ส.ค.นี้คลอดยุทธศาสตร์ดันไทยฮับผลไม้โลก ตั้ง’ชูศักดิ์’ประธานทำแผน

ที่กระทรวงพาณิชย์ นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ผลการประชุมจัดทำยุทธศาสตร์การค้าผลไม้ของไทย ร่วมกับสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เบื้องต้นจะจัดทำยุทธศาสตร์การค้าผลไม้เพื่อผลักดันไทยเป็นมหาอำนาจด้านผลไม้ของโลก และเป็นศูนย์กลางผลไม้โลก โดยยุทธศาสตร์จัดทำเป็นระยะสั้น กลาง และยาว แผนระยะสั้นจะเป็นการแก้ไขปัญหาขณะกำลังเกิดขึ้น ส่วนแผนระยะยาวจะกำหนดแผนรองรับรายปี

ซึ่งจะเป็นการทำงานบูรณาการกับภาครัฐและเอกชน กำหนดเป็นยุทธศาสตร์หลักและยุทธศาสตร์รองของผลไม้ กำหนดตลาดภายในและต่างประเทศ ทั้งผลไม้สดและแปรรูป หากเรื่องเกี่ยวข้องกับหน่วยงานอื่นๆ เช่น คณะกรรมการพัฒนาและบริหารจัดการผลไม้ (ฟรุ๊ต บอร์ด) ที่มี พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธาน ก็จะนำเสนอแผนงานให้ต่อไป ในส่วนกระทรวงพาณิชย์ดูแลการค้า เบื้องต้นนำร่องใช้แผนยุทธศาสตร์กับทุเรียน มังคุด และมะพร้าวน้ำหอม

นอกจากนี้ ที่ประชุมมีมติตั้งนายชูศักดิ์ ชื่นประโยชน์ รองประธานกรรมการสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เป็นประธานการดำเนินงานจัดทำแผนยุทธศาสตร์การค้าผลไม้ของไทย ส่วนงบประมาณการดำเนินงานตามแผนฯ จะใช้งบเดิมของแต่ละหน่วยงานที่มีอยู่ แต่หากอนาคตจำเป็นต้องใช้งบเพิ่มเติมต้องทำเรื่องขอสนับสนุน

นายชูศักดิ์ ชื่นประโยชน์ ประธานคณะทำงานด้านพืชผัก ผลไม้ และแปรรูปสมุนไพร และรองประธานกรรมการ สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จะเร่งดำเนินการสรุปแผนยุทธศาสตร์ให้ได้ภายในเดือนสิงหาคมนี้ เน้นดูแลปริมาณและคุณภาพของผลไม้ ร่วมมือกับสหกรณ์ชุมชน สหกรณ์การเกษตรผลิตผลไม้คุณภาพเพื่อให้ได้ราคาสูงขึ้น โดยแผนระยะสั้นจะรวบรวมข้อมูลผลผลิตให้ทันสถานการณ์และตรงตามข้อเท็จจริง เพราะตัวเลขภาครัฐและเอกชนยังไม่ตรงกัน จะปรับข้อมูลให้ชัดเจนขึ้น และกำลังติดตามว่ามีผลไม้อะไรที่มีปัญหาจะวางแผนรับมือ พร้อมส่งเสริมยกระดับสินค้า สร้างแบรนด์ เชื่อมโยงตลาดต่างประเทศและจัดงานแสดงสินค้าผลไม้ด้วย  ขณะเดียวกันต้องดูเพาะปลูกระยะยาว เพื่อป้องกันผลผลิตล้นตลาด เช่น แนวโน้มปลูกทุเรียน และมะพร้าวน้ำหอมมากขึ้น จำเป็นต้องมีการบริหารจัดการ

ข้อมูลสถานการณ์ผลไม้ ปี 2560 ของสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร คาดการณ์ปริมาณผลผลิตผลไม้รวมทุกชนิดรวม 4.14 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 16% แบ่งเป็นทุเรียน 5.99 แสนตัน เพิ่มขึ้น 19.37% เงาะ 2.38 แสนตัน เพิ่มขึ้น 30.54% มังคุด 2.05 แสนตัน เพิ่มขึ้น 10.55% ลองกอง 3.86 หมื่นตัน ลดลง 59.47% ลำไย 9.71 แสนตัน เพิ่มขึ้น 28.30% ลิ้นจี่ 4.75 หมื่นตัน เพิ่มขึ้น 45.15% และสับปะรด 2.04 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 11.14%