พาณิชย์แก้ลำเอกชนกดราคาลำไย หนุนสินเชื่อโรงอบชุมชน-ซื้อตรงจากเกษตรกร

พาณิชย์หารือกองทุนหมู่บ้าน แบงก์รัฐสนับสนุนสินเชื่อโรงอบลำไยชุมชน ใน 8 จว.ภาคเหนือ นำเงินไปซื้อลำไยสดจากเกษตรกรมาแปรรูปเป็นลำไย อบแห้ง แก้ลำโรงอบรายใหญ่ไม่ยอมซื้อผลผลิต หวังกดราคาลงไปอีก

นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมช.พาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์กำลังหาแนวทางขอสินเชื่อจากทั้งกองทุนหมู่บ้านต่างๆ, ธนาคารเฉพาะกิจของรัฐ อาทิ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เพื่อให้โรงอบในชุมชนต่างๆ โดยเฉพาะในพื้นที่เพาะปลูกลำไยใน 8 จังหวัดภาคเหนือ มีเงินทุนหมุนเวียนนำไปรับซื้อลำไยสดจากเกษตรกร เพื่อแปรรูปเป็นลำไยอบแห้ง

นอกจากจะสามารถดูดซับลำไยที่กำลังออกสู่ตลาดจำนวนมากในขณะนี้ได้แล้ว ยังขายลำไยอบแห้งได้ราคาดีกว่ามากด้วย รวมทั้งต่อยอดไปยังการอบผลผลิตทางการเกษตรอื่นๆ ได้ด้วย อาทิ ข้าว ข้าวโพด เบื้องต้นคาดว่าจะได้งบประมาณ 30 ล้านบาท

“หลังจากที่ลงพื้นที่ไปดูสถานการณ์ลำไยที่ จ.เชียงใหม่ ลำพูน ในช่วงที่ผลผลิตออกสู่ตลาดพร้อมกันนี้ พบว่าหลายหมู่บ้านมีโรงอบขนาดเล็ก หรือโรงอบชุมชน แต่ไม่ได้เปิดดำเนินการ เนื่องจากไม่มีเงินทุนเพียงพอที่จะออกไปรับซื้อลำไยสดมาอบแห้ง และเห็นว่าโรงอบของภาคเอกชนขนาดใหญ่หลายแห่งยังไม่เข้ามารับซื้อผลผลิต อาจเพราะต้องการรอให้ราคาตกลงไปมากกว่านี้อีก” นายสนธิรัตน์ กล่าว

ดังนั้น จึงจะเร่งประสานไปยัง ธ.ก.ส. กองทุนหมู่บ้านฯ เพื่อหาสินเชื่อมาให้โรงอบขนาดเล็ก หรือโรงอบของสหกรณ์ต่างๆ เปิดดำเนินกิจการได้ เป็นอีกทางหนึ่งที่จะรองรับผลผลิตได้ด้วย โดยลำไยสดขณะนี้ราคากิโลกรัมละ 12 บาท แต่เมื่ออบแห้งแล้วสามารถขายได้ถึงกิโลกรัมละ 75-185 บาท ถือว่าเป็นราคาที่ดีมาก

นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า ได้เชิญหอการค้าแห่งประเทศ ไทย โครงการหลวงและผู้เชี่ยวชาญที่เกี่ยวข้องกับผลไม้ด้านต่างๆ มาประชุมร่วมจัดทำยุทธศาสตร์การค้า ผลไม้ไทย เพื่อให้ไทยขึ้นเป็นศูนย์กลางการค้าผลไม้ของโลก ให้ได้ รวมทั้งแก้ปัญหาผลไม้ไทยให้เบ็ดเสร็จ เพื่อไม่ต้องเผชิญปัญหาผลผลิตขาดแคลน หรือล้นตลาดอีกต่อไป

เบื้องต้นคาดว่าจะตั้งคณะทำงานขึ้นมาเพื่อดำเนินการให้เป็นรูปธรรม และจัดทำยุทธศาสตร์สำหรับผลไม้ที่ไทยมีศักยภาพ สามารถแข่งขันในตลาดโลกได้ 10 ชนิดก่อน อาทิ กล้วยหอม ทุเรียน มังคุด มะพร้าว

ขอบคุณข้อมูลจากข่าวสด