ที่มา | เทคโนฯ ปศุสัตว์ |
---|---|
ผู้เขียน | ดาหวัน |
เผยแพร่ |
ไก่งวง จัดอยู่ในวงศ์ไก่ฟ้าและนกกระทา มีปากสั้นเรียวบาง บริเวณหัวบางส่วนและลำคอไม่มีขนที่เห็นชัด แต่มีหนังย่นๆ และตุ่มคล้ายหูด ขนหางมี 28-30 เส้น แพนหางชี้ตั้งขึ้น ขายาว ตัวผู้มีเดือย ขนตามลำตัวเป็นเงา ไก่งวงดั้งเดิมเป็นไก่ป่า พบบริเวณตอนเหนือและตอนกลางของทวีปอเมริกา และบริเวณประเทศเม็กซิโกและอเมริกากลางตอนเหนือ
ในอดีตไก่งวงเป็นสิ่งที่หาเจอยากมากในประเทศไทย ซึ่งแน่นอนว่าแทบไม่เคยเห็นเมนูนี้บนอยู่โต๊ะอาหาร แต่กลับพบมากในยุโรปและสหรัฐอเมริกา ตามบันทึกจากหลายๆ ที่เกี่ยวกับประวัติคริสตจักรได้ระบุว่า ไก่งวงได้เผยแพร่เข้าสู่ยุโรปเป็นที่แรกๆ โดยมีพ่อค้ารายหนึ่งซื้อไก่งวง จำนวน 6 ตัว มาจากพ่อค้าชาวอินเดียนแดงในเม็กซิโก และนำไปขายที่เมืองบริสทอล ประเทศอังกฤษ
โดยผู้ที่ได้กินไก่งวงเป็นคนแรกๆ ก็คือ “พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 7” ได้ทรงโปรดเสวยไก่งวงในเทศกาลคริสต์มาส ซึ่งนับว่าเป็นเหมือนวันขึ้นปีใหม่ของชาวยุโรป และก็เป็นวันรวมญาติด้วย นับจากนั้นมาชาวอังกฤษ จึงยึดหลักปฏิบัติตามเฉลิมฉลองด้วย “ไก่งวง” จนถึงทุกวันนี้
หากกล่าวถึงการเลี้ยงไก่งวงในประเทศไทย ในอดีตอาจไม่แพร่หลายและไม่เป็นที่นิยมมากนัก แต่ในปัจจุบันตลาดเริ่มกว้างขึ้น คนไทยหันมาบริโภคเนื้อไก่งวงมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการบริโภคแบบเป็นตัวๆ หรือเป็นเนื้อที่ถูกแปรรูปแล้ว การแปรรูปไก่งวงสามารถทำให้เกษตรกรผู้เลี้ยงเข้าถึงผู้บริโภคได้ง่ายขึ้น

คุณศรีสุนันท์ เดชบุตร หรือ คุณปู ประกอบอาชีพเป็นเกษตรกรเพาะเลี้ยงไก่งวงระบบฟาร์ม และประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชน ไก่งวง ราชบุรี ในอำเภอปากท่อ จังหวัดราชบุรี เลี้ยงไก่งวงมาแล้วกว่า 8 ปี
คุณศรีสุนันท์ กล่าวว่า เดิมทีเป็นคนที่ชื่นชอบในการกินไก่งวงอยู่แล้ว และในเริ่มแรกขายเฉพาะไก่งวงสวยงาม ตัวเมียสามารถขายออกได้ดีกว่าตัวผู้ ทำให้ภายในฟาร์มมีไก่ตัวผู้เหลือเยอะกว่าตัวเมีย ในเวลาต่อมามีนายทุนบริษัทใหญ่ชักชวนให้เลี้ยงไก่งวง โดยทางบริษัทใหญ่แห่งนี้จะรับซื้อไก่งวงจากเกษตรกรผู้เลี้ยงตามสัญญาที่แจ้งไว้

แต่เมื่อระยะเวลาผ่านไป ทางบริษัทใหญ่แห่งนี้ไม่รับซื้อไก่งวงตามที่ตกลงไว้ ทำให้คุณศรีสุนันท์และเกษตรกรผู้เลี้ยงไก่งวง จังหวัดราชบุรี ไม่สามารถหาตลาดเพื่อรับซื้อได้ เนื่องจากในอดีตต้องยอมรับว่าไก่งวงยังไม่เป็นที่นิยมมากนัก คุณศรีสุนันท์และเกษตรกรผู้เลี้ยงไก่งวงจังหวัดราชบุรี และจังหวัดอื่นๆ ได้ร่วมมือกันก่อตั้งกลุ่มวิสาหกิจชุมชน เพื่อให้หน่วยงานภาครัฐเข้ามาช่วยเหลือ เช่น หาตลาดรองรับ สอนกระบวนการแปรรูป ปรับปรุงผลิตภัณฑ์ เป็นต้น
ประเทศไทยเป็นศูนย์รวมของหลายชนชาติ มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม ทำให้ผู้บริโภคในปัจจุบันจำนวนไม่น้อย รับความนิยมของชาวยุโรป หันมากินไก่งวงมากขึ้น และจะขายดีอย่างมากในช่วงเทศกาลคริสต์มาส นอกจากนี้ ยังมีผลิตภัณฑ์แปรรูปจากไก่งวง อาทิ ไส้อั่ว ไก่จ๊อ ซุปไก่งวงสกัดเข้มข้น เป็นต้น

นอกจากนี้ ไก่งวงยังมีแคลเซียมสูง แคลอรีต่ำกว่าไก่ธรรมดาทั่วไป และมีไขมันอิ่มตัวที่น้อยกว่าเนื้อสัตว์อื่นๆ มีโปรตีนสูงกว่าเนื้อไก่ทั่วไป เนื้อวัว และเนื้อหมู มีกรดอะมิโนที่จำเป็นต่อการสร้างโปรตีนที่สมบูรณ์ของร่างกาย
การเลือกพ่อแม่พันธุ์และการฟักไข่
พ่อแม่พันธุ์ที่สมบูรณ์ ควรมีอายุ 8 เดือนขึ้นไป เพื่อไข่ที่สมบูรณ์ เมื่อแม่พันธุ์ออกไข่แล้วเกษตรกรผู้เลี้ยงจำเป็นต้องคัดไข่ให้ได้ขนาดที่ดี ลักษณะไม่เล็กจนเกินไป และทำความสะอาดไข่ให้เรียบร้อย ก่อนนำพักในห้องที่มีอุณหภูมิประมาณ 18-20 องศาเซลเซียส เป็นระยะเวลา 7 วัน หรือไม่ควรนานเกิน 10 วัน เนื่องจากจะทำให้เชื้อมีอัตราการตายสูง
จากนั้นนำเข้าตู้ฟักไข่ที่มีอุณหภูมิประมาณ 37 องศาเซลเซียส และหมั่นตรวจสอบการทำงานของตู้ฟักไข่เสมอ และตรวจเช็กรอยแตกร้าวของไข่ หากพบว่ามีไข่แตกร้าวให้นำออกจากตู้ฟักทันที ไข่ไก่งวงโดยปกติแล้วจะใช้ระยะเวลาในการฟัก 26-27 วัน แต่ในฤดูหนาวอาจจะต้องใช้ระยะเวลา 28 วัน
การอนุบาลลูกไก่งวงและอาหาร
การอนุบาลลูกไก่งวงจะเริ่มเมื่อลูกไก่งวงมีอายุ 3-4 วัน และอยู่ในคอกอนุบาลระยะเวลา 1 เดือน
อาหาร ลูกไก่งวงที่อายุยังไม่ถึง 2 เดือน จะกินอาหารจากพืชในท้องถิ่น เช่น หญ้าที่ผ่านการโม่แล้ว กากมันหมักยีสต์ รำข้าว ข้าวโพดแห้ง กล้วยดิบ เป็นต้น หากลูกไก่งวงมีอายุ 2 เดือนแล้ว จะเพิ่มอาหารสำเร็จรูปสำหรับไก่งวง 27 เปอร์เซ็นต์ และเพิ่มอาหารสำเร็จรูปสำหรับไก่งวง 30 เปอร์เซ็นต์ เมื่ออายุ 3 เดือนขึ้นไป อาหารจากพืชที่ให้ส่วนใหญ่จะเป็นแห้งไม่ใช่พืชสด เพราะหลีกเลี่ยงอาการท้องเสียได้ แต่กล้วยฝาดหรือกล้วยดิบมีสรรพคุณช่วยแก้อาการท้องเสียไก่งวงได้เช่นกัน

โรคในไก่งวง
ไก่งวงเป็นสัตว์ที่เลี้ยงง่าย แต่โรคที่มักเจอได้บ่อยๆ คือ โรคหน้าบวม ทางฟาร์มจะใช้สมุนไพรต้มให้ไก่งวงกินเพื่อป้องกันโรคหน้าบวม โดยสมุนไพรจะมีฟ้าทะลายโจรตากแห้ง ใบชาตากแห้ง หญ้าหนวดแมวตากแห้ง เป็นต้น โรคท้องเสียสามารถแก้ได้ด้วยบอระเพ็ด ต้มเป็นน้ำสมุนไพรให้ไก่งวงกิน
ไก่งวงที่สามารถขายได้ต้องมีอายุ 9-12 วัน สำหรับส่งให้โรงงานแปรรูปเพื่อนำไปบดแปรรูป จึงไม่จำเป็นต้องไซซ์ใหญ่มาก และสามารถขายยกตัวพร้อมบริโภคได้เมื่ออายุ 4-6 เดือน

ตลาดไก่งวง
สามารถขยายตัวได้ดียิ่งขึ้นในประเทศไทย ทั้งภาคอุตสาหกรรมแปรรูป การออกบูธในงานต่างๆ จากภาครัฐ และมีการส่งออกต่างประเทศ ทั้งมาเลเซีย สปป.ลาว และเวียดนาม เป็นต้น ทางฟาร์มเลี้ยงแบบอินทรีย์ มั่นใจ ปลอดภัยต่อผู้บริโภค เพื่อมุ่งเน้นต่อสุขภาพของผู้บริโภค ตลาดสุขภาพ และตลาดพรีเมี่ยม
คุณศรีสุนันท์ กล่าวว่า ฟาร์มไก่งวง ราชบุรี ของเราเปิดเป็นศูนย์เรียนรู้ให้แก่เกษตรกรและผู้ที่สนใจเข้ามาศึกษาดูงาน สามารถให้คำแนะนำได้ในทุกขั้นตอน การเลี้ยงยังไงให้รอด รวมไปถึงการหาตลาด พร้อมให้คำปรึกษาทุกอย่างเกี่ยวกับไก่งวง อยากให้เกษตรกรหรือผู้ที่สนใจเลี้ยงไก่งวง ได้เข้ามาศึกษาพูดคุยก่อนตัดสินใจเลี้ยง และอย่าเลี้ยงเพียงเพราะคำชักชวนจากนายทุน


สำหรับท่านใดที่สนใจ เนื้อไก่งวง ไก่งวงแปรรูป ลูกพันธุ์ไก่งวง ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ คุณศรีสุนันท์ เดชบุตร หรือ คุณปู โทรศัพท์ 089-914-816, 092-924-9942 ติดตามความเคลื่อนไหวได้ทางเฟซบุ๊ก : ไก่งวง ราชบุรี

…………………….
เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรก เมื่อวันพฤหัสที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2566