เผยแพร่ |
---|
ภาวะการแข่งขันทางด้านการผลิตสินค้าเกษตร โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “ข้าว” ซึ่งเป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศไทย ในปัจจุบันมีการแข่งขันกันอย่างรุนแรงจากต่างประเทศ เพื่อการพัฒนาคุณภาพและปริมาณ เพื่อสร้างรายได้ให้กับประเทศ สำหรับประเทศไทยจากอดีตจนถึงปัจจุบันเกษตรกรไทยยังประสบปัญหาด้านการผลิตข้าวให้ได้ทั้งคุณภาพและปริมาณ ทั้งนี้ อาจเป็นเพราะหลายปัจจัยทั้งภายในและภายนอก เช่น สภาพ อากาศ โรค แมลงศัตรูพืช ธาตุอาหารในดิน ความเหมาะสมของพื้นที่ในการเพาะปลูก รวมทั้งการใช้ปัจจัยการผลิตอย่างถูกวิธี
โครงการส่งเสริมให้ความรู้เชิงวิชาการเกี่ยวกับการผลิตข้าวให้กับเกษตรกรถือเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่ง เพราะจะทำให้เกษตรกรสามารถนำความรู้ที่ได้จากการอบรม นำไปประยุกต์ใช้กับการปลูกข้าวเพื่อให้ได้ผลผลิตที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น อีกทั้งยังสามารถลดต้นทุนการผลิต ส่งผลให้เกษตรกรมีรายได้มากขึ้น
บริษัท ไทยเซ็นทรัลเคมี จำกัด (มหาชน) จึงได้ประสานงานกับภาควิชาปฐพีวิทยา คณะเกษตร กำแพงแสนมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน จังหวัดนครปฐม จัดทำโครงการอบรมเกษตรกร เรื่อง เพิ่มข้าว เพิ่มผลผลิตข้าวไทย โดยเนื้อหาของโครงการอบรมเกษตรกรจะเป็นรูปแบบการบรรยายและการจัดเสวนาความรู้ด้านวิชาการโดยเน้นการใช้ปัจจัยการผลิต ไม่ว่าจะเป็น การจัดการพื้นที่เพาะปลูก ปุ๋ยหรือธาตุ อาหารของข้าว พันธุ์ โรคและแมลงต่างๆ รวมทั้งเทคโนโลยีในการเพิ่มผลผลิตข้าว
คุณสมรัก ลิขิตเจริญพันธ์ เจ้าหน้าที่บริหารและผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทยเซ็นทรัลเคมี จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า โครงการเพิ่มข้าวเกิดจากแนวความคิดและค่านิยมของบริษัท ที่มีความต้องการที่จะเพิ่มคุณภาพชีวิตของเกษตรกรไทย โดยเฉพาะชาวนาที่ปลูกข้าว จึงทำให้โครงการนี้ได้รับความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน ซึ่งให้องค์ความรู้อบรมกระบวนการการพัฒนาความคิด เพื่อเปลี่ยนวิถีการทำนาแบบเดิมๆ โดยใช้ปัจจัยการผลิตให้ถูกต้องตามหลักวิชาการ เพื่อเพิ่มปริมาณคุณภาพข้าวไทยให้มากขึ้น ที่ผ่านมามีการดำเนินการไปแล้วมากกว่า 35 จังหวัดในประเทศไทย
“ที่ผ่านมาถือว่าโครงการส่งเสริมให้ความรู้เชิงวิชาการเกี่ยวกับการผลิตข้าว ถือว่าได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ทำให้ชาวนาที่ได้เข้ามารับการอบรมนำความรู้ที่ได้ไปปรับใช้และช่วยเพิ่มผลผลิตได้เป็นอย่างดี จึงทำให้ชาวบ้านได้รับทราบและเข้าใจมากขึ้นว่า การผลิตข้าวให้ได้ผลผลิตที่ดีและปริมาณที่เหมาะสมนั้น ไม่ได้เกิดจากการที่ชาวนาต้องลดปัจจัยการผลิต หรือลดต้นทุน แต่เกิดจากการทำความเข้าใจว่าจะต้องทำอย่างไร ให้ใช้การผลิตได้ถูกต้อง เพื่อสามารถเพิ่มผลผลิตเพิ่มกำไรให้กับชาวนา” คุณสมรัก กล่าว
คุณสมรัก ยังกล่าวอีกว่า โครงการเพิ่มข้าวนี้ในอนาคตยังมีเป้าหมายที่จะต่อยอดให้ครอบคลุมไปทั่วประเทศ เพื่อต่อยอดองค์ความรู้นี้ต่อไป โดยได้รับความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน เพื่อจัดงานสัมมนานี้ให้เป็นงานที่ให้ความรู้ความเข้าใจของการผลิตข้าวได้อย่างมีประสิทธิภาพและปริมาณที่เพิ่มมากขึ้น
ด้าน รศ.นสพ.ดร.อนุชัย ภิญโญภูมมินทร์ รองอธิการบดี มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน กล่าวว่า มหาวิทยาลัยถือว่ามีความรู้ความชำนาญในเรื่องของการทำการเกษตร มีทั้งนักศึกษาและคณาจารย์ที่ลงพื้นที่จริงในการศึกษาและส่งเสริมในเรื่องของการทำเกษตร จึงทำให้มีการวิจัยและพัฒนาการเพิ่มคุณภาพสินค้าทางการเกษตรอยู่เสมอ จึงทำให้การผลิตข้าวเป็นอีกหนึ่งผลผลิตที่สำคัญที่อยากจะช่วยเพิ่มมูลค่า และให้ผลผลิตตรงความต้องการของตลาด จึงได้ทำการจับมือกับภาคเอกชนเพื่อจะพัฒนาการเพิ่มผลผลิตข้าวให้เร็วขึ้น เพื่อให้เห็นผลทางการสร้างรายได้เป็นเม็ดเงินที่กว้างขึ้นในระดับประเทศ
ดังนั้น ดินและปุ๋ย จึงเป็นปัจจัยที่สำคัญของการปลูกพืช จากความร่วมมือของการจัดงานในครั้งนี้ขึ้น จึงทำให้ภาคเอกชนได้ให้ความรู้กับเกษตรกรเครือข่ายที่ต้องการเข้าฝึกอบรม และทางมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน ได้เข้ามาเสริมในเรื่องขององค์ความรู้ให้ พร้อมทั้งทำการวิจัยไปพร้อมๆ กัน จึงทำให้โครงการเพิ่มข้าวนอกจากจะช่วยเกษตรกรได้เป็นอย่างมากแล้ว ยังสามารถสร้างองค์ความรู้ที่ถูกต้องให้กับเกษตรกรชาวนา
จากผลสำเร็จในการจัดงานในครั้งนี้ บริษัท ไทยเซ็นทรัลเคมี จำกัด (มหาชน) ได้มองไปถึงอนาคตว่าการร่วมมือในครั้งนี้ทั้งภาคเอกชน และหน่วยงานทางสถาบันการศึกษาอย่างมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน จะยิ่งช่วยส่งเสริมให้เกษตรกร โดยเฉพาะชาวนาได้ปลูกพืชอย่างถูกหลักวิชาการมากขึ้น เพื่อให้ได้ผลผลิตในปริมาณที่สูงและมีรายได้ดีหรือผลตอบแทนสูงขึ้นตามไปด้วย