เผยแพร่ |
---|
กนง.เอกฉันท์คงดอกเบี้ย 1.50% ต่อปี กระตุ้นเศรษฐกิจ ปรับคาดการณ์เศรษฐกิจปีนี้โต 3.5% ตามทิศทางส่งออกที่คาดขยายตัวได้ถึง 5% ส่วนลงทุนเอกชนยังหดตัว ระบุเป็นปัจจัยที่เกิดขึ้นทั่วโลก
นายจาตุรงค์ จันทรังษ์ เลขานุการคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) เปิดเผยว่า ที่ประชุม กนง.มีมติเป็นเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1.50% ต่อปี ขณะเดียวกันได้ปรับประมาณการขยายตัวเศรษฐกิจไทย ในปี 2560 เพิ่มขึ้นจาก 3.4% มาอยู่ที่ 3.5% และปี 2561 จาก 3.6% เป็น 3.7% ขณะที่การส่งออกในปี 2560 ปรับเพิ่มขึ้นเป็น 5% จากเดิม 2.2% และปี 2561 ปรับลดลงเหลือ 1.7% จากคาดการณ์เดิมที่ 2% เนื่องจากปี 2560 ได้ปัจจัยย้ายฐานการผลิตในบางอุตสาหกรรม เช่น ล้อยาง และอุตสาหกรรมที่ได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลดลง
เศรษฐกิจไทยในภาพรวมมีแนวโน้มขยายตัวชัดเจนต่อเนื่องจากการส่งออกสินค้าที่ขยายตัวมากขึ้นในหลายกลุ่มสินค้า และตลาดส่งออก ขณะที่การนำเข้าในปี 2560 ขยายตัวได้ 10.9% จากเดิม 7.2% ทำให้การขยายตัวเศรษฐกิจปรับเพิ่มขึ้นไม่มากนัก ส่วนปี 2561 คาดว่าการนำเข้าจะขยายตัว 5.4% ส่วนการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวได้เร็วมีจำนวนมาก นักท่องเที่ยวต่างประเทศ ปี 2560 ที่ 34.9 ล้านคน และปี 2561 ที่ 37.3 ล้านคน ด้านอัตราเงินเฟ้อทั่วไปอยู่ที่ 0.8%
ส่วนการบริโภคภาคเอกชนมีแนวโน้มขยายตัวตามรายได้ภาคเกษตรที่ปรับดีขึ้น แต่รายได้ของแรงงานในภาคการผลิตยังไม่ได้รับผลดีอย่างชัดเจน จากการส่งออกที่ปรับดีขึ้นส่งผลให้กำลังซื้อโดยรวมเข้มแข็งนัก การใช้จ่ายของภาครัฐยังเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญของเศรษฐกิจ ขณะที่การลงทุนภาคเอกชนมีแนวโน้มฟื้นตัวอย่างช้าๆ โดยปรับลดลงเหลือ 1.7% จากเดิม 2.4% ซึ่งการลงทุนภาคเอกชนที่ชะลอตัวลงเป็นปัจจัยที่เกิดขึ้นทั่วโลก ไม่ใช่แค่ไทย เป็นการปรับโครงสร้างการผลิต และหันไปลงทุนในด้านบริการมากขึ้นมากกว่าการลงทุนด้านการผลิต
นายจาตุรงค์ กล่าวว่า แนวโน้มการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยยังต้องระมัดระวังปัจจัยเสี่ยงจากต่างประเทศ โดยเฉพาะความต่อเนื่องของการขยายตัวของเศรษฐกิจประเทศคู่ค้า ความไม่แน่นอนของนโยบายเศรษฐกิจและการค้าของสหรัฐรวมถึงนโยบายการเงินของประเทศอุตสาหกรรมหลัก การปรับโครงสร้างเศรษฐกิจจีน และความเสี่ยงจจากภูมิรัฐศาสตร์โลก นอกจากนี้ คณะกรรมการขอให้ติดตามผลกระทบจากสถานการณ์แรงงานต่างด้าวอย่างใกล้ชิด
สำหรับภาวะการเงินอยู่ในระดับผ่อนคลายและเอื้อต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจ สภาพคล่องในระบบการเงินอยู่ในระดับสูง อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลและอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงอยู่ในระดับต่ำ ภาคธุรกิจสามารถระดมทุนได้เพิ่มขึ้น ทั้งจากสินเชื่อสถาบันการเงินและตลาดทุน
ขอบคุณข้อมูลจากข่าวสด