“ดอกไม้กินได้” ปลูกเป็นอาชีพเสริมยังน่าสนใจ พื้นที่ 1 งาน ทำเงินอาทิตย์ละ 2,000 บาท

หลังสถานการณ์โควิดเริ่มคลี่คลาย หลายธุรกิจฟื้นตัวและพร้อมเดินหน้ากู้สถานการณ์ให้รีบกลับมาเป็นอย่างเดิมในเร็ววัน โดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยว ร้านอาหาร ที่ต่างงัดกลเม็ด เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวอย่างไม่มีใครยอมใคร ซึ่งก็ถือเป็นเรื่องดีที่ไม่เพียงแต่ธุรกิจใหญ่ๆ เท่านั้นที่จะลืมตาอ้าปากได้ แต่ยังรวมไปถึงผู้ประกอบการรายเล็กรายน้อย ที่ถือเป็นสายป่านสำคัญก็ได้กลับมาลืมต้าอ้าปากได้เช่นกัน

คุณณกรณ์ พงศ์เครือไชย หรือ คุณเพชร เจ้าของ KAS Farmstay ตั้งอยู่ที่ 117 หมู่ที่ 1 ตำบลมะกอก อำเภอป่าซาง จังหวัดลำพูน เรียนจบจากคณะรัฐศาสตร์ ผันตัวเป็นเกษตรกร ปลูกพืชผสมผสานอย่างพอเพียง เลี้ยงไก่ไข่สีพาสเทล ควบคู่กับการปลูกดอกไม้กินได้เป็นรายได้หลัก และปลูกพืชผักสวนครัวสร้างรายได้รอง “ชีวิตมีความสุข มีสุขภาพที่แข็งแรง” พร้อมกับมีรายได้เข้ามาจุนเจือครอบครัวอย่างไม่ขัดสน

คุณณกรณ์ พงศ์เครือไชย หรือ คุณเพชร

คุณเพชร เล่าให้ฟังว่า การปลูกดอกไม้กินได้ของตนเองนั้นมีจุดเริ่มต้นมาจากนิสัยส่วนตัวเป็นคนชอบปลูกดอกไม้เป็นทุนเดิม และก็มาประจวบเหมาะกับการที่ได้เข้าไปศึกษาเรื่องอาหารกับเพื่อนที่เป็นเชฟเพิ่มเติม ซึ่งเพื่อนเห็นว่าตนเองเป็นคนชอบปลูกดอกไม้อยู่แล้วจึงได้แนะนำให้ทดลองปลูกดอกไม้กินได้ เนื่องจากกำลังเป็นกระแสอยู่ในขณะนี้ ที่ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหารหรู ร้านเบเกอรี่ ร้านเครื่องดื่ม ต่างๆ เหล่านี้ล้วนมีความต้องการดอกไม้กินได้ไปประดับตกแต่งมื้ออาหารให้ดูสวยงามและดึงดูดมากขึ้น ตนเองเห็นว่าน่าสนใจ จึงได้เริ่มลงมือปลูกโดยเริ่มจากดอกไม้ที่มีอยู่แล้วในสวนมาศึกษาว่าดอกไม้ชนิดไหนกินได้ก็ทำการขยายพันธุ์เพิ่ม และอีกส่วนคือการสั่งซื้อเมล็ดพันธุ์ดอกไม้จากต่างประเทศมาปลูกเพื่อเพิ่มความหลากหลาย

ดอกไม้กินได้หลากหลายชนิดเก็บสดๆ จาก KAS Farmstay

โดยปัจจุบันที่ฟาร์มมีพื้นที่ทำเกษตรทั้งหมด 7 ไร่ เน้นทำเกษตรแบบอินทรีย์ เพราะความตั้งใจแรกคืออยากผลิตพืชผักผลไม้สำหรับบริโภคในครัวเรือน เหลือจึงจำหน่าย เนื่องจากที่บ้านมีผู้สูงอายุอยู่หลายคน จึงอยากให้ท่านได้กินอาหารที่ปลอดภัยกับสุขภาพ ที่คนในครอบครัวผลิตเอง ส่วนเรื่องของการปลูกดอกไม้กินได้ก็เปรียบเสมือนการนำสิ่งที่ชอบมาทำให้เกิดรายได้ ด้วยการนำเอาเทรนด์ในปัจจุบันที่ผู้คนเริ่มให้ความใส่ใจด้านสุขภาพ และอาหารที่นอกจากจะมีรสชาติที่อร่อยแล้ว ผู้บริโภคในปัจจุบันยังต้องการความสวยงามของมื้ออาหารแต่ละมื้อมากยิ่งขึ้น หรือเปรียบได้ว่าเป็นวัฒนธรรมการกินแบบใหม่ๆ ที่คนเราไม่ได้ต้องการกินอาหารเพียงแค่ให้อิ่มท้อง แต่จะต้องมีองค์ประกอบอื่นๆ เข้ามาเพิ่มเติมในด้านของความสวยงามทางสายตา ซึ่งทุกอย่างจะต้องสอดคล้องไปด้วยกันหมดบนอาหารแต่ละจาน เพราะฉะนั้นการปลูกดอกไม้กินได้ยังถือเป็นอีกหนึ่งอาชีพเสริมที่น่าสนใจเพียงแต่ต้องใช้ความพิถีพิถันในการปลูกและดูแลมากกว่าการปลูกไม้ดอกไม้ประดับสักหน่อย

เก๊กฮวย แข่งกันขึ้นสวยงาม

ปลูกดอกไม้ตามฤดูกาล
ดูแลจัดการง่าย ต้นทุนต่ำ

คุณเพชร อธิบายว่า หลักๆ ที่ฟาร์มจะเน้นปลูกดอกไม้ตามฤดูกาล ไม่ฝืนธรรมชาติ เพื่อให้การดูแลจัดการเป็นไปได้ง่ายขึ้น โดยมีการสื่อสารกับลูกค้าให้เข้าใจตั้งแต่แรกว่า ลูกค้าจะไม่สามารถกำหนดชนิดของดอกไม้ที่ต้องการได้ ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่เข้าใจและต้องการสีสันและความหลากหลายของชนิดดอกไม้อยู่แล้ว ทำให้การปลูกดอกไม้แบบไม่ฝืนธรรมชาติ เน้นเก็บผลผลิตตามฤดูกาลจึงไม่เป็นปัญหาสำหรับที่ฟาร์ม

ตากแห้ง นำไปทำชาดอกเก๊กฮวย

ซึ่งในปัจจุบันที่ฟาร์มมีพื้นที่ปลูกดอกไม้บนพื้นที่ประมาณ 2 งาน เป็นการปลูกแซมภายในสวนแบบมีพื้นที่ว่างตรงไหนก็ลงปลูกตรงนั้น โดยที่ฟาร์มเลือกปลูกดอกไม้หลากหลายชนิดด้วยกัน เช่น ผีเสื้อแสนสวย ดาวกระจาย ดอกเข็ม อัญชัน พวงชมพู เล็บมือนาง ดาหลา ชบาเมเปิล เดซี่ กุหลาบ ออมแซบ และหทัยหยาดทิพย์ โดยดอกไม้แต่ละดอกก็จะมีเอกลักษณ์และเสน่ห์ที่แตกต่างกันออกไป เมื่อนำเอามาประดับบนจานอาหารและเครื่องดื่มก็จะช่วยสร้างคุณค่า สร้างเอกลักษณ์ให้กับอาหารจานนั้นได้อย่างน่าหลงใหลมากขึ้น

สลัดโรล ทำจากดอกไม้กินได้

และถัดมาคือเรื่องของการปลูกและดูแลรักษากันบ้าง คุณเพชร อธิบายเพิ่มเติมว่า ในเรื่องของการปลูกจะไม่แตกต่างกับการปลูกไม้ดอกไม้ประดับทั่วไปสักเท่าไหร่ แต่จะแตกต่างกันในเรื่องของการดูแลและการใส่ใจที่ต้องเพิ่มขึ้นเป็นพิเศษ เพราะจุดประสงค์เราต้องการให้ดอกไม้กินได้ เพราะฉะนั้นแล้วการดูแลถือเป็นเรื่องสำคัญ

สลัดผักดอกไม้กินได้

“ด้วยความที่เราปลูกโดยไม่ใช้สารเคมี เพื่อความปลอดภัยของผู้บริโภค จึงทำให้จะมีปัญหาของเรื่องโรคแมลงเข้ามารบกวน และเรื่องของสภาพอากาศที่ไม่สามารถควบคุมได้ ผมว่าเป็นเรื่องที่ต้องใส่ใจในรายละเอียดนิดหนึ่ง อย่างฤดูร้อนจะถือเป็นอุปสรรคในการปลูก เพราะแดดจะแรง ทำให้ขั้นตอนการให้น้ำยากขึ้น และโรคแมลงที่มีมากกว่าฤดูอื่นๆ ดอกไม้เขาจะปลูกได้ดีในฤดูฝนและฤดูหนาว คือช่วงฝนต้นจะเจริญเติบโตดีแต่ให้ดอกน้อย ส่วนหน้าหนาวเป็นช่วงที่เหมาะสมที่สุดในการปลูกดอกไม้”

กล่องละ 129 บาท

การดูแล ระบบการให้น้ำดูจากสภาพดินและสภาพอากาศเป็นหลัก การใส่ปุ๋ยเน้นใส่ปุ๋ยคอกกับปุ๋ยมูลไส้เดือนเป็นหลัก คือก่อนปลูกรองก้นหลุมด้วยปุ๋ยมูลไส้เดือน จากนั้นหมั่นใส่ปุ๋ยทุก 2 อาทิตย์ หรือให้สังเกตที่ใบถ้าใบเริ่มเหลืองแสดงว่าพืชขาดธาตุอาหารก็จะเริ่มใส่ปุ๋ย เป็นปุ๋ยมูลไส้เดือนและปุ๋ยคอกสลับกันไป เพื่อให้ปลอดภัยต่อผู้บริโภคมากที่สุด

มีดอกไม้หลากหลายชนิดใน 1 กล่อง

ระยะการปลูกจนถึงเก็บเกี่ยว โดยเฉลี่ยแล้วอยู่ที่ประมาณ 2-3 เดือน อย่างเช่น ดาวกระจายใช้ระยะเวลาในการปลูกประมาณ 2 เดือน หรือพวงชมพูจะออกดอกมาให้เก็บเรื่อยๆ ส่วนเก็กฮวยจะออกดอกให้เก็บช่วงหน้าหนาว ตั้งแต่เดือนธันวาคม-กุมภาพันธ์ ปลูกครั้งหนึ่งเก็บดอกได้นานประมาณ 3 เดือน จากนั้นโละแปลงปลูกใหม่ หรือใครอยากจะเก็บไว้นานกว่านี้ก็ได้ เพียงแต่ปริมาณดอกที่เก็บได้อาจจะไม่คุ้มค่ากับการลงทุน

ออกบูธขายได้รับความสนใจจากลูกค้าไม่น้อย

ขั้นตอนการเก็บ อีกหนึ่งหัวใจสำคัญ

อย่างที่ทราบกันว่าดอกไม้เป็นพืชที่บอบบาง เพราะฉะนั้นวิธีการเก็บรักษาจะต้องเป็นไปอย่างทะนุถนอม คุณเพชร บอกว่า ที่ฟาร์มจะใช้กรรไกรเป็นอาวุธคู่ใจในการตัดดอก และจะเลือกตัดดอกในเฉพาะช่วงเช้าแล้วส่งในตอนเย็น เพื่อหลีกเลี่ยงการเจอแสงแดดจัดๆ

“ขั้นตอนการเก็บของเราจะมีตะกร้าแล้วใช้ใบไม้หรือทิชชูแผ่นหนาๆ รองไว้ที่ก้นตะกร้า แล้วค่อยๆ ตัดดอกไม้วางลงในตะกร้าอย่างเบามือ จากนั้นมาถึงขั้นตอนการแพ็กใส่กล่องเตรียมส่งลูกค้า ภายในกล่องก็ยังต้องใส่ทิชชูแผ่นหนาๆ รองก้นเพื่อซับน้ำส่วนเกิน นำดอกไม้มาจัดวางในกล่องให้พอดี ไม่วางทับกันแน่นจนเกินไป เสร็จแล้วนำทิชชูมาปิดข้างบนอีก 1 ชั้น แล้วปิดฝากล่อง ถ้าทางที่ดีใส่กล่องซิปล็อกจะอยู่ได้นาน อย่างของผมปลูกแบบอินทรีย์อยู่ได้มากกว่า 1 อาทิตย์ คือยิ่งถ้าเราใช้ระบบอินทรีย์ความทนทานในการเก็บรักษาจะอยู่ได้นานกว่า จำหน่ายในราคากล่องละ 129 บาท 1 อาทิตย์ มีออร์เดอร์เข้ามาประมาณ 15-20 กล่อง ถือเป็นรายได้เสริมที่ดี เมื่อเทียบกับการลงทุนที่ไม่มีอะไรมาก เพราะต้นพันธุ์สามารถนำมาขยายพันธุ์ได้อีกเรื่อยๆ เหมาะสำหรับคนที่ชอบปลูกดอกไม้เป็นชีวิตจิตใจ เพราะนอกเหนือการขายเป็นดอกสดแล้วยังสามารถนำมาต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์ชาจากดอกไม้ชนิดต่างๆ และมองว่าในอนาคตดอกไม้กินได้ น่าจะไปได้ไกลกว่านี้ ในวันที่ร้านอาหารและการท่องเที่ยวสามารถเปิดได้เต็มรูปแบบ”

แค็ตตาล็อกดอกไม้หลักๆ ที่ปลูก ณ ปัจจุบัน

มีพื้นที่น้อยสามารถปลูกเป็นอาชีพเสริมได้

“สำหรับคนที่สนใจอยากปลูกเป็นอาชีพเสริม สิ่งแรกที่อยากจะบอกคือจะต้องเป็นคนใจเย็นเพราะแต่ละขั้นตอนต้องอาศัยความดูแลเอาใจใส่มากเป็นพิเศษ แต่ก็ถือเป็นความสุขในอีกรูปแบบหนึ่ง สามารถทำเป็นงานอดิเรกที่บ้านได้ ใช้พื้นที่น้อยๆ ถ้าเราปลูกไม้ประดับนอกจากจะสวยงามแล้ว ยังขายได้หรือเอามาแปรรูปได้ คือไม่จำเป็นต้องมีพื้นที่ใหญ่ก็ทำได้ อยู่คอนโดมิเนียมก็ทำได้ หรือปลูกในกระถางก็ได้อีกเช่นกัน ซึ่งอาจจะเหมาะกับแม่บ้านหรือกลุ่มคนที่มีเวลาหน่อย เพียงแต่ต้องหาตลาดให้กว้างหรือหาวิธีขนส่งที่ง่ายกว่าเดิม จะช่วยลดต้นทุนลง เพราะอย่างตอนนี้มีต้นทุนเรื่องค่าขนส่งค่อนข้างสูงเพราะว่าส่งห้องเย็น หรือบ้านใครอยู่ใกล้แหล่งท่องเที่ยว มีร้านอาหารเยอะๆ ตรงนี้ถือว่าน่าสนใจมากๆ” คุณเพชร กล่าวทิ้งท้าย

ดอกไม้จีน

สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เบอร์โทร. 095-684-5405 หรือติดต่อได้ที่เพจ : KAS Farmstay, ลำนำรักษ์ – เกษตรเชิงท่องเที่ยว