มะเขือเทศเชอร์รี่สุดฮอต ของตราดบ้านผักฟาร์ม 1 ไร่ สร้างรายได้เลี้ยงครอบครัว

คุณเมธี และ คุณดวงกมล ยี่หวา เกษตรกรจังหวัดตราด เจ้าของ “ตราดบ้านผักฟาร์ม” บ้านเลขที่ 85/1 หมู่ที่ 6 ตำบลเนินทราย อำเภอเมืองตราด จังหวัดตราด มีอาชีพปลูก “ผักปลอดภัย” ในพื้นที่ 1 ไร่ สร้างรายได้หลักเลี้ยงครอบครัวได้มากว่า 20 ปี โดยการปลูกผักหลายๆ ชนิดเพื่อให้ได้ผลผลิตหมุนเวียนกันได้ตลอดปี

มีมะเขือเทศเชอร์รี่เป็นไฮไลต์สร้างรายได้หลัก และเมล่อนเป็นตัวชูโรงตามมา และมีผักอื่นๆ ที่ปลูกสลับหมุนเวียนไป เช่น ผักคะน้า กวางตุ้ง ถั่วฝักยาว บวบ จัดจำหน่ายด้วยตัวเองในจังหวัดที่ตลาดเกษตรกรจังหวัดตราดเป็นประจำอาทิตย์ละ 2-3 วัน และส่งตามออร์เดอร์ตามบ้านในบริเวณใกล้เคียง และขายทางออนไลน์ใช้บริการขนส่งโดยมีลูกค้าทั้งในจังหวัดและต่างจังหวัด

แปลงสาธิตดูงาน นวัตกรรมเกษตรกรตัวอย่าง

จากแตงร้านสู่นวัตกรรมโรงเรือน เพิ่มผลผลิต ปลูกผักปลอดภัย

คุณเมธี เล่าว่า เดิมไม่คิดทำอาชีพเกษตรกรรมเพราะเห็นว่าไม่ใช่อาชีพที่สร้างรายได้ เลือกทำมัคคุเทศก์เป็นอาชีพแรกเพราะอยากเที่ยว ลงหุ้นกับเพื่อน 3 คนทำทัวร์ เข้าอบรมได้บัตรมัคคุเทศก์ เป็นไกด์นำเที่ยวจังหวัดชายฝั่งทะเล ตอนทำงานส่วนใหญ่รับผิดชอบอยู่บนฝั่ง จำเป็นต้องหาความรู้ ประสบการณ์เชิงลึกด้านเกษตรกรรมนำเสนอนักท่องเที่ยว ทำอยู่พักหนึ่งเจอกับคุณดวงกมล และแต่งงานเป็นครอบครัวปี 2544 จึงตัดสินใจเปลี่ยนอาชีพมาทำสวนผัก เริ่มจากปลูกแตงร้าน โดยหาความรู้จากบริษัทเจียไต๋ที่ผลิตเมล็ดพันธุ์ ทำแล้วได้ผลผลิตมากกว่า 10 ตันต่อไร่ ที่เป็นแปลงทดลองของบริษัท และเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จากปีที่ 1 คิดว่าฟลุก พอปีที่ 2 เพิ่มเป็น 2 เท่าตัว ปีที่ 4-6 เพิ่มขึ้น 50-60 ตันต่อไร่ ซึ่งตอนนั้นได้คิดค้นสูตรสารแคลเซียมโบรอนมาใช้เองกับแตงร้าน ฉีดพ่นเพื่อการผสมเกสรติดลูกดีและมีขนาดใหญ่ทั้ง 2 ผลในขั้วเดียวกัน

ฟาร์มตราดบ้านผัก

ปี 2553-2554 เริ่มปลูกผักในโรงเรือนอย่างจริงจัง ตอนนั้นโรงเรือนยังไม่แพร่หลาย เป็นนวัตกรรรมใหม่ ต้องสั่งทำพิเศษ และราคาค่อนข้างสูง ขนาด 11×17 เมตร ราคาประมาณ 100,000 บาทเศษ เริ่มแรกสร้าง 1 หลังก่อน ใช้ปลูกมะเขือเทศเชอร์รี่เป็นหลัก และหมุนเวียนปลูกผักคะน้า กวางตุ้ง ถั่วฝักยาว บวบ ปลูกได้ปีละ 1 รอบเท่านั้น ต่อมาขยายเพิ่มโรงเรือนให้มากขึ้นเพื่อให้การปลูกมะเขือเทศได้รอบมากขึ้น 3 รอบในระยะเวลา 2 ปี และได้ปลูกเมล่อนเพิ่มขึ้นได้ด้วย

คุณดวงกมล ยี่หวา

ถึงตอนนี้มี 7 โรงเรือนขนาดเล็กใหญ่ต่างกันในพื้นที่ 1 ไร่ การปลูกจะแบ่งเป็นรอบๆ เพราะแต่ละรอบธาตุอาหารในดินที่สำคัญบางอย่างถูกใช้ไปเกือบหมดต้องฟื้นฟูขึ้นมาใหม่ เช่น รอบ 1 เริ่มปลูกมะเขือเทศปลายฤดูฝนใช้เวลา 4-5 เดือน สิ้นสุดประมาณเดือนกุมภาพันธ์ ธาตุโพแทสเซียมจะถูกนำไปใช้มาก รอบ 2 หันมาปลูกผักใบต่างๆ หมุนต่อ 3-4 เดือน และรอบที่ 3 ปลูกเมล่อนอีก 4-5 เดือน การปลูกใช้วิธีลงกระถางดินเพื่อจะได้เปลี่ยนดินทำรอบได้เร็วขึ้น

ภายในโรงเรือน

เลือกปลูกมะเขือเทศเชอร์รี่ เมล่อน เพราะมองว่ายังไม่มีคนปลูก คู่แข่งไม่มี ได้ราคาดี และเกษตรกรทั่วๆ ไปมองเป็นพืชที่ปลูกยาก ตลาดผู้บริโภคต้องการสูง และเมล่อนยังได้ราคาดีคงที่ทั้งปี แรกๆ ปลูกมะเขือเทศเชอร์รี่ปลูกพันธุ์ทรอปปิคอล ให้ผลดก 1 ช่อ ช่อละ 25-35 ลูก แต่มีรสเปรี้ยวตลาดไม่นิยม จึงค่อยๆ ปรับเปลี่ยนพันธุ์บริษัทเอกชนต่างๆ มาเรื่อยๆ ถึงปัจจุบันเปลี่ยนมาแล้ว 35 สายพันธุ์ ปัจจุบันปลูกสายพันธุ์ใหม่ PC3 และ PC11 ของ ผศ.ถาวร โกวิทยากร ที่ร่วมทำวิจัยกับ สวทช. ได้รสชาติหวาน กรอบ สีสวย ไม่มีเมล็ด ผลใหญ่ มีความต้นทานโรคได้ดี แต่อนาคตในส่วนตัวควรมีการพัฒนาได้มาตรฐานเพิ่มขึ้น

ผลอ่อน

“จังหวัดตราดเป็นจังหวัดที่มีฝนตกยาวนานถึง 8 เดือน เป็นปัญหาโรคแมลงในพืชผัก จึงเห็นว่าถ้าปลูกผักในโรงเรือนจะช่วยป้องกันแมลงศัตรูพืชโดยธรรมชาติ ไม่ต้องพึ่งสารเคมีมากนัก ปี 2553 เริ่มสร้างโรงเรือน 1 หลังปลูกมะเขือเทศเชอร์รี่ และหมุนเวียนปลูกพืชผักอื่นๆ เช่น คะน้า กวางตุ้ง ถั่วฝักยาว บวบ เมื่อได้ผลจึงขยายโรงเรือนเพิ่มขึ้นในขนาดพื้นที่เดิม 1 ไร่ แบบค่อยเป็นค่อยไปเพราะราคาโรงเรือนแต่ละหลังปัจจุบันราคาสูงถึง 300,000-400,000 บาท จาก 1 หลังเป็น 2-3 หลัง ตอนนี้มี 7 หลัง เพราะมะเขือเทศให้ผลผลิตดีมีตลาดตอบรับมาก และปลูกเมล่อนด้วย จากการปลูกผักในโรงเรือน ได้ข้อสรุปว่าเป็นการผลิตผักปลอดภัยจริงๆ ซึ่งการทำเกษตรกรรมต้องใช้ปุ๋ย สารเคมีกับปุ๋ยอินทรีย์ไปด้วยกันจะทำให้ผลผลิตสูง แต่ต้องใช้องค์ความรู้บริหารจัดการให้พอดีไม่ให้มีอันตราย ถ้าเราปลูกผักปลอดภัย จะทำให้ดีต่อผู้ผลิต ผู้บริโภค และสิ่งแวดล้อมปลอดภัยไปด้วยกัน” คุณเมธี กล่าว

ทยอยเก็บผลสุก 

ปั้นแบรนด์ “ตราดบ้านผัก”

คุณเมธีเล่าถึงความคิดการทำแบรนด์ของตัวเอง “ตราดบ้านผัก” เพราะไม่อยากขายผ่านคนกลาง และต้องการทำให้ได้มาตรฐาน GAP เพื่อให้ได้ราคาสูงกว่าปกติ เมื่อ 20 ปีก่อน ตราดบ้านผักฟาร์มเป็นแปลงผักแห่งแรกที่ขอและได้ใบรับรอง GAP แต่กว่าจะพัฒนาได้มาตรฐานเป็นที่ยอมรับใช้เวลาร่วม 10 ปี กว่าผู้บริโภคจะให้ความเชื่อมั่น ตราสัญลักษณ์ สติ๊กเกอร์ที่ติดกับผลผลิตทุกชนิดจากฟาร์ม คุณเมธีและคุณดวงกมลจะนำมาขายเองที่ตลาดเกษตรกรจังหวัดตราดของสำนักงานเกษตรจังหวัดตราด ที่มีเกษตรกรปลูกผักนำมาขายกันหลากหลาย

เก็บผลผลิตที่สุก

โดยผลผลิตของเกษตรกรจะมีการสุ่มตรวจหาสารเคมีตกค้าง เพื่อให้ผู้บริโภคมั่นใจผักปลอดภัย การมีแบรนด์ตราดบ้านผักการันตีจะช่วยให้กลุ่มลูกค้าที่รักสุขภาพเชื่อมั่น และเป็นลูกค้าประจำและบอกต่อ กลุ่มลูกค้ามี 2 ประเภท คือ ภายในจังหวัดที่มาซื้อที่ตลาดเกษตรกรเป็นประจำและสั่งซื้อให้นำมาส่งบ้าน และลูกค้าต่างจังหวัดดูเฟซบุ๊ก สั่งออนไลน์ แบรนด์ตราดบ้านผัก จะมีความสำคัญมาก เพราะการสั่งซื้อครั้งแรกไม่ได้ทดสอบหรือเห็นสินค้า ต้องรักษาคุณภาพมาตรฐานใหม่ สด ไม่มีความเสียหาย

ส่งจำหน่าย 

เคล็ดลับ เทคนิคการปลูกมะเขือเทศเชอร์รี่

คุณดวงกมลพูดถึงความอร่อยของมะเขือเทศ ตราดบ้านผักฟาร์ม คือ “สดทุกลูกอร่อยทุกเม็ด และปลอดภัยจากสารพิษ 100 เปอร์เซ็นต์” ดังนั้น ในกระบวนการผลิตของตราดบ้านผักจะพิถีพิถัน ดูแลให้สะอาด ปลอดภัยจากการใช้สารเคมี 100 เปอร์เซ็นต์

มะเขือเทศเชอร์รี่

คุณเมธี เผยเคล็ดลับความสำคัญ การผลิตมะเขือเทศเชอร์รี่ว่า

1. การคัดเลือกพันธุ์ที่ตลาดต้องการ

2. การรู้จักธาตุอาหารในดินและปริมาณที่พืชต้องการ ซึ่งเกษตรกรมักจะมองผ่าน ลักษณะดินที่ใช้ปลูกมีความชื้นโปร่งใช้ปลูกได้

3. การสร้างโรงเรือน ทั่วไปๆ อาจจะไม่จำเป็นนัก แต่พื้นที่จังหวัดตราดฝนตกหนักยาวนาน 8 เดือนมีความจำเป็นจะช่วยในเรื่องของการป้องกันแมลงได้ แต่ทางกลับกันถ้ามีแมลงหลุดเข้าไปในโรงเรือนจะแพร่ระบาดเป็นอันตรายมากเช่นกัน ตัวหลังคาใช้พลาสติกคัดกรองแสงเพื่อลดอุณหภูมิให้พอเหมาะกับการปัดดอกผสมเกสร

4. การปัดดอกมีความสำคัญมาก ช่วยให้การผสมเกสรให้ติดดอกติดผลได้ดี การผสมเกสรทำในช่วงเช้าหลังมีแดดออก แต่อุณหภูมิต้องพอเหมาะ ไม่ร้อนหรือชื้นเกินไป ประมาณ 20-25 องศาเซลเซียส

5. ระยะผลอ่อนเติบโตใช้เวลา 30 วัน จากนั้นดูแลให้น้ำหยดอย่างสม่ำเสมอทุกชั่วโมง ครั้งละ 1-2 นาที และการเก็บผล เมื่อผลมีสีออกแดงจัด ลองชิมรสชาติให้หวาน เลือกเก็บเป็นลูกๆ บางช่อมี 10 ผล ต้องใช้เวลาเวียนเก็บถึง 4 วัน หลังจากลูกแรกสุกแล้วรอให้ลูกสุดท้ายสุกประมาณ 1 สัปดาห์

เมล่อน กิโลกรัมละ 120 บาท

“การเคาะเกสรตัวผู้ลงในอับเรณูเกสรตัวเมีย ต้องสังเกต ดูอุณหภูมิ แสง ความชื้นที่พอเหมาะ ต้องเคาะเกสรตัวผู้ลงในอับเกสรตัวเมียทุกดอก เพื่อให้เติบโตเป็นให้เต็มช่อ ปกติ 1 ช่อมี 12 ลูก ต้องใช้ระยะเวลาเคาะ 4-5 วัน ในแปลงจะทำราวแขวนยาวตลอดเป็นแถวๆ เพื่อให้เคาะแต่ละครั้งได้เป็นแถวๆ หลังจากเคาะ 10 วัน เกสรจะผสมกันเห็นผลอ่อนๆ”

โรงเรือนเมล่อน 

รายได้สุทธิ 30 เปอร์เซ็นต์ ตลาดภายใน-ต่างจังหวัด 70 : 30

คุณดวงกมล พูดถึงกลุ่มลูกค้าว่า มี 2 กลุ่ม คือ กลุ่มลูกค้าภายในจังหวัด มี 70 เปอร์เซ็นต์ จะเป็นลูกค้าที่ที่ตลาดเกษตรกรจังหวัดตราดที่มาจำหน่ายสัปดาห์ละ 2-3 วัน 60 เปอร์เซ็นต์ จากนั้นเป็นออร์เดอร์ที่นำส่งตามบ้านในเส้นทางที่ใกล้เคียง 40 เปอร์เซ็นต์ และลูกค้าต่างจังหวัด ภาคเหนือ ภาคใต้ และจังหวัดใกล้เคียงจันทบุรี ระยอง อีก 30 เปอร์เซ็นต์ ที่ขายออนไลน์ผ่านเฟซบุ๊ก “ตราดบ้านผักฟาร์ม” และการบอกต่อ จะใช้บริการส่งทางไปรษณีย์ไทย โดยลูกค้าเสียค่าขนส่งเองตามจริง เราต้องการมีตลาดที่มั่นคง อย่างภาคตะวันออกที่อยู่ใกล้เคียง จันทบุรี ระยอง ชลบุรี เพราะถ้าส่งขายห้างรอบเงินชำระนานถึง 1 เดือนนานเกินไป

แปลงคะน้า

“ราคาที่ขายมะเขือเทศเชอร์รี่ กิโลกรัมละ 240 บาท เราตั้งตามราคาต้นทุนการผลิต มีรายได้สุทธิประมาณ 30 เปอร์เซ็นต์ ลูกค้าต่างจังหวัดขยายตัวดีแต่ไม่ได้ก้าวกระโดด ตลาดปี 2564 ค่อนข้างฝืดและปีนี้คงที่ อาจจะเป็นเพราะเศรษฐกิจไม่ดีนัก อนาคตเตรียมขยายโรงเรือนเพิ่มขึ้นอีก 2 โรงเรือน เพื่อให้ผลผลิตหมุนเวียนกันเพียงพอกับความต้องการของตลาดที่มีแนวโน้มเติบโตขึ้นจากผู้บริโภคคำนึงถึงสุขภาพ เพียงแต่เกษตรกรต้องรักษามาตรฐานไว้ ซึ่งมะเขือเทศเชอร์รี่ผลสดจะเก็บไว้ได้นาน 2 สัปดาห์ ในอุณหภูมิปกติ และ 1 เดือนในตู้เย็น” คุณดวงกมล กล่าว

ส่งลูกค้าต่างจังหวัด 

อาชีพเกษตรกรรมต้องทำจริง

ครอบครัวคุณเมธีและคุณดวงกมลทำอาชีพเกษตรกรรมในพื้นที่ 1 ไร่ มีรายได้หลักเลี้ยงครอบครัว มีเงินเก็บออม และส่งให้ลูกชายเรียนระดับมหาวิทยาลัยโดยไม่เดือดร้อน

คุณเมธี ทิ้งท้ายว่า “หลักของการทำอาชีพเกษตรกรรมต้องทำจริง และดูตัวอย่างจากคนที่ไม่เป็นหนี้”

ทั้งนี้ ด้วยประสบการณ์การสร้างองค์ความรู้ช่วยเหลือเพื่อนเกษตรกร และการประสบความสำเร็จโดยใช้ภูมิปัญญาและนำนวัตกรรมมาใช้ ทำให้คุณเมธีได้รับรางวัล “เพชรวัฒนธรรมถิ่นบูรพา ปี 2564” สาขาภูมิปัญญาชาวบ้าน จากมหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพรรณี จันทบุรี อันเป็นเกียรติและความภูมิใจ

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมตราดบ้านผักได้ที่ โทร. 086-149-8299 หรือ 062-220-7686 และ ไอดีไลน์ dk20509