“คางคกยักษ์” สัตว์เลี้ยงแสนเชื่อง นิสัยดี ดูแลง่าย อายุยืน

คุณไตรศาสตร์ ศรีบุญชู หรือ คุณเฮาส์ วัย 38 ปี เจ้าของฟาร์ม “ศรีบุญชูฟาร์ม” ในพื้นที่ตำบลท่าวังทอง อำเภอเมือง จังหวัดพะเยา ที่นำความชื่นชอบในการเลี้ยงสัตว์ทางเลือกใหม่ (Exotic pets) ตั้งแต่วัยเด็กมาสานต่อเป็นธุรกิจมาจนถึงปัจจุบัน เป็นเวลากว่า 11 ปี ที่เรียนรู้และพัฒนาปรับปรุงพัฒนาสายพันธุ์สัตว์ทางเลือกใหม่ที่มีอยู่ในประเทศไทยให้มีความสวยงามมากขึ้น จนสามารถสร้างรายได้ให้กับตนเองมากกว่าหลักล้านต่อปี

คุณไตรศาสตร์ ศรีบุญชู หรือ คุณเฮาส์

จุดเริ่มต้นของการเลี้ยงสัตว์ทางเลือกใหม่นั้น เกิดขึ้นเมื่อครั้งวัยเด็ก จึงเรียนรู้และพัฒนา ต่อยอดมาตั้งแต่สมัยทำงานประจำอยู่ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เริ่มต้นเพาะพันธุ์สัตว์หลากหลายชนิด ทั้งกบ คางคก และงู จนกระทั่งปี พ.ศ. 2554 เกิดน้ำท่วมครั้งใหญ่ จึงตัดสินใจลาออกจากงานประจำและย้ายถิ่นฐานกลับไปยังบ้านเกิดที่จังหวัดพะเยา และก่อตั้งฟาร์มในพื้นที่ 5 ไร่

“ปี 2554 เกิดน้ำท่วมครั้งใหญ่ ตอนนั้นผมทำงานประจำอยู่ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จึงตัดสินใจลาออกจากงาน และย้ายของและสัตว์กลับบ้านเกิดจังหวัดพะเยา จึงเป็นจุดเริ่มต้นในการทำฟาร์มเพาะพันธุ์สัตว์ทางเลือกใหม่มาจนถึงปัจจุบัน ก็เป็นเวลา 11 ปีแล้วครับ”

ภายในศรีบุญชูฟาร์มนั้น ถือว่าแหล่งเพาะพันธุ์กบสวยงามที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย เช่น กบต้นไม้สีฟ้า/สีเขียว กบยักษ์, กบยิ้ม เป็นต้น และสัตว์อีก 1 ชนิด ถือได้ว่าเป็นไฮไลต์สำคัญของฟาร์มนั้นก็คือ “คางคกยักษ์” ที่มีถิ่นกำเนิดในอเมริกาใต้และแผ่นดินใหญ่ในอเมริกากลาง แต่ได้รับการแนะนำให้รู้จักกับหมู่เกาะต่างๆ ทั่วทั้งโอเชียเนียและแคริบเบียนเช่นกัน เป็นทางตอนเหนือของออสเตรเลีย เป็นคางคกที่ใหญ่ที่สุดในโลก เป็นสมาชิกของสกุล Rhinella ซึ่งรวมถึงคางคกหลายสายพันธุ์ที่พบได้ทั่วอเมริกากลางและเมริกาใต้

สำหรับคางคกยักษ์นั้น เมื่อตัวโตเต็มวัยยาวเฉลี่ย 10-15 เซนติเมตร ตัวอย่างที่ใหญ่ที่สุดที่บันทึกไว้มีความยาวช่องจมูก 24 เซนติเมตร คางคกยักษมีต่อมพิษและลูกอ๊อดมีพิษร้ายแรงต่อสัตว์ส่วนใหญ่ หากกินเข้าไป ผิวหนังที่เป็นพิษสามารถฆ่าสัตว์หลายชนิดได้ทั้งในป่าและสัตว์เลี้ยง ได้รับการแนะนำให้รู้จักกับหลายภูมิภาคในแปซิฟิกและหมู่เกาะแคริบเบียนเพื่อใช้เป็นวิธีการควบคุมศัตรูพืชทางการเกษตร

ในด้านการผสมพันธุ์นั้น จะมีการผสมพันธุ์แบบธรรมชาติ เมื่อตัวผู้และตัวเมียผสมพันธุ์กันเสร็จแล้ว จะแยกออกทันที จากนั้นจะทำการแยกเพื่ออนุบาลลูกคางคกยักษ์ต่อไป

นิสัยดี เชื่อง อายุยืน
คางคกยักษ์ตัวใหญ่
แววตากลมโต

วิธีการเลี้ยงดูคางคกยักษ์นั้นไม่ได้ยากอย่างที่คิด โดยมีวิธีการดังนี้

1. ควรให้อยู่ในอุณหภูมิ 25-35 องศา สำหรับลูกคางคกเล็กกรงไม่ควรแห้งเกินไป ควรมีถ้วยน้ำและเปลี่ยนน้ำทุกวัน

2. น้ำที่ใช้ต้องไม่มีคลอรีน และต้องไม่ใช่น้ำบาดาล

3. ให้อาหารทุกวัน

4. ควรล้างมือก่อนสัมผัสคางคกยักษ์ด้วยน้ำเปล่าเท่านั้น หรือใส่ถุงมืออนามัย

วัสดุปูพื้นสำหรับเลี้ยง

1. จัดสถานที่เลี้ยงให้มีพื้นที่แห้ง เช่น บกเทียมเพื่อให้คางคกยักษ์ได้พักผิว

2. ทรายละเอียด 50% ขุยมะพร้าว 50% พรมน้ำให้พอชื้น ทำความสะอาด

ในด้านของอาหาร คางคกยักษ์ชอบกินแมลง หนูแช่แข็ง ไม่ชอบกินปลาหรืออาหารสำเร็จรูป และควรให้อาหารผสมกับวิตามินและแคลเชียม อย่างน้อยสัปดาห์ละ 2 วัน

ด้านวิธีป้องกันการป่วยนั้น คุณเฮาส์ แนะนำว่า ควรเปลี่ยนน้ำที่เลี้ยงทุกวัน ควรให้ว่ายน้ำอย่างน้อย 3-4 ครั้งต่อสัปดาห์ และสามารถเลี้ยงให้โดนแสงแดดได้ หากป่วยลำตัวจะมีสีผิวที่คล้ำดำและจะนอนนิ่ง ไม่เคลื่อนย้ายตัว สามารถรักษาอาการเบื้องต้นได้ด้วยการแยกตัวคางคกยักษ์ออก หากเลี้ยงมากกว่า 1 ตัว จากนั้นลดอาหารที่ให้กิน ควรทำความสะอาดภาชนะทุกวัน และควรแช่ยา Enrofloxacin 30-50 มิลลิกรัม ดูดตัวยา 0.3-0.5 ซีซี ละลายน้ำเปล่า 10 ลิตร และแบ่งตัวยาที่ละลายมาแช่คางคกพอท่วมท้อง ไม่ควรท่วมตัว แช่ประมาณ 6-8 ชั่วโมงต่อวัน นาน 7-10 วัน และพักคางคกยักษ์ไว้ในที่พัก จะดีขึ้นตามอาการ หากไม่ดีขึ้นควรนำไปพบสัตวแพทย์เพื่อหาสาเหตุอีกครั้ง

เมื่อสอบถามถึงความต้องการทางด้านตลาด คุณเฮาส์ เล่าว่า ได้รับความสนใจจากลูกค้าทั้งในและนอกประเทศ แต่ส่วนมากจะมีการซื้อขายในกลุ่มลูกค้าโซนประเทศยุโรปและเอเชีย ถือว่าคางคกยักษ์ได้รับความนิยมเท่าที่ควร เพราะเนื่องด้วยนิสัยที่น่ารัก เชื่อง และอายุยืน เฉลี่ยตัวเมียจะมีอายุราวๆ เกือบ 20 ปี ตัวผู้จะมีอายุที่สั้นกว่าอยู่ที่ 7-10 ปี จึงเป็นทางเลือกสัตว์ใหม่ของใครหลายๆ คน อีกทั้งทางฟาร์มได้รับใบรับรองมาตรฐานการจัดการฟาร์มเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำสวยงาม และทะเบียนสถานประกอบการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำเพื่อการส่งออกจากกรมประมง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีมาตรฐานระดับสากล ปลอดภัย และรวดเร็ว ลูกค้าจึงมั่นใจในของมาตรฐานอย่างแน่นอน

บรรยากาศภายในฟาร์ม

เมื่อสอบถามถึงราคานั้น สามารถเริ่มขายได้ตั้งแต่เป็นลูกอ๊อด ราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 100 บาท จนถึง 5,000 บาท ราคาจะแตกต่างตามขนาด

 

ขนาดความใหญ่

สำหรับท่านใดที่สนใจสามารถติดต่อ คุณไตรศาสตร์ ศรีบุญชู หรือ คุณเฮาส์ ได้ที่ “ศรีบุญชูฟาร์ม” ในพื้นที่ตำบลท่าวังทอง อำเภอเมือง จังหวัดพะเยา หรือเบอร์โทรศัพท์ 087-825-6464

…………….

เผยแพร่ในระบบออนไลน์เป็นครั้งแรก เมื่อวันศุกร์ที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565