สาวราชบุรี ปลูกมะพร้าวน้ำหอมอินทรีย์ บำรุงด้วย ปุ๋ยขี้ไก่-เกลือดำ เก็บผลผลิตขายได้ทุก 20 วัน

มะพร้าวน้ำหอม พืชเศรษฐกิจปลูกง่าย ใช้ต้นทุนในการผลิตต่ำ ให้ผลตอบแทนต่อเนื่องนานเป็น 10 ปี ปลูกเชิงการค้ายังน่าสนใจ เพียงแต่วิธีการจัดการดูแลอย่างเป็นระบบ และลดต้นทุนในการผลิตให้ได้มากที่สุด ในขณะที่คุณภาพและมาตรฐานก็ต้องดีด้วย ซึ่งการผลิตแบบอินทรีย์ก็ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดีสำหรับคนที่สนใจปลูกมะพร้าวน้ำหอมสร้างรายได้อยู่ไม่น้อย

คุณปุญณสา ประชุมศรี หรือ พี่ป้อม เจ้าของสวนมะพร้าวน้ำหอมอินทรีย์

คุณปุญณสา ประชุมศรี หรือ พี่ป้อม เจ้าของสวนมะพร้าวน้ำหอมอินทรีย์ อยู่ที่ตำบลบางโตนด อำเภอโพธาราม จังหวัดราชบุรี เกษตรกรสาวทำสวนแบบตามใจตัวเอง เน้นทำเกษตรอย่างมีความสุข ไม่กดดันตัวเอง ปลูกมะพร้าวน้ำหอมเป็นพืชสร้างรายได้หลัก ทำสวนเกษตรผสมผสานเป็นรายได้เสริม

มีแหล่งน้ำอุดมสมบูรณ์

พี่ป้อม เล่าให้ฟังว่า จุดเริ่มต้นของการทำสวนมะพร้าวน้ำหอมของตนเองเกิดจากความไม่ตั้งใจ เนื่องมาจากครอบครัวมีอาชีพทำอิฐมาตั้งแต่ดั้งเดิม จึงซื้อที่ดินเพื่อขุดดินไปทำอิฐ แต่แทนที่จะขุดเป็นบ่อให้เสียพื้นที่ จึงเลือกขุดเป็นร่องสวน และทำพื้นที่ให้เกิดประโยชน์โดยการเลือกปลูกมะพร้าวน้ำหอม เพราะเป็นพืชที่ไม่ต้องดูแลมาก และมองเห็นอนาคตแล้วว่าอีกไม่กี่ปีมะพร้าวที่ปลูกไว้จะกลับมาทำรายได้ให้ไม่มากก็น้อย โดยการยึดหลักการทำเกษตรแบบสบายๆ บนรากฐานของระบบการจัดการที่ดีและหาทางรอดให้เป็นด้วย เพราะการทำเกษตรจะมีอุปสรรคสำคัญทั้งในเรื่องของสภาพอากาศและช่วงของราคาผลผลิตที่มีความผันผวนสูง ฉะนั้นแล้วทางรอดของเกษตรกรคือการขายผลผลิตเอง เพื่อตัดวงจรพ่อค้าคนกลางให้ได้มากที่สุด

ปลูกพริกไทยแซมในสวนมะพร้าว

“อย่างมะพร้าวน้ำหอมที่สวนปลูกเยอะ เราก็จะไม่เลือกส่งผลผลิตให้กับล้งทั้งหมด แต่จะมีการแบ่งสัดส่วนส่งให้ล้งส่วนหนึ่ง และอีกส่วนหนึ่งเราจะนำมาทำตลาดขายเอง เพราะถ้าส่งให้ล้งเพียงอย่างเดียวเมื่อยามที่เกิดวิกฤตอะไรขึ้นมาก็แล้วแต่ ล้งจะกดราคาเราเท่าไหร่ก็ต้องยอมเพราะเราไม่มีทางเลือก และราคาของล้งจะไม่แน่นอนขึ้นอยู่กับราคาตลาด สมมุติว่าเป็นล้งนอก ถ้าตู้จีนปิดราคาของมะพร้าวก็จะดิ่งลง เราเลยตัดปัญหาด้วยการแบ่งผลผลิตส่วนหนึ่งมาทำตลาดขายเอง เพราะอย่างน้อย เราขายเอง มะพร้าวไม่เคยต่ำกว่าลูกละ 10 บาท เราก็จะมีรายได้จากส่วนนี้เพิ่มขึ้น”

ร่องสวนมะพร้าว แหล่งน้ำเพียงพอ 

พื้นที่ 40 ไร่ ปลูกมะพร้าวน้ำหอม 1,500 ต้น
ควบคู่ทำเกษตรผสมผสาน สร้างรายได้ตลอดปี

ปัจจุบันที่สวนปลูกมะพร้าวน้ำหอมของพี่ป้อมมีทั้งหมด 1,500 ต้น บนพื้นที่ทั้งหมด 40 ไร่ พี่ป้อม อธิบายเพิ่มเติมว่า การปลูกมะพร้าวของตนเองจะใช้พื้นที่ในการปลูกค่อนข้างเยอะ แต่ปลูกได้จำนวนไม่มาก เนื่องจากที่สวนจะปลูกพืชผสมผสานแซมลงไปในร่องสวนด้วย โดยสาเหตุของการเลือกปลูกมะพร้าวน้ำหอมสร้างรายได้หลักก็เพราะว่ามะพร้าวเป็นพืชที่ปลูกดูแลง่าย และยิ่งถ้าเป็นช่วงให้ผลผลิตได้แล้วก็แทบไม่ต้องดูแลจัดการอะไรมากมาย เพียงหมั่นให้ปุ๋ยอย่างสม่ำเสมอ รดน้ำอาทิตย์ละ 1-2 ครั้งอย่าให้ขาด เท่านี้ก็มีผลผลิตออกมาให้เก็บขายสร้างรายได้ไม่ขาดมือ

มะพร้าวน้ำหอมอินทรีย์เริ่มให้ผลผลิต

เทคนิคการปลูก เป็นไปอย่างเรียบง่าย ไม่เน้นนำหลักวิชาการมาใช้เยอะ เน้นให้ความสำคัญในช่วงเริ่มต้นวางแผนจัดสรรพื้นที่ในการปลูก ทั้งการขุดร่องสวน-ร่องน้ำ และพื้นที่สำหรับทำทางรถวิ่งให้เข้ามาเก็บมะพร้าวได้สะดวก ก็จะช่วยประหยัดเวลา ประหยัดแรงงาน และช่วยจัดการภายในสวนได้ง่ายขึ้น

เก็บเกี่ยวผลผลิต นำไปแปรรูปขายเองส่วนหนึ่ง

“ลักษณะการทำร่องสวนปลูกมะพร้าว ส่วนใหญ่ร่องสวนจะกว้างประมาณ 6 เมตร ร่องน้ำกว้าง 3 เมตร แต่ที่สวนของเรามีหลายโซน มีทั้งร่องเล็กร่องใหญ่ ตั้งแต่ขนาดกว้าง 6 เมตร และร่องใหญ่ 8 เมตร เพื่อทดลองว่าแบบไหนดีกว่ากัน ซึ่งร่องใหญ่จะจัดการได้ง่ายกว่า สามารถปลูกมะพร้าวได้ 2 ข้าง ซ้าย-ขวา ปลูกในระยะห่างระหว่างต้นระหว่างแถว 6×6 เมตร และยังสามารถปลูกพืชผักไม้ผลอย่างอื่นแซมได้ด้วย”

ใช้เรือรดน้ำ

การปลูก ขุดหลุมขนาด 50x50x50 เซนติเมตร วางหน่อที่คัดเลือกมาแล้วลงในหลุม แล้วนำดินกลบให้เสมอผลมะพร้าว จากนั้นจึงค่อยใส่ปุ๋ยขี้ไก่ตามทีหลัง และหมั่นดูแลรดน้ำตัดหญ้า ในช่วงแรกใส่ปุ๋ยยังไม่ต้องมาก ใส่ในปริมาณต้นละครึ่งบุ้งกี๋ จากนั้นหลังจากเก็บเกี่ยวผลผลิตได้แล้วจึงเริ่มขยับปริมาณการใส่ปุ๋ยเพิ่มขึ้นเป็นอัตรา 2 กระสอบต่อต้นต่อปี แบ่งใส่ 6 เดือนครั้ง

มีพื้นที่ให้รถวิ่ง สะดวกต่อการขนส่ง ประหยัดแรงงาน ประหยัดเวลา

“ตอนนี้ที่สวนเน้นใส่ปุ๋ยขี้ไก่เป็นหลัก ใส่ปีละ 2 ครั้ง ซึ่งก่อนหน้านี้ที่สวนเคยใช้ปุ๋ยเคมีมานานเป็น 10 ปี และใช้หนักมากๆ หมดค่าปุ๋ยต่อเดือนไม่น้อย จึงได้ตัดสินใจหักดิบการใช้เคมี หันมาปลูกแบบอินทรีย์จนถึงปัจจุบันเป็นเวลากว่า 6 ปี ซึ่งในช่วงปีแรกของการงดใช้ปุ๋ยเคมี ก็เหมือนจะโดนประท้วง มะพร้าวไม่ให้ผลผลิตเพราะเราไม่ให้อาหารอย่างที่พืชเคยกิน รายได้ก็หายไปเลยครึ่งหนึ่ง ตรงนี้ก็เป็นอีกเหตุผลที่ทำให้คนที่เคยทำเคมีมาทำอินทรีย์แล้วเกิดความท้อแท้ แต่ถ้าอดทนให้เวลาพืชได้ปรับตัวสักพักแล้วผลผลิตจะเข้าที่เข้าทาง ถึงไม่ได้มากเท่าเดิมแต่ก็ไม่ได้แตกต่างกันมาก ถือว่าคุ้มค่าเพราะต้นทุนค่าปุ๋ยลดลงอย่างเห็นได้ชัด มีแค่ค่าปุ๋ยขี้ไก่ปีละ 2 ครั้ง กับเกลือดำใส่เพื่อเพิ่มหวานทดแทนปุ๋ยเคมี ใส่เพียงปีละครั้ง ปริมาณ 1 กิโลกรัมต่อต้นแค่นี้ หรือถ้าหากช่วงไหนขยันหน่อยก็จะฉีดพ่นฮอร์โมนบำรุงเสริมเข้าไป ให้ลูกดกในช่วงหน้าแล้ง ที่ราคามะพร้าวสูงๆ”

มะพร้าวน้ำหอมอินทรีย์ คันนี้เตรียมส่งเข้าล้ง

ระบบน้ำ เมื่อก่อนที่สวนจะรดน้ำด้วยระบบสปริงเกลอร์ แต่ต้องประสบปัญหาในช่วงเก็บเกี่ยวผลผลิตลูกมะพร้าวตกใส่สปริงเกลอร์ทำให้เกิดความเสียหาย จึงได้ยกเลิกการใช้ระบบสปริงเกลอร์ แล้วหันมาใช้เรือในการรดน้ำแทน อาทิตย์ละครั้ง หรือสังเกตดูที่สภาพอากาศเป็นหลัก หากช่วงไหนฝนไม่ค่อยตกดินแห้งก็ถึงเวลาให้น้ำ

แมลงศัตรูมะพร้าว ที่มักพบเจอบ่อยๆ คือ ด้วงงวงมะพร้าว แต่สามารถควบคุมได้ด้วยการใช้ศัตรูธรรมชาติกำจัด โดยการใช้ตัวห้ำ ตัวเบียน มาช่วยงาน ช่วยปรับสมดุลธรรมชาติ ช่วยปราบแมลงด้วยกันเอง

บรรยากาศภายในสวนร่มรื่น น่าอยู่

ปริมาณผลผลิต ปกติแล้วมะพร้าวน้ำหอมจะใช้ระยะเวลาการปลูก 2 ปีครึ่ง ถึง 3 ปี ให้ผลผลิต แต่ของที่สวนใช้เวลาปลูกนานถึง 5 ปี เนื่องจากการจัดการดูแลของสวนเน้นเอาความสะดวกเป็นที่ตั้ง ไม่มีกฎเกณฑ์การรดน้ำใส่ปุ๋ยที่ตายตัว จึงทำให้ผลผลิตออกมาช้ากว่าปกติ แต่ในเรื่องของคุณภาพไม่ได้ตกหล่นไปไหน รสชาติของมะพร้าวยังคงหวานหอมเหมือนเดิม การันตีด้วยมาตรฐาน GAP และได้รับรองแปลงเกษตรอินทรีย์แบบมีส่วนร่วม (PGS) จังหวัดราชบุรี

ผลงานจากการทำเกษตรผสมผสาน

เก็บเกี่ยวผลผลิตได้ทุก 20-25 วัน มะพร้าว 1,000 ต้น เก็บเกี่ยวผลผลิตได้ครั้งละประมาณ 5,000 ลูก แต่ในช่วงหน้าร้อนจะเป็นช่วงที่ผลผลิตขาดคอโดยธรรมชาติ ส่งผลทำให้ราคาของมะพร้าวดีดตัวสูงขึ้นตั้งแต่เดือนมีนาคมไปจนถึงเดือนมิถุนายนของทุกปี ทางสวนจะพยายามหาวิธีผลิตทำให้มะพร้าวออกมาอย่างต่อเนื่องให้มีขายในช่วงที่ผลผลิตมีราคาแพง ซึ่งอยู่ในช่วงทดลองหาวิธีที่ได้ผลดีที่สุดต่อไป

เลี้ยงปลาในร่องสวนมะพร้าว

ส่งล้ง 70 เปอร์เซ็นต์ ขายเอง 30 เปอร์เซ็นต์ ลดความเสี่ยง รายได้เพิ่ม

ตามข้อมูลที่กล่าวในเบื้องต้น พี่ป้อม อธิบายว่า ที่สวนจะมีการแบ่งสัดส่วนการตลาดออกเป็น 2 ส่วน คือส่วนที่ 1 เป็นการส่งผลผลิตให้กับล้งประมาณ 70 เปอร์เซ็นต์ ที่เหลืออีก 30 เปอร์เซ็นต์ นำมาทำตลาดขายเอง ทั้งในรูปแบบของขายผลสด และนำเอาผลผลิตตกไซซ์ ขนาดทรงผลไม่ได้มาตรฐานมาแปรรูปทำน้ำมะพร้าวบรรจุใส่ขวดขาย โดยข้อดีของการทำตลาดเอง 1. เจ้าของสวนสามารถกำหนดราคาผลผลิตเองได้ และตัดปัญหาโดนพ่อค้าคนกลางกดราคา และ 2. เป็นการเพิ่มมูลค่า หากส่งให้ล้งช่วงนี้ราคาอยู่ที่ลูกละ 8 บาท แต่ถ้านำมาขายเองได้ลูกละ 15 บาท ทำให้มีกำไรเพิ่มขึ้นมาเกือบครึ่งหนึ่ง คิดเป็นรายได้เฉลี่ยขายได้ลูกละ 10 บาท มะพร้าวจำนวน 5,000 ลูก คิดเป็นเงิน 50,000 บาท ถือว่าเป็นอีกหนึ่งไม้ผลที่ทำรายได้ไม่น้อยเมื่อเทียบกับการดูแลที่ไม่ยุ่งยาก

แปรรูปทำน้ำมะพร้าวขายเอง

“การปลูกมะพร้าวอินทรีย์ผลผลิตอาจจะไม่ได้มากเท่าเคมี แต่คุ้มกับสุขภาพและต้นทุนที่ต่ำลงเพราะของเรามีแค่ค่าปุ๋ยขี้ไก่ ปีละ 2 กระสอบต่อต้น เฉลี่ยค่าขี้ไก่ต้นหนึ่งกินปุ๋ย 50 บาทต่อปี เกลือดำถุงละ 100 บาท ถุงหนึ่งมี 30 กิโลกรัม คิดเป็นกิโลกรัมละ 3 บาทต่อต้น เมื่อเฉลี่ยต้นทุนในการดูแลมะพร้าวต่อต้นต่อปีเป็นเงินเพียง 55 บาท สามารถตัดมะพร้าวขายได้ทุก 20 วัน คืนทุนตั้งแต่ในเดือนแรก ที่เหลืออีก 11 เดือนคือกำไร เป็นค่าแรงในการดูแลของเรา”

ออกบูธขายพืชผักผลไม้อินทรีย์ 

นิยามการทำเกษตรอย่างไรให้มีความสุข

“นิยามการทำเกษตรของพี่คือทำยังไงก็ได้ให้ตัวเองมีความสุข ไม่กดดันตัวเอง และไม่หาภาระให้ตัวเองเยอะ ทำเท่าที่ทำได้ ไม่ยึดติด อะไรดีก็ทำต่อ แล้วพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ และอะไรที่ไม่เหมาะกับเราก็วางลง การทำเกษตรต้องสู้ ต้องอดทนเยอะๆ อย่าใจร้อน ต้องใช้เวลา พูดง่ายๆ ถ้าคิดอยากจะทำเกษตรคืออันนี้ต้องเน้นเลย ตั้งเป้าหมายให้ถูก ถ้าหวังรวย การเกษตรอาจจะไม่ได้ตอบโจทย์ แต่ไม่ใช่ว่ารวยไม่ได้ คือรวยได้แต่ต้องใช้เวลา ใช้ประสบการณ์ ต้องผ่านช่วงผิดหวัง ท้อแท้มาก่อน อย่าไปตั้งเป้าหมายสูงมาก เอาแค่ว่าเราทำเกษตรแล้วมีความสุข ซึ่งความสุขของแต่ละคนไม่เท่ากัน หาความสุขของตัวเองให้เจอ ถ้าหาเจอก็ตอบโจทย์ อย่างความสุขของพี่คือการได้อยู่กับธรรมชาติสีเขียวๆ ที่สำคัญได้มีเวลาดูแลครอบครัว สามารถปลูกพืชผักปลอดภัยไว้กิน เหลือจากการกินก็ขาย ตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวงรัชกาลที่ 9 ส่วนถ้าใครอยากมีรายได้เพิ่มมีเงินเหลือเก็บ ก็หาทำอย่างอื่นเสริม เพราะงานเกษตรมีอะไรให้ทำเยอะ ถ้าเราคิดจะทำ” พี่ป้อม กล่าวทิ้งท้าย

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เบอร์โทร. 092-728-3053 หรือติดต่อได้ที่เฟซบุ๊ก : สวนพริกไทย บ้านไร่เตาอิฐ