ผู้ส่งออกกระอัก! แรงงานขนข้าว กลัวโทษพ.ร.ก. เผ่นกลับบ้านกว่า 30%

นายเจริญ เหล่าธรรมทัศน์ นายกสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย เปิดเผยว่า ช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมาไทยเป็นแชมป์การส่งออกข้าวของโลก โดยสามารถส่งออกข้าวได้รวม กว่า 5.5 แสนตัน เพิ่มขึ้น 15.6% จากช่วงเดียวกันปีก่อน เนื่องจากตลาดยังมีความต้องการข้าว และเชื่อว่าครึ่งหลังของปีการส่งออกข้าวจะดีขึ้น และน่าจะได้ถึง 10 ล้านตันตามเป้าหมาย เนื่องจากรัฐบาลยังมีสัญญาการขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐกับจีน อีกกว่า 6 แสนตัน และประเทศต่างๆ ทั้งฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย ตลอดจน อิรัก บังคลาเทศ และศรีลังกา มีความต้องการนำเข้าข้าวจากไทย

ส่วนราคาข้าวขณะนี้ปรับเพิ่มสูงขึ้น กว่า 20% หลังจากที่รัฐได้ระบายข้าวเพื่อการบริโภคของคนในสต๊อกรัฐบาลกว่า 14 ล้านตันได้หมด และทำให้ไทยสามารถผ่านพ้นวิกฤตข้าวตกต่ำ ซึ่งทำให้ขณะนี้ตลาดข้าวกลับเข้าสู่ภาวะปกติ และเคลื่อนไหวเป็นไปตามกลไกตลาด ขณะที่ราคาข้าวกลับเข้าสู่ภาวะปกติ โดยขณะนี้ราคาข้าวไทยอยู่ที่ 430 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน จากก่อนหน้าที่อยู่ที่ 360-360 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน ส่วนราคาข้าวเปลือกเจ้า อยู่ที่ 8,500-9,000 บาทต่อตัน และทำให้ราคาข้าวสารขาวในประเทศ เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ตันละ 12,500-13,000 บาทต่อตัน

ด้านนายชูเกียรติ โอภาสวงศ์ นายกกิตติมศักดิ์ สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย กล่าวว่า ขณะนี้การส่งออกข้าวของไทยมีทิศทางที่ดีขึ้น และการที่ศาลปกครองกลางมีคำสั่งระงับไม่ให้ กรมการค้าต่างประเทศเปิดประมูลข้าวในกลุ่มเพื่ออุตสาหกรรมที่ไม่ใช่เพื่อการบริโภคของคนและสัตว์ กว่า 5 แสนตันนั้น ไม่มีผลกระทบต่อตลาด และการส่งออกข้าวของไทย เพราะเป็นข้าวเพื่ออุตสาหกรรมพลังงาน และการชะลอประมูลข้าวกลุ่มดังกล่าวไม่ได้ส่งผลต่อความต้องการข้าวเพื่อการบริโภคให้เพิ่มขึ้น

แต่ปัญหาใหญ่ที่มีผลต่อการส่งออกข้าวในขณะนี้ คือเรื่องการบังคับใช้ พ.ร.ก.การบริหารจัดการการทำงานแรงงานต่างด้าว พ.ศ. 2560 เนื่องจากทำให้การขนส่งข้าวล่าช้าออกไป จากเดิมที่ใช้เวลา 7-10 วัน ขณะนี้ต้องใช้เวลาในการขนส่งข้าวเป็น 30 วัน เพราะไม่มีแรงงานมาขนข้าว เนื่องจากต่างหนีกลับประเทศ เพราะกังวลความผิด และโทษค่าปรับที่สูง ซึ่งขณะนี้แรงงานหายไปแล้วกว่า 30% ของจำนวนแรงงานที่ขนส่งข้าว ทำให้ผู้ส่งออกลังเลที่จะรับคำสั่งซื้อข้าว เพราะกังวลว่าจะส่งมอบไม่ทัน และส่งผลกดดันให้ราคาข้าวอาจจะลดลงในที่สุด จึงอยากให้รัฐบาลเร่งหาแนวทางในการแก้ปัญหาเรื่องดังกล่าวด้วย

นางดวงพร รอดพยาธิ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ (คต.) กล่าวถึงสถานการณ์ข้าวไทยในตลาดโลกในช่วงครึ่งปีหลังว่า หลายประเทศต้องการนำเข้าข้าวไทยจำนวนมากรวมไม่ต่ำกว่า 5 แสนตัน โดยขณะนี้รัฐสภาของฟิลิปปินส์ ผ่านการเห็นชอบเงื่อนไขการประมูลข้าวเป็นการทั่วไปในวันที่ 25 ก.ค.นี้ โดยบังคลาเทศ จะส่งคณะผู้แทนมาเจรจาซื้อขายข้าวกับไทยโดยมีความต้องการข้าวนึ่งและอื่นๆ กว่า 2 แสนตัน และคาดว่าหากแล้วเสร็จจะมีการส่งมอบข้าวในช่วงเดือนต.ค.ซึ่งจะรองรับกับผลผลิตข้าวฤดูใหม่จะออกมาในช่วงปลายปีนี้

ส่วนประเทศศรีลังกา ต้องการข้าวนึ่งจากประเทศไทยเช่นกันกว่า 2 แสนตัน เนื่องจากผลผลผลิตในประเทศออกมาน้อยเพราะประสบปัญหาภัยธรรมชาติ มีความต้องการข้าวเพื่อการบริโภคและความมั่นคงในประเทศ จึงต้องมีการนำเข้าเพิ่มจากไทย ส่วนประเทศอิรัก ขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจาเพื่อนำเข้าข้าวจากไทย

 

ที่มา : ข่าวสดออนไลน์

Advertisement