ผู้เขียน | จิตรกร บัวปลี |
---|---|
เผยแพร่ |
ช่วงปลายเดือนธันวาคมของทุกปี ละอองปุยหมอกและสายน้ำน่านจะไหลเอื่อยๆ และสร้างความสดชื่นชุ่มฉ่ำหัวใจให้กับมวลสมาชิกกลุ่มแม่บ้านที่อยู่บริเวณริมแม่น้ำน่าน จะได้ออกเก็บ “สาหร่ายไก” สาหร่ายน้ำจืดพืชตามธรรมชาติใต้ผืนน้ำและลำธาร

สาหร่ายไก พืชใต้น้ำที่ได้ขึ้นชื่อว่าทรงคุณค่าทางอาหาร และเป็น “ผลิตภัณฑ์สาหร่ายไก” สินค้าโอท็อปหนึ่งเดียวของจังหวัดน่าน
ผู้เขียนตะลอนทัวร์ไปจังหวัดน่านมาก็หลายครั้ง แต่ก็ยังไม่เคยได้ไปสัมผัสแม่น้ำน่าน ที่ได้รับการขนานนามว่าเป็นสายน้ำที่บริสุทธิ์ และเป็นแหล่งกำเนิดของพืชน้ำจืดที่ชาวบ้านเรียกกันว่า “สาหร่ายไก” ที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ หนึ่งปีจะมีปรากฏให้เห็นเพียงครั้งเดียว ที่อำเภอท่าวังผา จังหวัดน่าน

และหนึ่งตัวอย่างกลุ่มแม่บ้านที่ผู้เขียนคุ้นเคยพูดคุยอยู่ตลอดเวลา คือ ป้าศิริพร คำหว่าง ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนแปรรูป สาหร่ายน้ำจืดครบวงจร บ้านหนองบัว หมู่ที่ 5 ตำบลป่าคา อำเภอท่าวังผา จังหวัดน่าน
ช่วงเวลานี้ของเดือนธันวาคม อากาศเย็นๆ หนาวๆ หมอกหนาๆ อุณหภูมิต่ำลงมาได้อีกที่ 11 องศาเซลเซียส และเป็นเวลาที่แม่น้ำน่านจะใสบริสุทธิ์ สร้างความอุดมสมบูรณ์ให้พืชสาหร่ายไก สาหร่ายน้ำจืด ได้เจริญเติบโตออกมาเป็นเส้นสายสีเขียวๆ เต็มท้องน้ำ ขนาดความยาว 1-2 เมตร และมีเกิดขึ้นเพียงแห่งเดียวคือที่จังหวัดน่าน

เป็นช่วงเวลาป้าศิริพรและกลุ่มเกษตรกรรายอื่นๆ ก็จะพากันออกหาสาหร่ายไกตามลุ่มแม่น้ำน่าน เพื่อนำมาผลิตแปรรูปเป็นสาหร่ายไกแผ่นอบกรอบ, สาหร่ายไกผงโรยข้าว, น้ำพริกสาหร่ายไกมะแขว่น และสาหร่ายอบแห้ง เพื่อจำหน่ายสร้างรายได้เป็นผลิตภัณฑ์ชุมชน สินค้าโอท็อป ซองละ 35 บาท ทั้ง 4 รส 4 แบบ
ป้าศิริพร เล่าให้ฟังว่า ช่วงเดือนธันวาคมของทุกๆ ปี สาหร่ายไกจะอุดมสมบูรณ์เต็มที่อยู่ใต้ท้องน้ำที่ความลึก 30-100 เซนติเมตร และจะพบเห็นเจริญเติบโตตามโขดหินที่กระแสน้ำไหลเอื่อยๆ ตามลำแม่น้ำน่าน ไล่มาตั้งแต่ตอนบน อำเภอบ่อเกลือ อำเภอเชียงกลาง อำเภอปัว อำเภอท่าวังผา อำเภอบ้านหาดเคล็ด และมาสิ้นสุดอำเภอบ้านเมืองจัง ของจังหวัดน่าน

ในวัย 62 ปี ป้าศิริพรยังแข็งแรงได้ลงดำน้ำมุดผุดงมหาสาหร่ายไกมาอย่างต่อเนื่องทุกๆ ปี บ้างครั้งก็ดำผุดดำว่ายควานหาสาหร่ายไกใต้น้ำ และรวมถึงชาวบ้านคนอื่นๆ ก็เช่นเดียวกัน บางคนนำเรือออกไปหายังน้ำลึก ผูกเชือกกับตัวแล้วดำลงไปหาสาหร่ายไกที่ใต้น้ำ
บางครอบครัวออกหาสาหร่ายเพื่อนำมาปรุงอาหารในครัวเรือน
เมื่อเก็บสาหร่ายไกขึ้นจากแม่น้ำ ก็เอามาล้างน้ำให้สะอาด 5-10 น้ำ ในขั้นตอนแรก จากนั้นนำมาสับให้เป็นชิ้นๆ แล้วปั่นด้วยเครื่องปั่นให้ละเอียดเป็นผง และผสมสูตรปรุงรสเข้าไปตามที่กำหนด ในแต่ละสูตร จากนั้นก็นำไปคั่วกวนในเตากระทะเป็นเวลา 30 นาที ก็จะได้สาหร่ายกวนข้นๆ แล้วเอามาแผ่คลึงลงถาดให้เป็นแผ่นบางๆ แล้วเอาไปเข้าตู้อบทิ้งไว้ 3-5 ชั่วโมง พอแห้งหมาดๆ ก็จะได้สาหร่ายไกแผ่นผืนใหญ่ๆ เต็มถาด

ในขั้นตอนนี้เองที่ป้าศิริพรคิดไม่ตกกับสาหร่ายแผ่นผืนใหญ่ๆ เมื่อนำออกมาจากตู้อบ และจะต้องตัดให้เป็นชิ้นเล็กๆ แล้วนำไปทอดให้กรอบๆ ก่อนส่งเข้าตู้อบเพื่อรีดน้ำมันไม่ให้ตกค้างอีกครั้ง ก่อนบรรจุลงซองพร้อมจำหน่าย
ขั้นตอนที่ว่านี้ก็คือการตัดสาหร่ายผืนใหญ่ๆ ให้เป็นชิ้นเล็กๆ ซึ่งเป็นวิธีดั้งเดิมที่ทำอยู่เป็นประจำคือการใช้กรรไกรตัด ตัดทีละแผ่น ทั้งช้าและทั้งเจ็บมือจนมือด้าน และขนาดของสาหร่ายแผ่นแต่ละชิ้นก็ออกมาไม่เท่ากัน สร้างความหงุดหงิดใจให้กับป้าศิริพรมานาน

จนในที่สุดเหมือนสวรรค์โปรด ส่ง ครูพิมลพรรณ พรหมทอง ครูสาขาวิชาวิทยาศาสตร์ วิทยาลัยเทคนิคน่าน ที่เล็งเห็นความสำคัญของเกษตรกรและเป็นผู้ที่มีใจมุ่งมั่นช่วยเหลือชุมชนบ้านเกิด เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของชุมชนบ้านหนองบัว จึงได้เข้ามาพูดคุยสอบถามถึงปัญหาของชุมชนและการแปรรูปผลิตสาหร่ายไก ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์โอท็อปของชุมชนชาวเมืองน่าน

ขณะที่ครูพิมลพรรณเข้ามาศึกษาดูงานการผลิตสาหร่ายไก ก็ทักป้าว่า
“ป้าศิริพรยังใช้กรรไกรตัดอยู่หรือ เจ็บมือไหม แล้ววันหนึ่งตัดได้กี่ชิ้น กี่แผ่นคะป้า?”
เป็นคำถามที่ตรงใจป้ามากเลย แต่ป้าก็ไม่รู้จะทำอย่างไร ป้าก็ทำอย่างนี้มานานแล้วล่ะ
“แต่ก็อย่างว่า มันไม่มีวิธีอื่น ก็ต้องใช้กรรไกรตัดอย่างนี้แหละคุณครู” ป้าศิริพร เล่าต่ออีกว่า
คุณครูพิมลพรรณ บอกกับป้าอีกว่า
“เดี๋ยวหนูจะช่วยคิด หาวิธีทำให้ป้าตัดสาหร่ายแผ่นได้เร็วขึ้นนะ และก็ตัดได้ปริมาณมากๆ ด้วย”
มันเป็นอะไรที่ตรงใจกับสิ่งที่ป้าต้องการมากที่สุด เพราะสาหร่ายแผ่นบางๆ ผืนใหญ่ๆ จะตัดอย่างไรให้ได้เร็วๆ และทุ่นแรงคนงาน คนแก่ๆ อย่างป้า

จากนั้นไม่นานครูพิมลพรรณก็พาคณะนักเรียนวิทยาลัยเทคนิคน่าน ลงพื้นที่มาดูกระบวนการผลิตสาหร่ายไกแผ่น และศึกษาปัญหา เมื่อเด็กนักเรียนมาถึงแต่ละคนก็มีหน้าที่ตามที่ได้รับมอบหมายแบ่งหน้าที่กันทำ โดยมีอุปกรณ์เครื่องวัดขนาดสาหร่ายแผ่น อีกทั้งตลับเมตร ไม้บรรทัด จดบันทึก อะไรต่างๆ ป้าก็ไม่เข้าใจ
เมื่อคณะเด็กนักเรียนและคุณครูพิมลพรรณกลับไป และก็กลับเข้ามาที่กลุ่มอีกครั้ง พร้อมๆ กับสิ่งประดิษฐ์ นวัตกรรมอุปกรณ์ตัดสาหร่ายแผ่น ที่ครูพิมลพรรณออกแบบสร้างขึ้นมาจากความคิดพื้นฐานด้านวิศวกรรมศาสตร์

และเด็กๆ ก็ช่วยกันยกลงมาจากหลังรถกระบะเพื่อให้ป้าได้ทดลองใช้
สิ่งประดิษฐ์ “อุปกรณ์ตัดสาหร่ายแผ่น” ที่ว่านี้ ประกอบไปด้วยโครงสร้างแบบเป็นโต๊ะไม้ มีแท่นวาง และมีใบมีดตัดที่มีลักษณะเป็นมือจับคันโยกสไลซ์มีดตัดที่คม น่าจะช่วยทุ่นแรงคนแก่อย่างป้าได้เป็นอย่างดี โดยวัสดุโครงสร้างทั้งหมดทำมาจากสแตนเลส ซึ่งเป็นวัสดุที่มีความปลอดภัยกับอาหาร อีกทั้งนวัตกรรมอุปกรณ์ตัดสาหร่ายแผ่นยังช่วยลดการสัมผัสสาหร่ายแผ่นจากมือในกระบวนการผลิตอีกด้วย
เรียกว่าเป็นการตอบโจทย์ สร้างความพึงพอใจให้กับป้าศิริพรเป็นอย่างมาก ที่จะได้เครื่องอุปกรณ์ตัดสาหร่ายแผ่นที่คิดไม่ตกและต้องการมานาน เพื่อไว้ใช้ในกลุ่มวิสาหกิจชุมชนแปรรูป สาหร่ายน้ำจืดครบวงจร บ้านหนองบัว

นอกจากนี้ อุปกรณ์ตัดสาหร่ายแผ่นยังได้รับการการันตีรางวัลชนะเลิศ เหรียญทองระดับประเทศ ในการประกวดผลงานสะเต็มศึกษา (STEM Education) ประจำปี 2565 ครั้งที่ผ่านมาอีกด้วย
และล่าสุดเมื่อเร็วๆ นี้ รองผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน คุณชัยนรงค์ วงศ์ใหญ่ ก็ได้มาแสดงความยินดีกับนวัตกรรมสิ่งประดิษฐ์ อุปกรณ์ตัดสาหร่ายแผ่น ที่วิทยาลัยเทคนิคน่าน พร้อมกับเป็นสักขีพยานในการส่งมอบอุปกรณ์ตัดสาหร่ายแผ่นเครื่องนี้ให้กับกลุ่มวิสาหกิจชุมชนแปรรูป สาหร่ายน้ำจืดครบวงจร บ้านหนองบัว โดยป้าศิริพรเป็นผู้รับมอบในครั้งนี้อีกด้วย

เรียกว่าเป็นบรรยากาศแห่งความปลาบปลื้มของครูพิมลพรรณและคณะลูกศิษย์นักเรียน อีกทั้งผู้บริหารของวิทยาลัยเทคนิคน่าน ที่ได้ร่วมกันผลักดันคิดค้นสิ่งประดิษฐ์ และสร้างนวัตกรรมชิ้นนี้ขึ้นมา เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของชุมชน และเป็นการปลดล็อกปัญหาในกระบวนการผลิตสินค้าชุมชนที่บ้านหนองบัว อำเภอท่าวังผา ในครั้งนี้ได้

ส่วนข้อมูลจำเพาะ สาหร่ายพืชน้ำจืด หรือสาหร่ายไก จังหวัดน่าน มีผลงานการวิจัยจาก ดร.ยุวดี พีรพรพิศาล ภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ที่ระบุว่า สาหร่ายไกมีคุณค่าทางอาหารมากกว่าสาหร่ายทะเลทั่วๆ ไป หลายเท่าตัว มีโปรตีนสูงเท่าๆ กับเนื้อปลา เนื้อไก่ และมีเบต้าแคโรทีน และสารต้านการเกิดอนุมูลอิสระ, มีวิตามิน บี 1 และบี 2 มากกว่าผัก, มีวิตามินบี 12 ซึ่งช่วยส่งเสริมความจำและช่วยป้องกันโรคโลหิตจาง, มีธาตุเหล็กและแคลเซียมช่วยบำรุงสมอง กระดูก และฟันให้แข็งแรง และยังมีเส้นใยกากอาหารสูงป้องกันอาการท้องผูกได้อีกด้วย

ท้ายนี้ ผู้อ่านท่านใดสนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือจะสั่งซื้อผลิตภัณฑ์สาหร่ายไก มีหลากหลายรส ติดต่อสอบถามได้โดยตรงที่ ป้าศิริพร คำหว่าง ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนแปรรูป สาหร่ายน้ำจืดครบวงจร หมู่ที่ 5 บ้านหนองบัว ตำบลป่าคา อำเภอท่าวังผา จังหวัดน่าน โทร. 087-188-4109, หรือโทร. 081-123-0023