ที่มา | สัตว์เลี้ยงสวยงาม |
---|---|
ผู้เขียน | วิภาวรรณ เพ็ชรศรี |
เผยแพร่ |
พนักงานหนุ่มออฟฟิศ ที่นำความชอบและแรงบันดาลใจจากการเลี้ยงสัตว์ต่อยอดสู่การทำฟาร์มหนูแก๊สบี้ จนกลายเป็นธุรกิจเสริมสร้างรายได้อีกหนึ่งช่องทางให้กับครอบครัว มานานกว่า 9 ปี รวมถึงมีการเพาะพันธุ์หนูแก๊สบี้เพื่อส่งเข้าประกวด ได้รับรางวัลการันตีจำนวนมาก จนเป็นที่รู้จักในวงการของหนูแก๊สบี้มาจนถึงปัจจุบัน
หนูแก๊สบี้ เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมประเภทฟันแทะชนิดหนึ่ง มีถิ่นกำเนิดมาจากทวีปแอฟริกาใต้ แถบประเทศเปรู เป็นสัตว์เลี้ยงที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในประเทศไทยเช่นเดียวกันกับ คุณจิรัฏฐ์ รุ่งอมรศิลป์ หรือ คุณปุ๊ วัย 42 ปี เจ้าของฟาร์ม “หนูแกสบี้ home56” ในพื้นที่ซอยรามอินทรา 99 ถนนรามอินทรา แขวงคันนายาว เขตคันนายาว กรุงเทพมหานคร
“จริงๆ ผมเป็นคนชอบเลี้ยงสัตว์ เลี้ยงสุนัขและแมวเป็นเรื่องปกติครับ ส่วนหนูแก๊สบี้นั้น ผมได้ไปเจอที่ตลาดนัดจตุจักร ซึ่งในช่วงนั้นสายพันธุ์นี้เพิ่งนำเข้ามาใหม่ จึงไปเจอพอดี ผมรู้สึกว่าเขาน่ารักและแปลกใหม่ จึงตัดสินซื้อมาเลี้ยงเล่นๆ โดยที่ยังไม่คิดอะไร 3 ตัว เลี้ยงไปเลี้ยงมาเขามีลูก 3 ตัว ผมจึงลงขายในกลุ่มฟาร์มครับ ก็มีคนมาซื้อไป ผมก็เห็นโอกาสตรงนี้ว่าสามารถทำเป็นรายได้เสริมได้ ก็เริ่มทดลองทำครับ ก็เมื่อประมาณ 8-9 ปีที่แล้วครับ จนตอนนี้ที่ฟาร์มมีหนู แก๊สบี้ทั้งหมด 300 กว่าตัวแล้วครับ”
ในด้านการเพาะพันธุ์หนูแก๊สบี้ภายในฟาร์มของคุณปุ๊นั้น จะมีการจัดทำห้องขึ้น เพื่อเป็นสถานที่สำหรับการผสมพันธุ์ ซึ่งจะมีตัวผู้ 1 ตัว และตัวเมีย 2-3 ตัว ทุกครั้งของการผสมพันธุ์คุณปุ๊จะต้องดูในเรื่องของสีและลักษณะ เพื่อให้เกิดการผสมพันธุ์ที่ลงตัวและตรงต่อความต้องการของตลาดและลูกค้ามากที่สุด เมื่อผสมพันธุ์ติดแล้ว สามารถสังเกตได้ที่บริเวณท้องของตัวเมีย ซึ่งจะมีการขยายออก จากนั้นจะแยกตัวเมียออกมาอยู่ต่างหากจนคลอดลูกน้อยออกมา โดยจะมีอายุการตั้งท้องอยู่ที่ 60-65 วัน ให้ลูกครั้งละเฉลี่ย 2-4 ตัว
“การเพาะพันธุ์ของที่ฟาร์มเนื่องจากพื้นที่ค่อนข้างจำกัด เราจะทำห้องขึ้นมา อย่างของที่ฟาร์มก็จะเป็นตัวผู้ 1 ตัว ตัวเมีย 2-3 ตัวครับ โดยตัวเมียที่ฟาร์มจะเริ่มผสมพันธุ์เมื่อมีอายุ 6 เดือนขึ้นไปครับ จากนั้นเราก็มาดูคู่ที่เหมาะสมกับเขา ซึ่งเราต้องคิดก่อนว่าเราอยากได้ลูกหนูแก๊สบี้ สีประมาณไหน ลักษณะประมาณไหน ผมก็จะคัดตัวที่จะสามารถเข้ากันได้ นำตัวเมียไปใส่ในกรงตัวผู้ เราจะใส่จนกว่าเขาจะตั้งท้อง โดยสามารถสังเกตได้ที่ช่วงท้องของตัวเมียจะขยายออก จากนั้นก็จะทำการแยกตัวเมียออกมาให้อยู่เดี่ยว โดยหนูแก๊สบี้จะมีอายุการตั้งท้องอยู่ที่ 60-65 วัน เฉลี่ย 2-4 ตัวครับ เมื่อลูกเขาโตก็สามารถกินอาหารและใช้ชีวิตตามแม่เขาได้เลยครับ จนถึงอายุ 1 เดือน ซึ่งเป็นอายุที่สามารถเริ่มขายและย้ายบ้านได้แล้วครับ”
วิธีการเลี้ยงหนูแก๊สบี้นั้น ไม่มีขั้นตอนที่ซับซ้อน เพียงมีพื้นที่ที่กว้างของกรงที่เพียงพอ เพื่อใช้พื้นที่ในการวิ่งหรือเดินได้ เพื่อไม่ให้เกิดความตึงเครียด พื้นที่ที่เลี้ยงควรอยู่ในสถานที่ที่มีอากาศถ่ายเทได้สะดวก พยายามรักษาสภาพอากาศเพื่อไม่ให้ร้อนหรือชื้นจนมากเกินไป ซึ่งอาจจะนำไปสู่การเป็นโรคฮีตสโตรกและโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ
“การดูแลไม่ยากครับ เพราะเขาไม่ต้องใช้พื้นที่กว้างมากครับ และเขาไม่ต้องมีเครื่องเล่น แต่พื้นที่ภายในฟาร์มจะอยู่ที่ 70×50 เซนติเมตรครับ ก็จะเป็นกรงคอนโดฯ แบบสั่งทำครับในฟาร์ม เราก็จะเลี้ยงตัวผู้ 1 ตัว ตัวเมีย 2-3 ตัว แบบนี้ครับ ก็คือจะอยู่รวมกัน โรคที่มักจะเจอบ่อยคือ โรคฮีตสโตรก ซึ่งเป็นโรคที่เกิดจากอากาศที่ร้อนมาก โดนแดด เพราะหากเป็นแล้ว สัตว์เลี้ยงสามารถเสียชีวิตได้ หากอากาศร้อนหรืออบอ้าวเกินไป ร่างกายของเขาทนไม่ไหวครับ ต่อมาโรคทั่วไปที่พบคือโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจครับ เราต้องพยายามรักษาอากาศให้คงที่ ไม่ร้อนหรือชื้นจนเกินไปครับ แบบนี้ก็พอจะช่วยได้และก็เสริมวิตามินซีครับ”
สำหรับอาหารภายในฟาร์มจะใช้เป็นอาหารเม็ดสำหรับเลี้ยงหนูแก๊สบี้เท่านั้น และหญ้า แห้งอัลฟาฟ่าและหญ้าแห้งทิโมธี จะแบ่งการให้อาหารออกเป็น 2 มื้อ คือช่วงเช้าจะให้อาหารเม็ดพร้อมหญ้าแห้ง ช่วงเย็นจะให้เพียงหญ้าแห้งเท่านั้น รวมถึงจะมีการให้กินหญ้าขนสด เพื่อเสริมสร้างในเรื่องของอาหาร สัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง
คุณปุ๊ เล่าว่า ภายในฟาร์มนั้น นอกจากการเพาะเลี้ยงเพื่อส่งขายแล้วนั้น ยังมีการเพาะเลี้ยงเพื่อส่งหนูแก๊สบี้ประกวดเพื่อชิงรางวัลต่างๆ ซึ่งหนูแก๊สบี้ต้องมีลักษณะโครงสร้างและสีที่ดี เพราะการประกวดนั้น จะเป็นการสร้างชื่อเสียงให้กับฟาร์มเพาะพันธุ์ เนื่องจากจะมีชาวต่างชาติและลูกค้าชาวไทยที่เข้ามาชมการประกวดในแต่ละครั้ง ซึ่งที่ผ่านมาทางฟาร์มเคยได้รับรางวัลต่างๆ มากมาย เช่น รางวัล BEST IN SHOW ที่ 1 ของประเทศไทย เป็นต้น
“ในการประกวด ฟาร์มของเราก็จะพยายามที่จะทำหนูแก๊สบี้ที่ตัวเองบรีดขึ้นมาเอง ในลักษณะที่เราตั้งเป้าหมายไว้ เหมือนเป็นจุดขายที่ค่อนข้างจะชัดเจน เพราะหนูแก๊สบี้ที่ฟาร์ม เราพยายามที่จะบรีดหนูแก๊สบี้ที่มีหน้าตาน่ารัก มีโครงสร้างและสามารถลงประกวดในสนามได้ครับ”
ราคาขายของหนูแก๊สบี้ เริ่มต้นที่ตัวละ 2,500 บาทขึ้นไป ราคาจะขึ้นอยู่กับความแตกต่างของลักษณะโครงสร้าง สีขน และความสวยของหนูแก๊สบี้นั่นเอง ซึ่งกลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นคนไทย อาศัยตามคอนโดฯ อพาร์ตเมนต์ต่างๆ ที่มีความชื่นชอบหนูแก๊สบี้ รวมถึงมีการส่งออกไปยังกลุ่มลูกค้าต่างประเทศ เช่น จีน มาเลเซีย เวียดนาม เป็นต้น
เมื่อสอบถามไปยังรายได้ คุณปุ๊ เล่าว่า อยู่ในเกณฑ์ที่น่าพึงพอใจ สามารถเป็นอาชีพเสริมที่เลี้ยงดูครอบครัวได้เป็นอย่างดี
คำแนะนำสำหรับมือใหม่ที่อยากเลี้ยงหนูแก๊สบี้ คุณปุ๊ แนะนำว่า ถ้าหากจะซื้อต้องดูจุดประสงค์ก่อนว่าต้องการซื้อเพราะอะไร หาข้อมูลการเลี้ยงและรายละเอียดอย่างจริงจัง รวมถึงความรับผิดชอบในการเลี้ยงดู ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญเป็นอย่างมากในการเลี้ยงสัตว์ทุกชนิด
สำหรับท่านใดที่สนใจ สามารถติดต่อ คุณจิรัฏฐ์ รุ่งอมรศิลป์ หรือ คุณปุ๊ ได้ทางแฟนเพจเฟซบุ๊ก “หนูแกสบี้ home56” และเบอร์โทรศัพท์ 088-909-4656
เผยแพร่ออนไลน์ครั้งแรกเมื่อ 19 พฤศจิกายน 2565
🐶🐱 𝐏𝐞𝐭 𝐇𝐞𝐚𝐥𝐭𝐡𝐜𝐚𝐫𝐞 𝟐𝟎𝟐𝟒 มหกรรมสุขภาพสัตว์เลี้ยงครั้งแรกในประเทศไทย
ภายในงานพบกับ
🩺บริการตรวจสุขภาพสัตว์เลี้ยงเบื้องต้นฟรี!
👨⚕️เวทีเสวนาสุขภาพสัตว์เลี้ยงที่ดีที่สุดกับกูรูระดับประเทศ
🎨เวิร์กช็อปเรียนรู้อัปสกิลทำความรู้จักเพื่อนซี้สี่ขา
🛍️ช้อปปิ้งผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพสำหรับสัตว์เลี้ยง
🎉ร่วมบริจาคผ่านกิจกรรมต่างๆ ภายในงานให้กับองค์กรการกุศลที่ช่วยเหลือสัตว์
และเอ็กซ์คลูซีฟสุดๆ กับเหล่าเซเลบเจ้าของสัตว์เลี้ยงสุดน่ารัก บูม จากเพจ เทย กะ ทะ, เก๋ ชลลดา, ดุ๊ก ภาณุเดช และ ไอซ์ ภาณุวัฒน์ ที่มาร่วมพูดคุยเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงของตนเอง และไฮไลต์พิเศษ พบกับบารอล บลูกาโน่ แมวเซเลบฯ ที่โด่งดังบนโลกออนไลน์
🐶🐱 อย่าลืมปักหมุดมาพบกันในงาน 𝐏𝐞𝐭 𝐇𝐞𝐚𝐥𝐭𝐡𝐜𝐚𝐫𝐞 𝟐𝟎𝟐𝟒
📆 28-31 มีนาคม 2567
⏰ 10.00-20.00 น.
📍 MCC HALL ชั้น 3 เดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ บางกะปิ