“เกษตรสุขกลางกรุง ณ.ทุ่งบางเขน” ปลูกผักอินทรีย์ปลอดภัยในกรุง

การปลูกผักในเมืองแบบอินทรีย์ไม่ใช่เรื่องใหม่หรือแปลก แต่สำหรับเมืองใหญ่อย่างกรุงเทพฯ หากคิดจะปลูกผักอินทรีย์เป็นแปลงดูจะเป็นความท้าทายต่อปัจจัยที่ไม่เอื้อต่อความปลอดภัยและเจออุปสรรคหลายอย่าง ไม่ว่าจะเรื่องมลพิษทางอากาศ น้ำ ดิน หรือแสงแดด

การเผชิญกับอันตรายรอบด้านจะทำให้ผักที่ปลูกปลอดภัยได้อย่างไร จะไม่ยิ่งซ้ำเติมไปอีกหรือ? สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นคำถามจากผู้ที่กำลังตัดสินใจหันมาทานผักที่ปลูกในเมืองแบบที่เรียกว่าปลอดภัย จึงมีคำถามว่า ผักที่ปลูกในเมืองปลอดภัยจริงหรือ

คุณแอน พรมศักดิ์ และแฟน

ความจริงแล้วมีหลายวิธี หลายทฤษฎีเพื่อทำให้ผักเหล่านั้นปลอดภัยได้ สิ่งสำคัญที่สุดอยู่ที่ว่าคนปลูกผักใส่ใจกับวิธีและกระบวนการอย่างจริงจังมากเท่าไรหรือเพียงแค่สร้างภาพ

การเข้าถึงแหล่งอาหารที่มั่นใจว่าปลอดภัยคือการลงมือปลูกเอง ดูแลเอง อย่างการทำสวนครัว ปลูกพริก มะเขือ หรือผักแบบง่ายๆ ใส่กระถางหรือภาชนะที่หาได้ง่ายสำหรับผู้ที่มีพื้นที่ในบ้านน้อย วิธีนี้เหมาะมากเวลาขัดสนกะทันหัน แต่ถ้าต้องปรุงอาหารในปริมาณมากเห็นจะหนีไม่พ้นตลาดสดแถวบ้านหรือตามซูเปอร์มาร์เก็ต

น้ำผักปั่นจากผักที่ปลอดภัย

อยากจะพาไปรู้จักกับแหล่งปลูกผักอินทรีย์กลางกรุงแห่งหนึ่งย่านบางเขน ทำเลที่คนกรุงเทพฯ รู้กันดีว่ามีความวุ่นวายทั้งเรื่องผู้คนพักอาศัย สถานที่ทำงาน การจราจรแออัด แต่ไฉน สวนผักอินทรีย์แห่งนี้จึงสามารถปลูกผักที่ปลอดภัยได้

บรรจุผักใส่ถุงขาย

“เกษตรสุขกลางกรุง ณ.ทุ่งบางเขน” แปลงปลูกผักที่เจ้าของคือ คุณแอน พรมศักดิ์ ใส่ใจเรื่องความปลอดภัยในทุกกระบวนการผลิต เพราะปลูกไว้ทานเน้นพึ่งพาตนเอง สร้างความมั่นคงทางอาหารด้วยแนวทางเกษตรอินทรีย์ แล้วอยากส่งต่อความปลอดภัยนี้ให้กับผู้ที่สนใจจึงต่อยอดด้วยการปลูกผักใบเมืองหนาวหลายชนิดขาย

ผักที่ปลูกด้วยปุ๋ยธรรมชาติมีขนาดใหญ่ สมบูรณ์ และปลอดภัย

การเข้าสู่วงการปลูกผักปลอดภัยแนวอินทรีย์ของคุณแอนเริ่มต้นที่การเจ็บป่วยของเธอจนต้องไปหาหมอตรวจพบว่ามีขาประจำมาเยือนร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นความดันสูง ไขมัน หรือน้ำตาลในเลือด ต้องเข้ากระบวนการรักษาด้วยการทานยา แต่คุณแอนปฏิเสธวิธีการรักษาที่หมอแนะนำและขอดูแลตัวเองโดยไม่พึ่งยา

คุณแอนปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวันด้วยการปรุงอาหารทานเอง เน้นผัก ผลไม้ และปั่นน้ำผักดื่ม อย่างไรก็ตาม ผักที่นำมาใช้หากซื้อจากตลาดเกรงว่าจะไม่ปลอดภัยจึงหันมาปลูกผักเองเพื่อนำมาปรุงอาหารหรือทานสด แล้วยังปั่นดื่มด้วย และนั่นถือเป็นจุดเริ่มต้นของการทำสวนผักแห่งนี้

สวนเกษตรอินทรีย์ที่เติมความสุขให้ชีวิต

ข้อจำกัดเรื่องพื้นที่ทำให้ต้องปลูกผักใส่ในกระถางตั้งไว้หน้าบ้านที่เป็นทาวน์เฮ้าส์เท่านั้น ปลูกหลายอย่างจนเต็มพื้นที่และคิดอยากจะขยายแต่ทำไม่ได้กระทั่งมาเจอที่ดินผืนปัจจุบันนี้ที่มีบริเวณกว้างเห็นว่าเหมาะและถูกใจมากจึงขอเช่าแล้วมาปลูกเป็นกระท่อมพักอาศัยขนาดเล็ก เน้นใช้ชีวิตแบบสมถะเพราะถือเป็น “โซนเติมสุข” ให้กับครอบครัวโดยปลูกผักสวนครัวบริเวณด้านหน้ากระท่อม อย่างถั่ว แตงกวา มะเขือ ฯลฯ แต่ละชนิดจำนวนไม่กี่ต้นตามความเหมาะสมและขนาดของพื้นที่เพราะเน้นบริโภคเอง

คณะที่เข้ามาอบรม

การได้พื้นที่มาเพิ่มแล้วขยายจำนวนผักที่ปลูกดูเหมือนง่าย แต่แท้จริงกลับไม่เป็นเช่นนั้น เพราะมีปัญหาในทางปฏิบัติมากมาย ด้วยเหตุนี้จึงทำให้คุณแอนเสาะหาความรู้และข้อมูลการปลูกผักอินทรีย์อย่างถูกวิธี ทั้งในเรื่องการปรุงดิน การทำปุ๋ยหมัก น้ำหมัก รวมถึงการสร้างระบบนิเวศให้มีความสมบูรณ์ จนในที่สุดพบว่าสามารถปลูกผักปลอดสารโดยใช้ทฤษฎีเกษตรแบบอินทรีย์ได้ การประสบความสำเร็จทำให้คุณแอนใช้แนวทางเดียวกันปลูกผักใบเมืองหนาวหรือผักสลัด ไม่ว่าจะเป็นกรีนคอส เบบี้คอส เรดโอ๊ค กรีนโอ๊ค บัตเตอร์เฮด และฟินเล่ย์ เพื่อขายให้กับคนที่สนใจบริโภคผักอินทรีย์

โรคราใบจุดที่ต้องกำจัดทันที

พื้นที่จำนวน 3 งานจัดเป็นโซนปลูกผัก 2 โซน คือปลูกในบริเวณที่พักอาศัยเป็นผักสวนครัวและผักอื่น และโซนที่สอง เป็นแปลงผักสลัดสำหรับไว้ขาย บริเวณโดยรอบขุดเป็นร่องคูล้อมรอบสวนผัก เพื่อใช้น้ำสำหรับรดผัก เลี้ยงปลา อย่างปลานิล ปลาหมอ ปลาแรด ปลูกบัวเพื่อบำบัดน้ำ เลี้ยงเป็ด ไก่ไว้ทานไข่ จุดประสงค์ของกิจกรรมเหล่านี้เพื่อสร้างระบบนิเวศให้มีความสมดุล

อบรมการทำน้ำหมัก

คุณแอน บอกว่า การปลูกผักสลัดแบบโรงเรือนยกพื้นเล็กน้อย โครงสร้างโรงเรือนใช้วัสดุง่ายๆ ที่หาได้ในพื้นที่ ไม่จำเป็นต้องลงทุนมากมาย โรงเรือนแต่ละหลังมีขนาดไม่เท่ากันขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของการจัดวาง โดยจัดระบบวางแผนปลูกผักที่คนกรุงนิยมทานเพื่อสนับสนุนให้คนทานผักกันมากขึ้น บริหารจัดการปลูกโดยสลับเปลี่ยนชนิดผักในทุกสัปดาห์ พร้อมกับหยุดปลูกแปลงเดิมเพื่อพักหน้าดิน

ต้นพันธุ์ที่เริ่มงอกและบางส่วนเตรียมย้ายปลูกในโรงเรือนจริง

ขั้นตอนและกระบวนการปลูกผัดสลัดอินทรีย์เริ่มจากเพาะต้นกล้าในถาดก่อน ใช้เวลาเพาะต้นกล้าประมาณ 18-20 วัน จึงย้ายลงปลูกในโรงเรือน ระยะปลูก 18-20 เซนติเมตร ใช้ดินปลูกที่ปรุงเองจากวัสดุปลูกตามธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นแกลบ ขุยมะพร้าว มูลวัว และหน้าดิน ให้หมักร่วมกันไม่น้อยกว่า 30 วัน ผลดีของการใช้ปุ๋ยหมักและน้ำหมัก จะช่วยทำให้ผักมีคุณภาพดี แข็งแรง ทนทานต่อโรค ใบใหญ่และหนา มีรสหวานไม่ขม มีอายุเก็บได้เพิ่มขึ้น

อบรมการทำปุ๋ยอินทรีย์

นอกจากหมักปุ๋ยเองแล้ว ยังทำน้ำหมักจากปลาและนม กับปุ๋ยหมักด้วย รดน้ำ 1-2 รอบต่อวัน แต่ถ้ามีอากาศร้อนอาจเพิ่มรอบ น้ำที่ใช้เป็นน้ำฝนจากบ่อที่ขุด และไม่มีน้ำเสียจากแหล่งอื่นไหลมาปน เป็นระบบสปริงเกลอร์และสายยาง รวมเวลาปลูกตั้งแต่เพาะต้นกล้ากระทั่งเก็บผลผลิตใช้เวลาประมาณ 45-50 วัน

ผักที่ปลูกรอบกระท่อมมีความสมบูรณ์ดีมาก

คุณแอน มองว่า แม้จะปลูกผักในเมืองหลวงที่เต็มไปด้วยน้ำเสีย ฝุ่นละอองเป็นพิษ แต่สวนผักของเธอมีความปลอดภัยเพราะให้ความสำคัญกับการปลูกแบบอินทรีย์ด้วยการใช้ดินจากส่วนผสมของธรรมชาติ รดด้วยน้ำที่ถูกบำบัดให้สะอาดจากพืช ดูแลอย่างใกล้ชิดเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดโรคและศัตรูพืช พร้อมกับใช้สารชีวภัณฑ์เพื่อป้องกันและกำจัด จึงมีความมั่นใจว่าผักทุกชนิดมีความปลอดภัยต่อสุขภาพ

ใช้น้ำจากคูที่ขุดไว้รอบแปลงปลูกนำมารดผัก

คุณแอนขายผักให้กับลูกค้าหลายกลุ่ม ทั้งคนทำงานที่ต้องการทานผักปลอดภัยเพื่อสุขภาพ แม่บ้าน คนเกษียณ ผู้สูงวัย ที่สำคัญมีขาประจำเป็นกลุ่มผู้ป่วยเป็นมะเร็ง ลูกค้าเหล่านี้จะมาดูแปลงปลูกผักด้วยตัวเองเพื่อให้มั่นใจก่อนตัดสินใจซื้อ โดยต้องสั่งออร์เดอร์ล่วงหน้าเท่านั้น ไม่มีขายขาจร กำหนดราคาขายกิโลกรัมละ 180 บาท บรรจุใส่ถุงขนาด 500 กรัม ราคา 90 บาท เป็นชุดเซ็ตผักรวม

ผักบางส่วนปลูกกลางแจ้ง

นอกจากนั้น ยังมีลูกค้าอีกกลุ่มเป็นพวกที่อยากปลูกผักไว้ทานเองกับต้องการปลูกเพื่อหารายได้เป็นอาชีพเสริม ที่ผ่านมามีผู้สนใจร่วมกิจกรรมนี้จำนวนเป็นพันคน จึงเปิดเป็นคอร์สอบรมเดือนละ 2-3 ครั้ง สามารถติดตามโปรแกรมและรายละเอียดได้ที่ fb : เกษตรสุขกลางกรุง ณ.ทุ่งบางเขน

ในโรงเรือนใช้ระบบน้ำแบบสปริงเกลอร์

“เกษตรสุขกลางกรุง ณ.ทุ่งบางเขน” เป็นแปลงปลูกผักที่มีรากฐานมาจากความต้องการสร้างความสุขด้วยการทำเกษตรเพราะมองว่าแนวทางนี้ไม่เพียงช่วยสร้างความสุขอันนำมาสู่ความสมบูรณ์ปลอดภัยต่อสุขภาพร่างกายที่เป็นประโยชน์โดยตรงกับตัวเธอและแฟนแล้ว แต่ยังช่วยให้คนอื่นได้รับประโยชน์ร่วมด้วย

ทำไมผักที่ปลูกในเมืองกรุงมีความสมบูรณ์เช่นนี้

เมื่อดินดี น้ำดี ปุ๋ยดี แล้วทำไมจะปลูกผักอินทรีย์ที่ปลอดภัยในมหานครอย่างกรุงเทพฯ ไม่ได้

สนใจผักปลอดภัยแนวอินทรีย์ หรือต้องการเข้าอบรมคอร์สปลูกผัก ติดต่อ คุณแอน พรมศักดิ์ โทรศัพท์ 083-029-6462 fb : เกษตรสุขกลางกรุง ณ.ทุ่งบางเขน