สาวสุโขทัย วัย 19 ปี ต่อยอดสวนมะปรางคุณยาย ลุยตลาดออนไลน์ สร้างรายได้ไม่ธรรมดา

“สวนมะปรางบ้านพาฝันเป็นสวนที่มีขนาดเล็ก มีพื้นที่สวนทั้งหมด 2 ไร่ เราตั้งใจจะนำผลผลิตจากสวนของเราออกมาจำหน่ายให้ทุกท่านได้ลองเปิดใจชิม สวนเราเป็นสวนแบบออร์แกนิกแท้ 100% ใส่ใจทุกรายละเอียดค่ะ”

คุณฟ้า หรือ คุณโชติกา พุฒฤทธิ์ แห่งสวนมะปราง ณ บ้านสวนพาฝัน

และนี่คือจุดเริ่มต้นของการลงมือทำสวนมะปรางของ คุณฟ้า หรือ คุณโชติกา พุฒฤทธิ์ สาวน้อยวัย 19 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 1 มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม คณะครุศาสตร์ สาขาคณิตศาสตร์ และเกษตรกรวัยใสแห่งสวนมะปราง ณ บ้านสวนพาฝัน ตำบลเมืองบางขลัง อำเภอสวรรคโลก จังหวัดสุโขทัย ที่หันกลับมาต่อยอดอาชีพการทำสวนมะปรางของคุณยาย ในเนื้อที่เพียง 2 ไร่ พร้อมลุยตลาดออนไลน์ จนสามารถสร้างรายได้เลี้ยงตนเองและครอบครัวได้อย่างสบายๆ

ช่อดอกมะปราง

จุดเริ่มต้นของการปลูก คุณฟ้า เล่าว่า เดิมทีเพียงแค่ปลูกไว้รับประทานภายในครอบครัว แต่เมื่อเวลาผ่านไปผลผลิตที่ได้ภายในสวนนั้นมีปริมาณที่เยอะขึ้น จึงทำการกระจายผลผลิตของมะปรางที่ปลูกไว้ ด้วยการขายให้คนในชุมชน ก่อนจะมองเห็นโอกาสการสร้างรายได้ในช่องทางดังกล่าว อีกทั้งเธอยังมีประสบการณ์จากการขายของออนไลน์ จึงอยากจะเจาะกลุ่มเป้าหมายลูกค้าทางออนไลน์ ด้วยการเรียนรู้ ศึกษาและลงมือทำมาจนถึงปัจจุบัน

ต้นมะปรางสูงใหญ่

“หลังจากที่บ้านปลูกบ้านแล้ว มีที่เหลือประมาณ 2 ไร่ คุณยายก็เลยลงสวนมะปรางไว้เยอะประมาณหนึ่ง ประมาณ 7-8 ปี จากนั้นผลผลิตมันเยอะมาก ขายแล้วก็ยังเหลือ ตัวของฟ้าเองก็เลยอยากจะมาลองเปิดโลกออนไลน์ดูค่ะ ก็เลยสร้างเพจเฟซบุ๊กขึ้นมา เพื่อขายมะปรางค่ะ เพราะว่าปลูกแล้วขายแถวบ้านนั้นนานแล้ว ก็เลยอยากลงมือทำค่ะ อีกอย่างเห็นหลายๆ คนเขาก็ทำกันค่ะ”

มะปรางห่อผล พร้อมขาย

สำหรับวิธีการปลูกมะปราง ที่สวนมะปราง ณ บ้านสวนพาฝัน นั้น น้องฟ้า เล่าว่า ควรลงปลูกในช่วงของฤดูฝน เพราะต้นมะปรางจะได้รับปริมาณน้ำฝนอย่างสม่ำเสมอ และเป็นช่วงที่ต้นมะปรางมีการเจริญเติบโตทางด้านกิ่งใบ ไม่ควรปลูกช่วงแดดจัดและอากาศไม่ควรร้อนจนเกินไป ควรเป็นช่วงเช้าหรือช่วงเย็นเท่านั้น เพราะช่วงเวลาดังกล่าวจะทำให้ต้นมะปรางจะสามารถตั้งต้นได้เร็วขึ้น

ผลมะปราง พร้อมรับประทาน

“สวนของเรา มะปรางที่ลงปลูกจะอยู่ในช่วงหน้าฝน ซึ่งเป็นช่วงที่มีการเจริญเติบโตทางด้านกิ่งใบ ต้นมะปรางจะได้รับน้ำฝนในปริมาณที่สม่ำเสมอและก็จะทำให้ต้นมะปรางสามารถตั้งต้นได้เร็วขึ้น ควรจะปลูกในช่วงเช้าหรือเย็นค่ะ เพราะอากาศจะไม่ร้อนจนเกินไป”

คุณฟ้า ยังบอกต่ออีกว่า แม้ต้นมะปรางจะเป็นพืชที่ทนทานต่อความแล้งได้ดี แต่ก็ยังคงเป็นพืชที่ชอบน้ำ สิ่งที่สำคัญที่ผู้ปลูกมะปรางควรทำความเข้าใจคือ แม้จะเป็นพืชที่ชอบน้ำ เมื่อถึงเวลารดน้ำอย่าให้เกิดการขังของน้ำบริเวณโคนต้น เพราะจะให้รากเน่าและตายได้ในที่สุด

“โดยปกติมะปรางจะเป็นพืชที่ทนทานต่อความแล้งได้ดี แต่ก็เป็นพืชที่ชอบน้ำ ตอนที่ปลูกช่วงแรกๆ ควรรดน้ำในช่วง 2-3 วันแรก เป็นระยะเวลา 3 เดือนแรก หลังจากที่ต้นโตแล้ว ก็อาจจะยืดระยะเวลาการรดน้ำออกไป อาจจะเป็น 7-10 วัน รดน้ำ 1 ครั้ง ขึ้นอยู่กับความสะดวกของเราค่ะ รวมถึงขึ้นอยู่กับสภาพพื้นที่ที่เราปลูกด้วยว่าเป็นอย่างไรค่ะ รวมถึงเวลารดน้ำอย่าให้น้ำขังบริเวณรากโคน เพราะอาจจะทำให้รากเน่าได้ และอย่าให้น้ำในช่วงที่มะปรางกำลังติดช่อ ถ้าเราให้น้ำไป ช่อมะปรางอาจจะร่วง ซึ่งจะส่งผลต่อมะปรางรุ่นถัดไป แล้วเราจะกลับมาให้น้ำอีกครั้งคือช่วงมะปรางติดลูกเล็กๆ ประมาณเท่าหัวนิ้วโป้งมือ”

ช่วงที่มะปรางจะเริ่มออกผลผลิตจะอยู่ในช่วงเดือนพฤศจิกายน จนถึงเดือนมีนาคม ใครที่เป็นสายชอบรับประทาน ไม่ควรพลาดเด็ดขาด

ส่วนปัจจัยที่ส่งผลให้มะปรางมีผลผลิตที่น้อยลง ประกอบด้วยหลายปัจจัย เช่น หากพื้นที่ดังกล่าวน้ำท่วม ก็จะทำให้มะปรางมีผลผลิตที่น้อยลง ลูกไม่ดกเท่าที่ควร

สำหรับผลผลิตภายในสวนของคุณฟ้านั้น จะเป็นผลผลิตแบบออร์แกนิกแท้ 100% โดยคุณฟ้าให้เหตุผลว่าเมื่อลงมือทำแล้วนั้น ต้องเจอกับปัญหาต้นทุนที่สูงขึ้น เมื่อหันมาใช้เป็นปุ๋ยอินทรีย์ สิ่งหนึ่งที่สังเกตเห็นได้อย่างชัดเจนคือต้นทุนที่ลดลงนั่นเอง ซึ่งการใส่ปุ๋ยจะแบ่งออกเป็น 3 รอบ ดังนี้

  1. รอบแรกจะเป็นช่วงที่ต้นมะปรางยังเล็ก
  2. รอบสองเป็นช่วงที่ต้นมะปรางเริ่มติดดอก
  3. รอบสามจะใส่ก่อนที่จะเก็บเกี่ยวผลผลิตของต้นมะปราง

“ที่สวนจะใช้ปุ๋ยจากมูลสัตว์ 100% อย่างเดียว ล้วนๆ เลยค่ะ ซึ่งเราจะรับซื้อแถวบ้านค่ะ เพราะว่าแถวบ้านเขาจะมีการเลี้ยงวัว เลี้ยงไก่ อะไรแบบนี้กันอยู่แล้วค่ะ จะใช้เป็นมูลวัวและมูลไก่ค่ะ ซึ่งเหตุผลที่เราใช้ปุ๋ยคอก เพราะเริ่มแรกเราต้องการที่จะทำรับประทานเอง เราไม่อยากรับสารเคมี ก็เลยเลือกใช้ปุ๋ยอินทรีย์และที่สำคัญลดต้นทุน เพราะมีบางช่วงที่ต้นทุนสูงมากค่ะ ซึ่งมูลสัตว์ที่เราใช้ต้องผ่านการย่อยสลายมาแล้วจึงจะสามารถนำมาใช้ได้ เพราะจะมีธาตุอาหารจำพวกไนโตรเจน ฟอสฟอรัสแบบนี้เยอะ ตามที่เราต้องการ เพื่อที่จะให้ความหวานแก่มะปรางที่เราปลูกได้ค่ะ”

ในด้านโรคที่เกิดขึ้นและการป้องกันในการปลูกต้นมะปรางนั้น คือโรคราดำ เพลี้ยไฟ และโรคผลเน่า สามารถป้องกันได้ด้วยการฉีดสารชีวภาพ

เมื่อสอบถามถึงผลตอบรับของลูกค้า คุณฟ้า บอกว่า อยู่ในเกณฑ์ที่น่าพึงพอใจ ได้รับความสนใจทั้งกลุ่มลูกค้าที่เป็นลูกค้าประจำและลูกค้าใหม่ทั้งช่องทางออฟไลน์และออนไลน์

ราคาในการขายมะปราง ที่สวนมะปราง ณ บ้านสวนพาฝัน นั้นจะแบ่งออกเป็น 4 เกรด ดังนี้

1. ขนาด XL 12-14 ลูก ราคา 200 บาท

2. ขนาด L 15-18 ลูก ราคา 180 บาท

3. ขนาด M 19-20 ลูกราคา 160 บาท

4. ขนาดคละลูก คละไซซ์ คละลาย ราคา 120 บาท

สำหรับท่านใดที่สนใจจะสั่งซื้อหรือสอบถามเกี่ยวกับมะปราง สามารถติดต่อคุณฟ้า หรือ คุณโชติกา พุฒฤทธิ์ ได้ทางเพจเฟซบุ๊ก “สวนมะปราง ณ บ้านสวนพาฝัน” หรือทางเบอร์โทรศัพท์ 064-416-0597 และ 097-934-5464