เกษตรกรกัดฟัน “ตรึงราคา” หมู-ไข่ สวนทางต้นทุนการเลี้ยงหน้าร้อน

เกษตรกรกัดฟัน “ตรึงราคา” หมู-ไข่ สวนทางต้นทุนการเลี้ยง หน้าร้อนต้องเพิ่มต้นทุนซื้อน้ำแพง ไก่ให้ผลผลิตลด บางรายแบกไม่ไหวเบรกเลี้ยงชั่วคราว

วันที่ 22 พฤษภาคม 2567 นายสิทธิพันธ์ ธนาเกียรติภิญโญ นายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า สมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ จะตรึงราคาสุกรมีชีวิตหน้าฟาร์ม ในวันพระ 22 พฤษภาคม 2567 ไว้เท่ากับวันพระก่อนหน้า ที่ 15 พฤษภาคม 2567 ดังนี้ ภาคตะวันตก ราคา 72 บาทต่อกิโลกรัม ภาคตะวันออก ราคา 72-76 บาทต่อกิโลกรัม ภาคอีสาน ราคา 76 บาทต่อกิโลกรัม ภาคเหนือ ราคา 75-78 บาทต่อกิโลกรัม ภาคใต้ ราคา 76 บาทต่อกิโลกรัม ลูกสุกรขุนเล็ก 16 กิโลกรัม วันจันทร์ที่ 13 พฤษภาคม 2567 : 1,900 บาท บวก/ลบ 74 บาท

ทั้งสาเหตุที่ตรึงราคางวดก่อนหน้าเป็นผลจากสภาวะการค้าสุกรขุนหน้าฟาร์มยังคงทรงตัว ตัวเลขเข้าเชือด เดือนเมษายน 2567 อยู่ที่ 1,949,234 ตัว หรือเฉลี่ย 64,974 ตัวต่อวัน เป็น New High Record  ทำลายสถิติ มกราคม 2567 ที่เฉลี่ยต่อวัน 63,663 ตัว

ส่วนโครงการรักษาเสถียรภาพราคาสุกร (หมูหัน) เปิดรับสมัครฟาร์มขนาด 2,000 แม่พันธุ์ขึ้นไป โดยกำหนดจำนวนลูกสุกรที่จะตัดวงจรไว้ที่ 5% ของจำนวนแม่พันธุ์นั้น ทยอยดำเนินการ โดยจะเปิดรับสมัครทั้งฟาร์มร่วมโครงการ และผู้ประกอบการรับซื้อ ถึงวันที่ 23 พฤษภาคมนี้

สอดคล้องกับสมาคมการค้าผู้เลี้ยงสุกรภาคใต้ ที่ประกาศคืนวันที่ 21 พฤษภาคม 2567 ว่าจะตรึงราคาแนะนำสุกร วันพระที่ 22 พฤษภาคม 2567 ทั้งสุกรขุนและสุกรซีก

แม่พันธุ์คัดทิ้ง ราคา 46 บาท ลูกสุกร 16 กิโลกรัม ราคา 1,900+-76 บาท

ขณะที่สถานการณ์ราคาไข่ไก่นั้น นางพเยาว์ อริกุล นายกสมาคมการค้าผู้เลี้ยงไก่ไข่รายย่อยภาคกลาง กล่าวว่า ประกาศของเครือข่ายสหกรณ์ผู้เลี้ยงไก่ไข่ 4 สหกรณ์ ตรึงอยู่ที่ 3.80 บาทต่อฟอง แม้ว่าต้นทุนการผลิตไข่ไก่จะสูงขึ้น และในช่วงฤดูร้อน 2-3 เดือนที่ผ่านมา อากาศร้อนจัดมาก อุณหภูมิสูงระดับ 40-44 องศาเซลเซียส ส่งผลกระทบโดยตรงทำให้แม่ไก่เครียด ไข่ลดลง และฟองมีขนาดเล็ก

Advertisement

“ผู้เลี้ยงจำเป็นต้องหาทางช่วยระบายความร้อนให้อากาศในโรงเรือนเย็นลงเพื่อรักษาแม่ไก่ไว้ ด้วยการเปิดพัดลมและพ่นสเปรย์น้ำ ขณะที่หลายฟาร์มขาดน้ำ ต้องซื้อน้ำดื่มและซื้อน้ำมาทำความเย็นในระบบอีแว้ปเพื่อช่วยให้สัตว์อยู่สบายขึ้น ทำให้ต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้นส่งผลให้หลายฟาร์มประสบปัญหาขาดทุนเพิ่มขี้น เพราะต้นทุนสูงกว่าราคาขาย ที่ประกาศ 3.80 บาท แต่เกษตรกรไม่สามารถขายได้ตามราคาประกาศ เพราะไข่ฟองเล็ก ซึ่งเป็นผลจากอากาศร้อนจัด ทำให้หลายฟาร์มต้องหยุดนำแม่ไก่เข้าเลี้ยง รอดูระยะเวลาที่เหมาะสมให้ฝนตก มีน้ำเพียงพอ เพื่อช่วยให้การเลี้ยงมีประสิทธิภาพที่ดีขึ้นโดยต้นทุนไม่สูงเกินไป”

“ช่วงร้อนแล้งที่ผ่านมา แม้ฟาร์มไก่ไข่ต้องแบกภาระต้นทุนทั้งค่าน้ำและค่าไฟฟ้าสูงขึ้นมากกว่าปกติหลายเท่า แต่ก็ต้องทำทุกวิถีทางเพื่อรักษาแม่ไก่และผลผลิตไว้ โดยเฉพาะพื้นที่ที่ขาดน้ำ เกษตรกรต้องลงทุนซื้อน้ำดื่มมาใช้ในฟาร์ม ล้วนเป็นปัจจัยผลักดันต้นทุนทั้งสิ้น ขณะที่บางรายขาดทุนจนต้องเลิกเลี้ยงไปแล้ว” นางพเยาว์ กล่าว

Advertisement

นางพเยาว์ กล่าวว่า แม้ต้นทุนการผลิตไข่ยังขยับขึ้นต่อเนื่อง แต่ฟาร์มก็ยังคงดูแลแม่ไก่ให้ดีที่สุด เพื่อให้ไข่ไก่มีปริมาณเพียงพอต่อการผู้บริโภค เพราะถือเป็นหน้าที่ของเกษตรกรที่ดี ผู้บริโภคจึงไม่ต้องกังวลว่าไข่จะขาดแคลน ขณะที่ราคาไข่ไก่ปรับขึ้น-ลง ก็เป็นไปตามอุปสงค์อุปทาน

ทั้งนี้ ไข่ไก่ เป็นอาหารโปรตีนคุณภาพดีและเข้าถึงได้ง่ายที่สุด เมนูไข่ยังเป็นอาหารยอดนิยมของคนทุกเพศทุกวัย ทั้งไข่เจียว ไข่ดาว ไข่พะโล้ ไข่ต้ม ฯลฯ ส่วนช่วงโรงเรียนเปิดเทอมจะมีความต้องการไข่เบอร์เล็กมากขึ้น ตามความต้องการของร้านอาหารในโรงเรียน

 

ที่มา : ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ https://www.prachachat.net/economy/news-1569671