เผยแพร่ |
---|
เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) นพ. ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) แถลงข่าวการจัดงานมหกรรมสมุนไพรแห่งชาติครั้งที่ 14 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 30 สิงหาคม-3 กันยายน 2560 ที่ อิมแพค เมืองทองธานี ว่า การส่งเสริมสมุนไพรไทยเป็นหนึ่งในนโยบายหลักของรัฐบาล เนื่องจากไทยมีทรัพยากรที่เป็นพืชสมุนไพรจำนวนมาก รวมทั้งมีภูมิปัญญาท้องถิ่นของไทยในเรื่องเหล่านี้ การจัดงานมหกรรมสมุนไพรเป็นประจำทุกปี เป็นช่องทางหนึ่งในการกระตุ้นให้คนไทยหันมาใช้สมุนไพรไทยมากขึ้น
ภก. ณัฐดนัย มุสิกวงศ์ หัวหน้าฝ่ายพัฒนางานวิจัยด้านสมุนไพรและการแพทย์แผนไทย รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร กล่าวว่า ปกติแล้วเพศชายจะมีภาวะเครียดและไม่รู้วิธีการคลายเครียด จนบางครั้งส่งผลให้เกิดปัญหาอวัยวะเพศชายไม่แข็งตัว สมรรถภาพทางเพศเสื่อม เป็นต้น ในทางการแพทย์แผนปัจจุบันเรียกว่านกเขาไม่ขัน ไม่แข็งตัว ซึ่งมีสาเหตุมาจากการหมุนเวียนของโลหิตไม่ดี ซึ่ง รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศรมีการค้นหาตำรับยา เพื่อดูแลเพศชาย และเลือกเอา “ตำรายาสัปดน” มีสูตรบำรุงกำลังมากกว่า 20 สูตร และเป็นที่นิยมของทางภาคใต้ที่ใช้มานาน โดยการดึงมา 1 ตำรับ คือ “ยาเสาเรือนคลอน”
ภก.ณัฐดนัยกล่าวอีกว่า สำหรับยาเสาเรือนคลอน ประกอบด้วยสมุนไพร 5 ชนิด ได้แก่ 1. ม้าถอนหลัก 2. ผักหม หรือผักโขม 3. แก่นลั่นทมหรือลีลาวดี 4. สังวาลพระอินทร์ และ
5. ไม้หลักปักคงคาหรือว่านน้ำ โดยนำสมุนไพรทั้ง 5 ชนิดมาตากให้แห้ง นำมาต้มในถุงผ้าและกรองเอาน้ำที่ผ่านการต้มแล้วมาดื่มเป็นลักษณะยาต้ม แต่ละวันควรดื่มประมาณ 3 แก้วกาแฟ โดยสัดส่วนในการต้มจะใช้ม้าถอนหลักมากกว่าสมุนไพรตัวอื่นโดยใช้ทั้งต้น ส่วนอีก 4 ชนิดจะใช้ในปริมาณที่เท่ากัน ว่านน้ำจะใช้ส่วนราก แก่นลั่นทมจะใช้ส่วนของแก่น ผักขมใช้ได้ทั้งต้น และสังวาลพระอินทร์ใช้ส่วนราก
“ยาเสาเรือนคลอนมีสรรพคุณทางยาที่ดีช่วยบำรุงกำลังแก้ปวดเมื่อย ช่วยในการไหลเวียนโลหิต ก็จะช่วยแก้ปัญหาอวัยวะเพศไม่แข็งตัวได้ เพราะการที่โลหิตไหลเวียนดีขึ้นก็จะทำให้อวัยวะเพศแข็งตัวได้ดีขึ้นเช่นกัน จึงสามารถช่วยแก้ปัญหาสมรรถภาพเสื่อมได้ โดยในส่วนของว่านน้ำมีฤทธิ์ร้อนทำให้ระบบไหลเวียนโลหิตดีขึ้น สามารถดื่มได้ทั้งเพศชายและเพศหญิง แต่ในกลุ่มหญิงตั้งครรภ์ไม่ควรดื่ม อาจส่งผลต่อทารกในครรภ์ ซึ่งยาเสาเรือนคลอนเป็นชื่อที่ใช้มาตั้งแต่โบราณ และ รพ.อภัยภูเบศรจะต้องมีการพัฒนาและต่อยอดผลิตภัณฑ์ต่อไป” ภก.ณัฐดนัย กล่าว
ขอบคุณข้อมูลจากมติชนรายวัน