ที่มา | ข่าวเด่นวันนี้ |
---|---|
ผู้เขียน | เทคโนโลยีชาวบ้านออนไลน์ |
เผยแพร่ |
ตุ๊ก – ชนกวนันท์ นักแสดงสาวที่มีอาชีพเสริมเป็น “ชาวนา” ปลูกข้าวไรซ์เบอรี่และข้าว กข. 43 เป็นสินค้าทางเลือกให้กับคนรักษ์สุขภาพ สร้างเครือข่ายผู้ปลูกข้าวอินทรีย์กว่า พันไร่เจาะตลาดออนไลน์
งาน ‘มหัศจรรย์ข้าวไทย 2024’ เสวนาสุดเอ็กซ์คลูซีฟเรื่องข้าวที่คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อน เล่าเรื่องข้าวครบทุกด้าน จากผู้เชี่ยวชาญตัวจริง ช่วงบ่ายวันที่สองของการจัดงาน ( 1 มิ.ย.2567 ) เวทีเล่าเรื่องข้าวเกษตรอินทรีย์ : ตุ๊ก – ชนกวนันท์ รักชีพ นักแสดงสาวที่มีอาชีพเสริมเป็น “ชาวนา” มาบอกเล่าเรื่องราวการทำนาวิถีเกษตรอินทรีย์แบบครบวงจร ปลูกเอง เก็บเอง ผลผลิตแห่งความภาคภูมิใจ
ตุ๊ก – ชนกวนันท์ รักชีพ นักแสดงสาวใส่ใจเรื่องการดูแลรักษาสุขภาพ หากเจ็บป่วยก็ใช้อาหารเป็นยา จับผลัดจับพลูเข้าสู่วิถีเกษตรอินทรีย์เพราะอยากให้ “ ลูก ” ได้เรียนรู้สัมผัสวิถีธรรมชาติ ประกอบกับ คุณพ่อบุญธรรม “ สุธา นิติภานนท์ สนใจทำนาวิถีออแกนิกอย่างครบวงจรของในชื่อ “ สุธาทิพย์ ฟาร์ม” บนเนื้อที่ 100 ไร่ ในอำเภอสองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี เพื่อให้คนไทยได้กินข้าวที่ปลอดภัย ซึ่งตุ๊กและพี่สาวได้ช่วยคุณพ่อทำนาออแกนิกตั้งแต่ปีแรกจนถึงทุกวันนี้เป็นระยะเวลา 9ปีแล้ว
กว่าจะเป็นนาข้าวอินทรีย์แบบสมบูรณ์ได้ ต้องใช้เวลาปรับตัวพอสมควร ลงทุนทำนาอินทรีย์ปีแรกถือว่า ขาดทุน ได้ผลผลิตแค่ 30% แต่หลังจากเข้าสู่ปีที่ 3-5 นาอินทรีย์จะให้ผลผลิตสูงขึ้นก็ไม่ขาดทุนแล้ว ฟาร์มแห่งนี้ ปลูกข้าวไรซ์เบอรี่ปลอดสารพิษ ล้านเปอร์เซนต์ ใช้ปุ๋ยอินทรีย์ เปลือกไข่ไก่ และน้ำหมักชีวภาพบำรุงดูแลต้นข้าวโดยปลูกข้าวปีละ 2 ครั้ง นอกจากนี้ยังชักชวนแปลงนาข้างเคียงเข้ามาร่วมทำนาอินทรีย์ร่วมกัน ปัจจุบันมีชาวนาในท้องถิ่น ที่จังหวัดสุพรรณบุรีและชาวนาภาคอีสานบางส่วนเข้าร่วมเครือข่ายผู้ปลูกข้าวอินทรีย์ไม่ต่ำกว่า พันไร่ โดยวางแผนการผลิตและการตลาดร่วมกันให้มีผลผลิตเพียงพอสำหรับป้อนตลาด
ตุ๊ก กล่าวว่า ฟาร์มแห่งนี้ ถือเป็นผู้ผลิตข้าวไรซ์เบอร์รี่แห่งแรกแห่งเดียวของไทยที่มีโรงสีเป็นของตัวเอง และปลูก ข้าว กข 43 ที่มีดัชนีน้ำตาลต่ำเพื่อเป็นสินค้าทางเลือกสำหรับผู้ป่วยเบาหวานและควบคุมน้ำหนัก เน้นเจาะตลาดผ่านช่องทางตลาดออนไลน์เป็นหลัก สร้างยอดขายเลี้ยงตัวเองได้และมีลูกค้าขาประจำจำนวนมาก ที่กลับมาซื้อซ้ำต่อเนื่อง เพราะมีควบคุมการผลิตตั้งแต่ปลูก จนถึงการแปรรูป มีโรงสีข้าวเป็นของตัวเอง ที่ได้มาตรฐาน GMP สามารถสีข้าวสดใหม่ได้ตลอด ทำให้ลูกค้าได้กินข้าวอินทรีย์สดใหม่ รสชาติอร่อย และมีคุณค่าทางอาหารที่ดีต่อสุขภาพได้ทุกวัน ปัจจุบันกำลังทดลองเลี้ยงไก่ไข่อินทรีย์ เพื่อเป็นสินค้าทางเลือกให้กับกลุ่มผู้รักสุขภาพอีกทางหนึ่ง
ตุ๊กมอง ตลาดข้าวอินทรีย์ว่า เป็นสินค้าที่มีอนาคตสดใส เพราะเป็นทั้งอาหารและยา เป็นที่ต้องการของกลุ่มคนรักษ์สุขภาพ ปัจจุบันมีคนรุ่นใหม่จำนวนมากตัดสินใจลาออกจากงานประจำ และหันมาเกษตรอินทรีย์กันมากขึ้น สำหรับเกษตรกรมือใหม่ที่สนใจอยากทำนาอินทรีย์ แนะนำให้เปิดเวปไซต์กรมการข้าว เพราะเป็นแหล่งข้อมูลที่ดี มีสาระความรู้มากมายที่เป็นประโยชน์ต่อการเพาะปลูกข้าวอินทรีย์