| เผยแพร่ |
|---|
เวลาวัดความเจริญของแต่ละประเทศ ผู้คนมักนึกถึงเรื่องเทคโนโลยีและนวัตกรรมว่าล้ำแค่ไหน ทั้งที่จริงแล้ว เรื่องการบริหารจัดการพื้นที่สีเขียวอย่างมีประสิทธิภาพก็สำคัญไม่แพ้กัน ล่าสุดในงาน Sustainability Expo 2022 หรือ SX 2022 ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ระหว่างวันที่ 26 กันยายน ถึง 2 ตุลาคมนี้ กลุ่ม บิ๊กทรีส์ หรือ BIGTrees Project ที่รณรงค์เรื่องนี้มาอย่างต่อเนื่อง ตั้งเป้าใช้พื้นที่ใน SX 2022 และในสวนเบญจกิติ ชวนทุกคนสนใจพื้นที่สีเขียวมากขึ้น เพื่อนำสู่ความยั่งยืนในอนาคต
เพราะปัจจุบัน ประเทศไทยมีพื้นที่ป่า สวนหย่อม และสวนสาธารณะ รวมกันประมาณ 38 ล้านตารางเมตร คิดเป็นร้อยละ 2.4 ของพื้นที่ทั้งหมด ถือว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ โดยเฉพาะในอาเซียน ส่วนเมืองหลวงอย่างกรุงเทพมหานครก็มีเพียงร้อยละ 2.6 เท่านั้น แม้ไส้ในของตัวเลขเหล่านี้จะเติบโตขึ้นทุกวัน แต่ก็อาจยังไม่พ้นขีดอันตราย
อรยา สูตะบุตร หนึ่งในผู้ก่อตั้งกลุ่มบิ๊กทรีส์ เล่าว่า 12 ปีที่ผ่านมา ทางกลุ่มทำงานอย่างแข็งขันเพราะเห็นประโยชน์ของการมีปอดในเมือง และยังเป็นกำลังสำคัญที่ขับเคลื่อนให้อาชีพ “รุกขกร” หรือผู้ดูแลตัดแต่งต้นไม้ มีบทบาทในการดูแลสิ่งแวดล้อมมากขึ้น เพื่อช่วยดูแลต้นไม้ใหญ่ไม่ให้ถูกตัดหรือถูกโค่นผิดวิธี จนสามารถสร้างความเข้าใจในประเด็นต่างๆ ให้ผู้คนมองเห็นความสำคัญว่า
ต้นไม้ใหญ่จะช่วยสร้างความยั่งยืนปลอดภัย และดูแลสุขภาพกายใจของผู้คนได้ในระยะยาวได้อย่างไร แม้จะยังมีอีกหลายประเด็นให้ต้องขับเคลื่อนต่อ แต่ก็ถือเป็นนิมิตหมายที่ดีในอนาคต
“คนที่ไม่ได้ทำงานด้านนี้อาจมองว่า ที่ผ่านมาไม่มีการเปลี่ยนแปลงเลย แต่มันเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ค่อยๆ แทรกซึมเข้าไปในส่วนต่างๆ โดยเฉพาะการเปลี่ยนแปลงเชิงทัศนคติ ผู้คนยอมรับว่ายังมีหลายสิ่งที่ต้องพัฒนาต่อไป นำไปสู่การทำงานร่วมกันกับหลากหลายองค์กร ก็หวังว่าจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงที่เป็นรูปธรรมแพร่หลายกว่าเดิม”
สิ่งที่อรยาคิดว่าเป็นโอกาสดีต่อประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อกรุงเทพมหานคร คือการที่ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ได้รับตำแหน่งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เพราะไม่เพียงช่วยสร้างขวัญและกำลังใจให้เจ้าหน้าที่หลายคน ให้มองเห็นหนทางว่าสามารถผลักดันให้เกิดความเปลี่ยนแปลงด้านต่างๆ ได้จริง
แต่ยังช่วยให้การทำงานของบิ๊กทรีส์ กับ กทม. เป็นไปอย่างไร้รอยต่อ เพราะไม่ต้องอธิบายให้ทีมผู้ว่าฯ ฟังแล้วว่าบิ๊กทรีส์คือใคร หรืออาชีพรุกขกรคืออะไร เพราะในทีมของ กทม. ก็รวมตัวผู้ที่มีความรู้และทำงานเพื่อสิ่งแวดล้อมไว้อยู่แล้ว
อีกประเด็นที่ผู้ร่วมก่อตั้งบิ๊กทรีส์รู้สึกชื่นใจก็คือ ผู้คนในเมืองใหญ่เกิดความตื่นตัวด้านการอนุรักษ์ต้นไม้เยอะกว่าเดิม อาจเพราะการหาร่มเงาในเมืองยากขึ้นทุกวัน จึงยิ่งเกิดความรู้สึกหวงแหนตัวไม้ใหญ่ จนบางครั้งอาจถือว่าตื่นตัวมากกว่าคนต่างจังหวัดเสียอีก ที่ยังมีความคิดว่าถ้าตัดต้นไม้ เดี๋ยวมันก็เติบโตงอกเงยใหม่ได้เอง ซึ่งไม่ผิดแต่อย่างใด แต่การไม่ตัดทิ้งตั้งแต่แรกอาจดีกว่า
“ต้นไม้โซนร้อนประเทศเราโตเร็ว บางทีไม่ยอมตาย แต่ก็นั่นแหละ มันเป็นเรื่องความเข้าใจไม่เท่ากัน เทียบกับที่อังกฤษ จู่ๆ มีใครไปตัดตามแนวสายไฟฟ้าเหี้ยน รับรองว่าอาจมีคนโทร.เรียกตำรวจมาจับ หรือไม่ก็โดนสังคมประชาทัณฑ์ เราจึงต้องมาทำงานกันเพื่อยกระดับความตื่นตัวให้ประชาชน รวมถึงเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นที่มีหน้าที่ดูแลรับผิดชอบ”
อรยาเชื่อว่า หากสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามเป้าที่วางไว้ คนไทยก็อาจได้เห็นภาพแบบเดียวกับในประเทศอังกฤษ ที่เดินหน้าอย่างจริงจังในการสร้างความร่มรื่นให้เกิดขึ้น
“ถ้าเราดูพระราชพิธีพระบรมศพของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่สอง จะเห็นขบวนพระบรมศพเคลื่อนผ่าน ตลอด 2 ข้างทาง ที่มีต้นไม้ใหญ่เป็นแนวต่อเนื่องกัน มีความเขียวชะอุ่ม เป็นพุ่มสวยงาม แสดงให้เห็นว่าอังกฤษมีมาตรฐานในการดูแลที่ดีมานานมากๆ ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมไม่มีเส้นทางตรงไหนโล้นหรือแห้งแล้งเลย และเป็นสิ่งที่น่าทำให้เกิดขึ้นได้ในสังคมไทย”
วันที่ 26 กันยายน ถึง 2 ตุลาคม 2565 นี้ จะมีงาน SX 2022 มหกรรมความยั่งยืนระดับอาเซียน ที่ศูนย์สิริกิติ์ อรยาเล่าว่า กลุ่มบิ๊กทรีส์จะไปจัดบู๊ธที่งาน เพื่อนำเสนอเรื่องราวที่น่าสนใจเกี่ยวกับการดูแลต้นไม้ใหญ่ พร้อมนำเสนอผ่านมัลติมีเดีย ถ่ายทอดความสำคัญของต้นไม้ใหญ่ต่อชีวิตของคนในเมือง รวมถึงมีภาพสวยๆ ที่ไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน
อีกไฮไลต์สำคัญจะจัดขึ้นในสวนเบญจกิติ ข้างศูนย์สิริกิติ์ อรยาชวนผู้สนใจไปดูต้นไม้ในสวน หัดทำแผนที่ และสำรวจตรวจสุขภาพต้นไม้เบื้องต้น ว่าต้นไหนมีสุขภาพแข็งแรง และต้นไหนต้องการความช่วยเหลือจากหมอต้นไม้อย่างเร่งด่วนบ้าง กิจกรรมเหล่านี้จะจัดขึ้นทั้ง 7 วันที่จัดงาน สามารถไปลงชื่อที่หน้าบู๊ธเพื่อทำกิจกรรมได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
นอกจากนั้น ในวันอังคารที่ 27 กันยายน เวลา 13.00 น. กลุ่มบิ๊กทรีส์จะขึ้นเสวนาในหัวข้อ Bangkok Green Link กับภาคีเครือข่ายที่ช่วยกันผลักดันด้านสิ่งแวดล้อม ไม่ว่าจะเป็น ศูนย์ออกแบบและพัฒนาเมือง (UddC), กลุ่ม วีพาร์ค (we!park), บริษัท บางกอก รูฟท็อป ฟาร์มมิ่ง จำกัด (กิจการเพื่อสังคม) หรือ BRF และบ้านและสวน
งาน SX 2022 จัดโดย 5 องค์กรชั้นนำด้านความยั่งยืนของไทย ได้แก่ บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน), บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ จีซี, บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) หรือ เอสซีจี, บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) และ บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) สามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทางเฟซบุ๊ก https://www.facebook.com/SX.SustainabilityExpo/ และเว็บไซต์ https://sustainabilityexpo.com
ขอบคุณภาพจาก Matichon Online, Facebook: Oraya Sutabutr, Santi Opaspakornkij, Suebsiri Srithanyarat และ BIG Trees
