“กิ้งก่ามังกรเครา” สัตว์เลี้ยงแห่งท้องทะเลทราย นิสัยดี เชื่อง น่ารัก ไม่ดุร้าย

คุณภัคพล คุณานนต์ หรือ คุณวิทย์ พนักงานหนุ่มออฟฟิศ และเจ้าของฟาร์ม Lamphun dragons – จั๊กก่าหละปูน ในพื้นที่ตำบลมะเขือแจ้ อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน ที่นำความชอบของตนเองและครอบครัว มาสร้างเป็นแรงบันดาลใจในการทำเป็นธุรกิจเล็กๆ ก่อนจะขยายเป็นธุรกิจฟาร์มกิ้งก่ามังกรเคราแบบครบวงจร จนสามารถสร้างรายได้เพิ่มเติมจากงานประจำได้เป็นอย่างดี

คุณวิทย์ ภรรยา น้องภู และน้องพาขวัญ

จุดเริ่มต้นของการเลี้ยงและเพาะพันธุ์กิ้งก่ามังกรเครานั้น  เริ่มขึ้นเมื่อครั้งพาลูกไปเที่ยวในสวนสัตว์แห่งหนึ่งของจังหวัดเชียงใหม่ ก็เจอกิ้งก่ามังกรเครา ลูกๆ ของคุณภัคพลจึงเกิดความชอบและอยากได้ คุณภัคพลจึงเริ่มศึกษาหาข้อมูลการเลี้ยงอย่างจริงจัง โดยการสอบถามจากผู้เชี่ยวชาญและผู้รู้ จากนั้นก็เริ่มเลี้ยงจำนวน 2 ตัว จนปัจจุบันมีพ่อแม่พันธุ์กว่า 50 ตัว ในระยะเวลาเพียง 3 ปี

กิ้งก่ามังกรเครา ตัวใหญ่ สวย

“ผมพาลูกไปเที่ยวสวนสัตว์ที่เชียงใหม่ ก็เจอเจ้ากิ้งก่ามังกรเครา ลูกชายชอบและอยากได้ วันแรกก็ยังไม่ซื้อ ก็กลับมาหาข้อมูลก่อนว่าเขาเลี้ยงอย่างไร อีก 2 อาทิตย์ก็กลับไปซื้อครับ จากนั้นก็หาข้อมูลว่า ตัวเท่านี้ทำไมราคา 1,000 กว่าบาท จากนั้นก็คุยกับทางภรรยาว่าทำไมราคาแพงจัง ก็ไปดูในยูทูบเจอรายการของ คุณวิลลี่ และ คุณหอย ครับ จะมีตอนหนึ่งที่เกี่ยวกับการเลี้ยงกิ้งก่ามังกรเครา ตอนนั้นน่าจะเป็น คุณกอบศักดิ์ อยู่ที่กรุงเทพฯ ผมก็เลยพยายามที่จะหาเบอร์โทร. เพื่อติดต่อ เพื่อสอบถามว่าลักษณะของเขาเป็นอย่างไร รวมถึงในเรื่องของตลาดครับ เพราะตอนนั้นเริ่มสนใจ เขาก็ให้คำแนะนำมา ก็คุยกับทางภรรยา จากนั้นเราก็เริ่มเลี้ยงครับ เริ่มจาก 2 ตัว ขยายมาเรื่อยๆ จนตอนนี้มีพ่อพันธุ์ แม่พันธุ์ 50 ตัวได้ครับ”

กิ้งก่ามังกรเคราเป็นสัตว์ที่เลี้ยงง่าย มีนิสัยที่เชื่อง ไม่ดุร้าย สามารถจับเล่นและเข้ากับคนได้ง่าย จึงเป็นสัตว์เลี้ยงที่ยังคงได้รับความนิยมในปัจจุบัน

การผสมพันธุ์ของกิ้งก่ามังกรเคราภายในฟาร์มของคุณวิทย์นั้น จะเริ่มขึ้นเมื่อพ่อแม่พันธุ์มีอายุ 1 ปีครึ่ง มีน้ำหนักตัวอยู่ที่ 350 กรัมโดยประมาณ สามารถผสมพันธุ์ได้ 2 แบบ คือ การผสมพันธุ์แบบจับคู่และการผสมพันธุ์แบบการปล่อยตัวผู้อยู่กับตัวเมีย

นิสัยดี เชื่อง จับเล่นได้

“ผมจะดูในเรื่องของอายุและน้ำหนักก่อนครับ โดยปกติ ถ้าเป็นเขตเมืองนอก เท่าที่ผมหาข้อมูลมานั้น เขาจะต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 1 ปีครึ่งนะครับ หรือมีน้ำหนักตัวไม่ต่ำกว่า 350 กรัม แต่ว่าในส่วนของผมเองนั้น ผมจะดูแลเขาโดยการให้อาหารเขาดีหน่อย เพราะไม่ได้ปล่อยเลี้ยงตามธรรมชาติ เราก็จะให้อาหาร ขุนน้ำหนักให้ได้ 350 กรัม อายุโดยเฉลี่ยที่ผมจับผสมพันธุ์จะอยู่ที่ 1 ปีขึ้นไปนะครับ โดยการผสมพันธุ์จะมีทั้งแบบการจับคู่ และการปล่อยให้ตัวผู้อยู่กับตัวเมียนะครับ มันจะต่างกันตรงที่การจับคู่ เราสามารถกำหนดเรื่องสีหรือลวดลายของลูกที่จะออกมาได้เลย เช่น เรานำพ่อสีแดง แม่สีแดง มาใส่ด้วยกัน เราคาดหวังได้เลยว่าลูกเขาจะเป็นสีแดง แล้วก็มีความสวยมากกว่าปกติ ก็จะแบ่งการผสมพันธุ์ออกเป็นแบบนี้ครับ”

Advertisement

เมื่อตัวเมียตั้งท้องใกล้คลอด จะมีพฤติกรรมขุดดินแบบเอาเป็นเอาตาย ทางฟาร์มจะนำตัวเมียที่มีพฤติกรรมดังกล่าวใส่ลงในกล่องพลาสติกที่มีการใส่ทรายหรือขุยมะพร้าวชุบน้ำหมาดๆ ประมาณครึ่งกล่อง ปิดฝาไว้ 2-3 วัน ตัวเมียจะเริ่มคลอดลูกและกกไข่ เพื่อดูแลลูกน้อยต่อไป

คุณวิทย์ เจ้าของฟาร์ม Lamphun dragons – จั๊กก่าหละปูน

“การผสมพันธุ์ติดจะใช้เวลาประมาณ 1 เดือน หลังจากนั้นน้องจะตั้งท้อง ในส่วนของตัวที่ผสมติด รูปร่างก็จะเริ่มเปลี่ยนและเริ่มอ้วน และเริ่มมีพฤติกรรมที่เริ่มเปลี่ยน สัตว์เขาจะมีการสื่อสารของเขาเอง โบกไม้โบกมือว่าเขาตั้งท้องแล้วอะไรแบบนี้ครับ ตัวผู้ที่เข้าไปใกล้ ก็จะไม่ได้ผสมแหละนะครับ ใช้เวลาประมาณ 1 เดือน หลังจากนั้นเราจะสามารถคลำไข่ของเขาได้แล้วนะครับ เพราะไข่เขาจะเริ่มแข็งตัวเหมือนไข่เป็ด ไข่ไก่ ตอนที่ใกล้คลอดประมาณ 3-4 วัน และจะเริ่มขุดดิน เพราะเขาวางไข่ในดินครับ เราจะต้องสังเกตน้องเขาทุกวัน ถ้าเขาเริ่มขุดดินเมื่อไรแบบเอาเป็นเอาตายนะครับ จากนั้นจะนำถังพลาสติกที่ใช้ใส่ผ้า เอาทรายหรือขุยมะพร้าวใส่ประมาณครึ่งหนึ่ง ชุบน้ำให้เย็นๆ หมาดๆ นำตัวเมียที่มีอาการขุดแบบนี้ไปใส่ในกล่องนั้น ปิดฝา ประมาณ 2-3 วัน เขาจะวางไข่ของเขาเอง เขาก็จะกกไข่ เราก็ต้องสังเกตครับ”

Advertisement
ลูกกิ้งก่ามังกรเครา

ด้านการเลี้ยงดูและดูแลนั้น คุณวิทย์ บอกว่า ผู้เลี้ยงจำเป็นต้องใส่ใจในเรื่องของสภาพอากาศ เพราะกิ้งก่ามังกรเครา ดั้งเดิมนั้น เป็นสัตว์เขตร้อน ในเรื่องของสภาพอากาศจึงเป็นเรื่องที่สำคัญกับการเลี้ยงเป็นอย่างมาก

อาหารที่กินส่วนมากจะเป็นสัตว์มีชีวิตต่างๆ เช่น สะดิ้ง จิ้งหรีด หนอน เป็นต้น รวมถึงพืชผักต่างๆ เพื่อช่วยในเรื่องของสารอาหารที่ครบถ้วน

“การดูแลจะแบ่งเป็นช่วงอายุของน้องมากกว่าครับ ใหม่ๆ ความแข็งแรงของเขาก็จะน้อยหน่อย เพราะว่าโดยดั้งเดิม เขาเป็นสัตว์เขตร้อน พอมาเจออากาศทางเหนือ มันก็จะมีในเรื่องของความชื้นอะไรพวกนี้เยอะหน่อย เวลาอากาศเปลี่ยนแปลงทางเหนือบ่อยๆ ก็จะมีปัญหา ตัวใหญ่สามารถกินสะดิ้งตัวโต จิ้งหรีดได้ กินหนอนนก หนอนยักษ์ได้ พวกผักทั่วไปได้ ตัวเล็กที่ออกมาใหม่ ผมจะให้ตัวสะดิ้งอ่อนและก็ผักทั่วไปเหมือนกันครับ”

กิ้งก่ามังกรเคราที่ฟักตัวแล้ว + ไข่กิ้งก่ามังกรเครา

สำหรับโรคที่มักจะเกิดขึ้นในกิ้งก่ามังกรเคราจะคล้ายกับสัตว์ทั่วไปคือโรคหวัด ผู้เลี้ยงจำเป็นต้องหมั่นสังเกตอยู่เสมอ รวมถึงพื้นที่ที่ใช้เลี้ยง เพราะกิ้งก่ามังกรเคราสามารถที่จะกินสิ่งของแปลกปลอมได้ ควรรองพื้นสถานที่เลี้ยงด้วยทรายเม็ดเล็ก เพราะเมื่อหากกินเข้าไปแล้วจะได้ไม่ไปติดลำไส้ ท้องอืด ถ่ายไม่ออก และเสียชีวิตได้ในที่สุด

“เขาจะมีปัญหาในเรื่องโรคหวัด เหมือนกับสัตว์ทั่วไป เราก็ต้องสังเกตน้ำมูกอะไรของเขาด้วย พอโตขึ้นมาได้อายุ 1 เดือน ก็จะมีความแข็งแรง แต่ก็ต้องดูในเรื่องอื่นๆ ด้วย เช่น ในเรื่องของพื้นที่เลี้ยงอะไรแบบนี้ครับ น้องเขาจะกินของแปลกปลอมได้ครับ เราจะต้องใช้วัสดุปูพื้น อย่างผมใช้ทรายเม็ดเล็กเลี้ยง ที่มีความละเอียดมากๆ เพราะเมื่อเวลาเขากินแล้วจะได้ไม่ติดลำไส้เขาครับ ถ่ายไม่ออก ท้องอืด และอาจจะตายได้ครับ”

เมื่อสอบถามถึงความต้องการทางด้านตลาด คุณวิทย์ บอกว่า ราคาจะเริ่มต้นที่ตัวละ 700 บาท จนถึงราคาหลักหมื่นบาท ซึ่งลักษณะของสีจะเป็นตัวกำหนดราคาให้ลดหลั่นถูกแพงแตกต่างกันออกไป

ในด้านของรายได้ คุณวิทย์ บอกว่า อยู่ในระดับที่น่าพึงพอใจ มีรายได้เพิ่มเติมจากงานประจำ สามารถเลี้ยงครอบครัวได้อย่างมีความสุข

สำหรับท่านใดที่สนใจเกี่ยวกับกิ้งก่ามังกรเครา สามารถติดต่อ คุณภัคพล คุณานนต์ หรือ คุณวิทย์ เจ้าของฟาร์ม Lamphun dragons – จั๊กก่าหละปูน ในพื้นที่ตำบลมะเขือแจ้ อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน หรือทางเบอร์โทรศัพท์ 085-617-8246