเขาวงกต

นายสำออย วงศ์เณร กรรมการด้านพืชไร่ สภาเกษตรกรแห่งชาติ  เปิดเผยถึงกรณีที่ผู้ปลูกสับปะรดในหลายพื้นที่ประสบปัญหาราคาในขณะนี้ว่า เกษตรกรทุกคนที่ปลูกสับปะรดจะทราบถึงสภาวะความเป็นจริงว่าราคาสับปะรดจะขึ้น – ลงในทุกรอบ 3 ปีหรือไม่เกิน 4 ปี   สาเหตุที่ราคาสับปะรดลงเพราะในช่วงที่ราคาดีเกษตรกรก็จะปลูกเพิ่มจากพื้นที่ที่เคยปลูก หรือการปลูกใหม่ของเกษตรกรรายใหม่ จนผลผลิตเกินความต้องการของตลาด ซึ่งในตลาดต้องการสับปะรดประมาณ 2 ล้านตัน ถ้าเกินจากนี้เมื่อไหร่ราคาก็จะตกลงมา เป็นวงจรหมุนเวียนเหมือนเขาวงกต  มีทางออกแต่เกษตรกรไม่ยอมออกหรือหาทางออกกว่าจะพบหรือไม่พบ บางคนก็ถอดใจทิ้ง   สำหรับทางแก้ไขสภาเกษตรกรแห่งชาติมุ่งไปที่การผลิตสับปะรดแบบเกษตรพันธะสัญญาที่ออกเป็นกฎหมายรอการใช้บังคับ โดยความสำคัญอยู่ที่เนื้อหาสาระของสัญญาที่เกษตรกรจำเป็นต้องมีส่วนร่วมในการร่างสัญญาด้วย ซึ่งจะได้เสนอเรื่องนี้ต่อกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ส่วนแนวทางการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าขณะนี้สภาเกษตรกรแห่งชาติได้นำเสนอบอร์ดคณะกรรมการนโยบายและพัฒนาสับปะรดแห่งชาติตามความต้องการของเกษตรกรคือให้มีการรับซื้อสับปะรดโรงงานตามข้อตกลงกันในราคากิโลกรัมละ 5 บาท ส่วนสับปะรดที่เกินกำลังการผลิตของโรงงานเสนอให้นำออกไปจำหน่ายเป็นผลสด  และเสนอไปยังกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ ให้จัดทำโครงการโรดโชว์สับปะรดระบายผลสดออกนอกพื้นที่ โดยขอให้กรมการค้าภายในชดเชยในเรื่องค่าขนส่ง ค่าบริหารจัดการจากต้นทางที่ผลิตไปถึงปลายทางใกล้เคียงที่ไม่ได้ผลิต การบริโภคผลสดจะเกิดขึ้นได้สูง เพราะแม้ราคาสับปะรดจะตกเหลือราคากิโลกรัมละบาทกว่าๆ แต่การซื้อบริโภคผลสดก็ยังคงราคาไม่ต่ำกว่า 10 บาท  หากเป็นตามนี้ก็จะช่วยดึงให้สับปะรดออกไปนอกระบบได้มากขึ้น  เป็นเรื่องที่กรมการค้าภายในสามารถช่วยดำเนินการได้โดยการกระจายสินค้า แต่ขณะนี้ยังไม่ได้มีการดำเนินการแต่อย่างใด แต่กลับเห็นว่ามีบางจังหวัด เช่น จังหวัดลำปางได้สั่งการให้หน่วยงานในจังหวัดช่วยเร่งกระจายสินค้าโดยการใช้พื้นที่ราชการวางจำหน่าย เป็นต้น  สถานการณ์เช่นนี้ก็จะทำให้เกษตรกรเข้าสู่วงจรลดการผลิตซึ่งจะทำให้ราคาสับปะรดในปีถัดไปราคาดีขึ้น เมื่อราคาดีขึ้นเกษตรกรก็จะหันมาปลูกเพิ่มขึ้นอีก  การผลิต , ราคาสับปะรดก็จะกลับไปสู่วังวนเขาวงกตที่เกษตรกรยังไม่หลุดพ้นเช่นเดิม

“ไม่อยากให้เกษตรกรละทิ้งผลผลิต เพราะกว่าจะเติบโตจนขายได้ต้องใช้เวลา อยากให้เกษตรกรช่วยเหลือตนเองในเบื้องต้นก่อน หากเดือดร้อนสภาเกษตรกรจังหวัดพื้นที่ที่ท่านอยู่ช่วยประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้เข้าไปช่วยท่านแก้ไขปัญหา ติดต่อได้ที่สภาเกษตรกรจังหวัดในพื้นที่” นายสำออยกล่าวทิ้งท้าย