“มะสังดัดบอนไซ” ไม้ประดับขึ้นชื่อบ้านดงขี้เหล็ก เจาะตลาดออนไลน์ สร้างรายได้ตลอดปี

คุณอาทิตติญา โทไธสง หรือ คุณเชล วัย 28 ปี เจ้าของแปลงทฤษฎีใหม่ตามแนวพระราชดำริในหลวงรัชกาลที่ 9 หมู่ที่ 14 ตำบลดงขี้เหล็ก อำเภอเมือง จังหวัดปราจีนบุรี เกษตรกรหญิงผู้มีหัวใจรักและศรัทธาในการทำอาชีพเกษตรกรรม โดยมีเป้าหมายคือ การบริหารจัดการที่ดินและทรัพยากรน้ำในที่ดินขนาดเล็กให้เกิดประโยชน์สูงสุด ด้วยการปลูกพืชเศรษฐกิจ ได้แก่ ไม้ดอกไม้ประดับ และปลูกพืชผสมผสาน ที่สร้างความมั่นคงด้านอาหาร ทั้งผักและผลไม้ ซึ่งเป็นการลดรายจ่ายและเป็นการเพิ่มรายได้ ดำเนินชีวิตตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง ตามรอยในหลวงรัชกาลที่ 9

คุณอาทิตติญา โทไธสง หรือ คุณเชล

จุดเริ่มต้นเกิดขึ้นเมื่อปี 2561 หลังจากคุณเชลเรียนจบจากคณะนิเทศศาสตร์ สาขาการสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา จึงกลับมาอยู่บ้าน จึงนำสิ่งที่เรียนมานั้นมาปรับใช้เกี่ยวกับการทำเกษตร ทั้งการเปิดเพจเฟซบุ๊กเพื่อประชาสัมพันธ์ จึงพูดคุยกับทางครอบครัวว่าทำอย่างไรให้มีรายได้ให้กับตนเอง ก่อนจะมองเห็นช่องทาง และเริ่มเข้าสู่วงการการขายมะสังดัดออนไลน์อย่างเต็มตัว ซึ่งก่อนหน้านี้ประมาณ 20 ปี ทางบ้านของคุณเชลมีการขายส่งมะสังดัดอยู่ก่อนแล้วแต่เป็นการขายแบบออฟไลน์ คุณเชล เล่าว่า มะสังดัดเป็นไม้ประดับที่อยู่คู่กับตำบลดงขี้เหล็ก จังหวัดปราจีนบุรี มานานกว่า 30 ปี ในอดีตรุ่นปู่ย่าตายายจะมีการไปขุดต้นมะสังดัดมาจากป่าและนำเข้าสู่กระบวนการดัดให้เป็นรูปทรง ก่อนที่จะเริ่มนำเมล็ดของมะสังดัดมาเพาะปลูกเอง เนื่องจากมีการขายและซื้อมะสังดัดเพิ่มมากขึ้น และเพื่อให้เกิดการกระจายรายได้เพิ่มมากขึ้นในชุมชน

ครอบครัวโทไธสง

“แน่นอนเลยว่าในธรรมชาติมีไม่เพียงพอต่อความต้องการของลูกค้าอยู่แล้วค่ะ ก็คือรุ่นปู่ย่าตายายไปเอามาจากป่า พอรุ่นของเขามะสังดัดเริ่มเป็นที่รู้จัก ก็เริ่มนำมาเพาะเมล็ดสืบต่อกันมาจนถึงปัจจุบัน และเหมือนเป็นการเพิ่มและกระจายรายได้ให้กับในชุมชนอีกด้วยค่ะ”

ต้นมะสังดัดถูกจัดในถาดสวยงาม

ระยะเวลากว่าจะนำต้นมะสังดัดมาขายนั้นใช้เวลากว่า 9 เดือน โดยแบ่งออกเป็นช่วง 1-2 เดือนแรกจะเป็นการเพาะเมล็ดมะสังดัด โดยการไปเก็บลูกมะสัง นำเมล็ดมาคว้าน ล้างทำความสะอาด ก่อนจะนำลงเพาะปลูกหลังจากเริ่มเป็นต้นกล้าแล้ว ก็สามารถนำลงแปลงปลูกได้ ใช้เวลาอีกประมาณ 4-5 เดือน เมื่อมะสังดัดพร้อมขายแล้วก็จะขุดขึ้นมาพักใส่กระถางอีก 1 เดือน เมื่อรากของมะสังแข็งแรงแล้ว จะเริ่มเข้าสู่กระบวนการตัดใบ ให้ลวดและดัดทรง เมื่อดัดทรงเสร็จแล้ว จะไปสู่การนำมะสังดัดออกเลี้ยงกลางแดดอีก 2 สัปดาห์ จึงจะพร้อมจำหน่ายให้ลูกค้าที่ต้องการ

ขนาดของต้นมะสังดัด 3 ขนาด

ส่วนวิธีการดูแลมะสังดัดไม่ได้ยากอย่างที่คิด รดน้ำเพียงวันละ 1 ครั้ง ที่แปลงเกษตรนั้นจะไม่ใช้สารเคมีเด็ดขาด เนื่องจากมะสังดัดเป็นไม้ที่ใช้สารเคมีไม่ได้นั่นเอง ภายในสวนจะใช้ปุ๋ยน้ำผ่านการรดน้ำผ่านหัวสปริงเกลอร์ที่ได้จากถุงแก๊สชีวภาพ มีการทำจุลินทรีย์สังเคราะห์แสงใช้เอง อีกทั้งมีการใช้ปุ๋ยมูลไก่ผสมแกลบขาวควบคู่กันไปด้วย

มะสังดัดพร้อมจัดส่ง

“มะสังดัดคนส่วนใหญ่คิดว่าจะเลี้ยงยาก แต่จริงๆ แล้วเลี้ยงง่ายมากค่ะ เวลาลูกค้าซื้อมะสังดัดไปก็จะแนะนำลูกค้าว่าสามารถนำตากแดดได้เลยหากเจอแสงแดดจัด สามารถรดน้ำเช้าเย็นได้เลยค่ะ หรือเป็นลูกค้าที่อยู่คอนโดฯ ก็จะแนะนำให้ตั้งในที่ที่มีแสงแดดรำไรแต่ถ้าไม่มีแดดจริงๆ เวลารดน้ำให้นำออกมาเจอแดดบ้างสัก 30 นาทีต่อวันก็ยังดีค่ะ นอกจากต้นมะสังดัดแล้วภายในสวนยังมีการปลูกพืชผักสวนครัวเพื่อให้เกิดความหลากหลายภายในสวนอีกด้วยค่ะ ในสวนจะไม่มีการใช้สารเคมี จะใช้เป็นน้ำหมักชีวภาพมีการทำจุลินทรีย์สังเคราะห์แสงใช้เอง รวมถึงใช้ปุ๋ยมูลไก่ผสมแกลบขาวที่สามารถหาซื้อได้ตามฟาร์มไก่ในพื้นที่อีกด้วยค่ะ”

มะสังดัดถูกปลูกภายในแปลง

ปัญหาหลักของโรคระบาดที่เกิดขึ้นในต้นมะสังดัดมักไม่ค่อยเจอโรค เนื่องจากทางสวนมีการใช้น้ำหมักชีวภาพและจุลินทรีย์สังเคราะห์แสงในการบำรุงต้นและมีส่วนในการป้องกันโรคที่มักจะเกิดขึ้นกับต้นมะสังดัด แต่หากขุดมะสังดัดและเจอลมในช่วงฤดูหนาวก็อาจจะส่งผลให้ต้นมะสังดัดเหี่ยวเฉาไม่สวยเท่าที่ควร ในอนาคตอาจจะมีการพัฒนาโดยการปลูกมะสังดัดในโรงเรือนเพื่อให้ได้ผลผลิตที่คุณภาพแก่ลูกค้ามากที่สุด

มะสังดัดต้นใหญ่เท่าขวดน้ำ

“ด้วยความที่เราใช้ปุ๋ยน้ำหมักและก็จุลินทรีย์สังเคราะห์แสง ตัวนี้เขาจะช่วยในเรื่องของโรค ทำให้มะสังดัดในสวนของเราไม่ค่อยเจอโรคเท่าไรค่ะ บวกกับที่สวนเราเป็นอินทรีย์ด้วย ไมได้ใช้สารเคมีด้วย เวลาเรากำจัดวัชพืชพวกหญ้าก็จะเป็นวิธีการนั่งถอน ถ้าถามหาอุปสรรคจริงๆ ก็จะเป็นช่วงหน้าหนาวเท่านั้นค่ะ ชื่อช่วงลมออก ถ้าเราขุดมะสังดัดออกมาเจอช่วงลมออก ต้นมะสังดัดก็จะน็อก เหี่ยวเฉาได้ค่ะ เพราะว่าลมนั้นจะมีผลต่อการเติบโตของต้นมะสังดัดนั่นเองค่ะ บางบ้านก็จะแก้ปัญหาด้วยการปลูกมะสังดัดช่วงหน้าหนาวและไปเก็บผลผลิตในช่วงเดือนมีนาคมแทน เพื่อแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นค่ะ”

ผลตอบรับหลังจากเริ่มขายในออนไลน์ควบคู่กับออฟไลน์ ถือว่าอยู่ในระดับที่น่าพึงพอใจสามารถสร้างรายได้และเลี้ยงดูครอบครัว รวมถึงเกิดการจ้างงานในชุมชน ทำให้ชาวบ้านในชุมชนมีรายได้เพิ่มมากขึ้น ใช้เวลาให้เป็นประโยชน์โดยเฉพาะกลุ่มผู้สูงอายุ

“รายได้ดีขึ้นกว่าเดิม จากที่พ่อกับแม่จะส่งขายเดือนละ 2 ล็อต ล็อตละ 1,000 ต้น รายได้จะอยู่ที่เดือนละ 7 หมื่นบาท เมื่อหักลบต้นทุน 2 หมื่นกว่าบาท ก็จะเหลือเดือนละ 4-5 หมื่นบาท แต่ในส่วนของออนไลน์นี่จะขายในราคาปลีก ในล็อตหนึ่งของออนไลน์จะขายล็อตละ 200-300 ต้น และยิ่งในปัจจุบันต้นทุนการผลิตมันเพิ่มมากขึ้น การจ้างงานเรายังมีผู้สูงอายุที่เราต้องจ้างงานเขา เราก็จะให้เขาเพิ่มมากขึ้น ทำให้เขามีรายได้ค่ะ จึงเป็นเหตุผลว่าอยากจะทำโรงเรือนปลูกมะสังดัด เพื่อให้ชาวบ้านในชุมชนมีรายได้ตลอดปี ไม่ขาดช่วงค่ะ”

รีวิวจากลูกค้า

เมื่อถามถึงราคาขาย คุณเชล เล่าให้ฟังว่า ราคาขายปลีกจะมีด้วยกันทั้งหมด 3 ขนาด คือ กระถางขนาด 3 นิ้วราคา 60 บาท กระถางขนาด 4 นิ้ว ราคา 80 บาท กระถางขนาด 5 นิ้ว ราคา 120 บาท ด้านราคาขายส่งสำหรับลูกค้าประจำที่สั่งมะสังดัดในหลัก 1,000 ต้นขึ้นไป จะส่งอยู่ที่ราคา 40 บาท

สำหรับท่านใดที่สนใจสามารถติดต่อ คุณอาทิตติญา โทไธสง หรือ คุณเชล ได้ที่แปลงทฤษฎีใหม่ตามแนวพระราชดำริในหลวงรัชกาลที่ 9 หมู่ที่ 14 ตำบลดงขี้เหล็ก อำเภอเมือง จังหวัดปราจีนบุรี หรือทางเพจเฟซบุ๊ก “บ้านสวนคุณตาจำลอง ถนนพันธุ์ไม้ปราจีนบุรี” และทางเบอร์โทรศัพท์ 092-901-9542

……………………………………….

สำหรับแฟนๆ นิตยสารเทคโนโลยีชาวบ้าน หากต้องการนิตยสารเทคโนโลยีชาวบ้านรายปักษ์ ส่งตรงถึงบ้าน รวดเร็วทันใจอ่านได้ในทุกๆ 15 วัน สามารถสมัครสมาชิกได้ที่ คลิกลิงก์ https://shorturl.asia/0zJwQ – Line: @matichonbook หรือ สำนักพิมพ์มติชน เลขที่ 12 ถนนเทศบาลนฤมาล หมู่บ้านประชานิเวศน์ 1 แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร 10900 ติดต่อฝ่ายขาย 02-589-0020 ต่อ 3354