เผยแพร่ |
---|
เตรียมทำธุรกรรม เช็กราคาที่ดิน โฉนด ส.ป.ก. 72 จังหวัด ได้แล้ว ยกเว้น 5 จังหวัด ไร้ที่ดิน ส.ป.ก.
วันที่ 15 มกราคม 2567 เพิ่งจะคิกออฟไปสดๆ ร้อนๆ เช้านี้ (15 มกราคม 2567) สำหรับโครงการเปลี่ยนหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดิน (ส.ป.ก. 4-01) เป็นโฉนดเพื่อการเกษตร สำหรับสิทธิประโยชน์ที่เกษตรกรจะได้รับจากโฉนดเพื่อการเกษตร
โดยมี ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวเป็นประธานเปิดงาน Kick off พิธีมอบโฉนดเพื่อการเกษตรเป็นของขวัญปีใหม่ พ.ศ. 2567 ตามนโยบายรัฐบาลที่แถลงต่อรัฐสภา เมื่อวันที่ 11 กันยายน 2566
โครงการนี้มีคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ได้อาศัยอำนาจตามมาตรา 30 เห็นชอบในการพิจารณาปรับปรุงเอกสารสิทธิการใช้ประโยชน์ ส.ป.ก.4-01 ให้เป็นโฉนดเพื่อการเกษตรตามนโยบายของรัฐบาล
5 จังหวัด ที่ไม่มีที่ดิน ส.ป.ก.
ขณะนี้มีเกษตรกรที่เข้าคุณสมบัติการเปลี่ยนเป็นโฉนดเพื่อการเกษตร จำนวน 2.27 ล้านแปลง เนื้อที่ประมาณ 22 ล้านไร่ เกษตรกร จำนวน 1.6 ล้านคน เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจแก่เกษตรกรผู้ได้รับโฉนดเพื่อการเกษตร ส.ป.ก. จึงได้จัดพิธี kick off การมอบโฉนดเพื่อการเกษตรให้แก่เกษตรกร พร้อมกันทั่วประเทศ จำนวน 25,000 ฉบับ ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ 72 จังหวัด
แต่รู้หรือไม่ว่า ยังมีพื้นที่ อีก 5 จังหวัด ที่ไม่มีที่ดิน ส.ป.ก. นั่นคือ
1. สมุทรปราการ
2. สมุทรสงคราม
3. สมุทรสาคร
4. กรุงเทพฯ
5. นนทบุรี
ความพิเศษของ โฉนด ส.ป.ก.
ผู้ที่ได้รับ โฉนดที่ดิน ส.ป.ก. ไปแล้ว แน่นอนว่าจะสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้หลากหลายด้าน เพราะสามารถเปลี่ยนมือได้ (โอนสิทธิ) สามารถโอนคืน ส.ป.ก. ได้ โดยโอนคืนให้ ส.ป.ก. ทั้งแปลงหรือบางส่วนได้ โดยได้รับค่าชดเชย หากเกษตรกรไม่ประสงค์ประกอบอาชีพเกษตรกรรม สามารถสละสิทธิให้เกษตรกรอื่นที่มีคุณสมบัติตามกำหนด โดยสามารถเปลี่ยนมือให้แก่เกษตรกรอื่นที่มีคุณสมบัติตาม ส.ป.ก. กำหนด
ทั้งยังสามารถใช้ค้ำประกันตัวบุคคล โดยเป็นหลักทรัพย์ประเภทหนึ่งที่สามารถค้ำประกันตัวบุคคลทั้งในชั้นสอบสวนและชั้นศาล โดยความร่วมมือกับกระทรวงยุติธรรมและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
และสร้างรายได้ให้เกษตรกร เพิ่มทรัพย์สินโดยส่งเสริมการปลูกไม้มีค่า 10 ต้นต่อไร่ ซึ่งสามารถใช้ต้นไม้ค้ำประกันสินเชื่อ (โฉนดต้นไม้) และขาย Carbon Credit โดยความร่วมมือกับ กรมป่าไม้, ธ.ก.ส. และ อบก.
และได้รับการส่งเสริมและพัฒนาจากรัฐในด้านโครงสร้างพื้นฐาน สาธารณูปโภค ซึ่งมีการทำ MOU 16 หน่วยงาน ด้านการพัฒนาอาชีพ และรับเงินชดเชยหรือเยียวยาภัยพิบัติ
แต่ไฮไลต์ที่น่าสนใจที่สุดน่าจะเป็นการนำโฉนดที่ดินไป “เพิ่มวงเงินสินเชื่อ” ทำให้เข้าถึงแหล่งทุนใหม่ สามารถเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันได้ โดยขยายวงเงินสินเชื่อให้กับเกษตรกรที่ขอกู้กับ ธ.ก.ส. หรือใช้ไม้มีค่าที่ปลูกบนที่ดิน ค้ำประกันสินเชื่อให้เต็มวงเงิน 100% และสามารถขอสินเชื่อนโยบายจากกองทุน ส.ป.ก. เต็มวงเงินตามราคาประเมินที่ดินของกรมธนารักษ์ นอกจากนั้น ยังเพิ่มแหล่งสินเชื่อใหม่ โดยการเจรจากับกรมส่งเสริมสหกรณ์ ชุมนุมสหกรณ์ สถาบันการเงินของรัฐ และสถาบันการเงินอื่น
เช็กราคาที่ดิน ส.ป.ก.
สำหรับผู้ที่มีโฉนดที่ดิน ส.ป.ก. แล้วต้องการไปทำธุรกรรมขอสินเชื่อนั้นสามารถทำได้ง่ายมาก เพราะราคาที่ดิน ส.ป.ก. จะใช้ราคาเดียวกับราคาประเมินที่ดินที่อ้างอิงจากกรมธนารักษ์นั่นเอง
ส่วนวิธีการเช็กราคา โดยปกติการตรวจสอบราคาประเมินที่ดินจะสามารถทำได้ที่กรมที่ดิน
แต่คงต้องมาลุ้นว่า ในอนาคตหากมีการออกโฉนดที่ดิน ส.ป.ก. จนครบ เช่นเดียวกับที่ดินทั่วไป ก็อาจจะพัฒนาให้สามารถใช้วิธีการเช็กจากเลขที่โฉนดผ่านระบบออนไลน์เช่นเดียวกับที่ดินทั่วไปได้