ผู้เขียน | เทคโนโลยีชาวบ้านออนไลน์ |
---|---|
เผยแพร่ |
หลังจากฤดูกาลทำนาเสร็จสิ้นแล้ว สิ่งที่เกษตรกรต้องเตรียมตัวให้พร้อมคือฤดูการเก็บเกี่ยวผลผลิต ซึ่งปัญหาที่พบบ่อยครั้งจะเป็นในเรื่องของราคาค่าจ้างเก็บเกี่ยวที่ไม่มีความยุติธรรม สำหรับการคิดค่าบริการบ่อยครั้งมักมีเรื่องของการถกเถียงในเรื่องของขนาดพื้นที่ในเก็บเกี่ยวที่แท้จริง และการใช้ความเร็วในการเก็บเกี่ยวที่เหมาะสมโดยเฉพาะบริเวณพื้นที่ข้าวล้ม อีกทั้งในปัจจุบันผู้ใช้เครื่องเกี่ยวนวดข้าวได้ปรับแต่งให้ใช้ความเร็วในการเก็บเกี่ยวที่สูงขึ้น ซึ่งส่งผลกระทบต่อการสูญเสียข้าวที่ด้านหน้าชุดหัวเกี่ยว
ดร.กิตติคุณ ประเสริฐกาญจน์ นักวิจัยทีมวิจัยระบบอัตโนมัติสำหรับกระบวนการทางวัสดุ กลุ่มวิจัยกระบวนการทางวัสดุและการผลิตอัตโนมัติ ศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ เปิดเผยว่า จากปัญหาดังกล่าวที่เกิดขึ้นได้คิดค้นนวัตกรรมในเรื่องการคิดค่าบริการเกี่ยวข้าวขึ้นมา เพื่อเป็นการคำนวณพื้นที่เก็บเกี่ยวให้กับเกษตรกร เพราะส่วนใหญ่แล้วพื้นที่ที่เก็บเกี่ยวได้จะน้อยกว่า 10 ไร่เป็นส่วนใหญ่ ซึ่งปัญหาในเรื่องขอวข้าวล้มเป็นปัญหาใหญ่อีกหนึ่งช่องทาง จะทำให้ต้องมีการบวกเพิ่มในเรื่องของการคิดค่าบริการ

ดังนั้น วัตถุประสงค์เพื่อสร้างชุดอุปกรณ์ที่สามารถคำนวณค่าบริการการเก็บเกี่ยวที่เป็นธรรม และส่งเสริมให้เก็บเกี่ยวแบบประณีตใช้ความเร็วที่เหมาะสม จึงเป็นที่มาของการออกแบบและสร้างชุดอุปกรณ์ที่สามารถคำนวณขนาดพื้นที่ การใช้ปริมาณน้ำมันเชื้อเพลิง เวลาที่ใช้ในแต่ละช่วงความเร็วในการเก็บเกี่ยว รวมเป็นค่าบริการในการเก็บเกี่ยว ซึ่งชุดเครื่องมือดังกล่าวนี้ส่งผลประโยชน์โดยตรงต่อผู้ประกอบการรับจ้างเกี่ยวนวดข้าวและชาวนา เนื่องจากชุดเครื่องมือสามารถเป็นตัวกลางในการคิดค่าใช้จ่ายที่ไม่ทำให้เกิดการถกเถียงกัน เป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย (ชาวนาและผู้รับจ้างเกี่ยวนวดข้าว)
โดยตัววัดพื้นที่จะใช้เทคโนโลยี GPS RTK ที่ประกอบด้วยตัว Base station พร้อมจอแสดงผลแบบสัมผัส และ Rover station พร้อมชุดขาตั้ง 3 ขา โดยใช้ตัวประมวลผล Raspberry PI 4 ในการคิดพื้นที่และค่าความเร็วในการเก็บเกี่ยว รวมถึงค่าบริการเก็บเกี่ยว
สำหรับชุดวัดปริมาณการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงประกอบด้วย 3 ส่วน คือ 1. ตัวประมวลผลโปรแกรมเมเบิลลอจิกคอลโทรลเลอร์ (PLC) 2. ถังน้ำมันควบคุม จำนวน 2 ถัง 3. ชุดวาล์วไฟฟ้าจ่ายน้ำมัน ซึ่งการทำงานจะสลับถังน้ำมันควบคุมในการใช้งาน เพื่อให้คิดน้ำมันแบบ Real time มีความแม่นยำมากขึ้น เมื่อน้ำมันในถังควบคุมที่ 1 หมดจะสลับไปใช้จากถังควบคุมที่ 2 เพื่อหลีกเลี่ยงการเติมน้ำมันเข้าและใช้น้ำมันในเวลาเดียวกัน โดยการทำงานสลับระหว่างถังควบคุมที่ใช้อ่านค่าการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงและถังควบคุมที่เติมน้ำมันเข้า รวมทั้งการสลับสายน้ำมันรีเทิร์นเข้าถังควบคุม จะเป็นการทำงานแบบอัตโนมัติผ่านชุดวาล์วไฟฟ้าจ่ายน้ำมัน
สำหรับต้นแบบอุปกรณ์วัดขนาดพื้นที่พร้อมระบบคำนวณค่าบริการในการเก็บเกี่ยว เพื่อทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการคิดค่าบริการในการเก็บเกี่ยวแทนการตกลงระหว่างชาวนาและผู้ประกอบการรับจ้างเกี่ยวนวดข้าว มีลักษณะเด่นดังต่อไปนี้
1. ระบบการคิดค่าบริการการเก็บเกี่ยวยังสามารถคิดได้ 3 รูปแบบ ทั้งแบบ
– คิดจากพื้นที่อย่างเดียว
– คิดจากพื้นที่และปริมาณการใช้น้ำมันเชื้อเพลิง
– คิดจากพื้นที่ ปริมาณการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงและเวลาในแต่ช่วงความเร็ว
2. มีระบบป้องการการเริ่มทำงานแบบไม่พร้อม เมื่อชุดอุปกรณ์ไม่สามารถเชื่อมต่อ GPS ทั้งส่วนของ Rover station และ Base station หรืออย่างใดอย่างหนึ่งระบบจะไม่ให้กดตกลงเริ่มงานได้
3. ระบบการคิดพื้นที่จะไม่คิดซ้ำพื้นที่เดิม เมื่อวิ่งมาทับพื้นที่เดิม
4. ระบบจะเอาความเร็วในช่วงที่เก็บเกี่ยวมาใช้คำนวณค่าบริการเก็บเกี่ยว โดยพื้นที่ที่วิ่งทับซ้ำไม่เอาความเร็วใหม่มาใช้ในการคำนวณ
5. ระบบออกแบบให้สามารถดูข้อมูลย้อนหลังได้
โดยเครื่องมือนี้จะสามารถคำนวณค่าบริการของพื้นที่ได้อย่างแม่นยำ จึงทำให้สามารถคำนวณในเรื่องของค่าบริการเกี่ยวข้าวได้ตามความเป็นจริง เพราะฉะนั้นชาวนาที่เป็นมือใหม่สามารถใช้ประโยชน์ในเครื่องมือนี้คำนวณค่าบริการได้อย่างแม่นยำ จึงทำให้ไม่โดนโกงราคาในเรื่องการเก็บเกี่ยว
“นวัตกรรมตัวนี้ถือว่าสร้างความเป็นธรรมให้กับชาวนาและเจ้าของรถเกี่ยว ซึ่งเมื่อใช้เครื่องมือนี้คำนวณแล้ว ทั้ง 2 ฝ่ายก็สามารถตกลงราคาที่ยุติธรรมของกันและกันได้ทันที เพราะฉะนั้นไม่ต้องตกลงกันด้วยปากเปล่า แต่มีเครื่องมือที่ทันสมัยพร้อมรับมือ และอนาคตเราก็จะทำลงแอปพลิเคชั่น เพื่อให้การใช้งานได้ง่ายขึ้น” ดร.กิตติคุณ บอก
โดยอุปกรณ์ชิ้นนี้เป็นระบบที่ครบวงจร ราคาต่อชิ้นทั้งหมดจะอยู่ที่หลักแสนบาท สำหรับท่านใดที่สนใจหรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติมสามารถติดต่อสอบถามได้ที่ ดร.กิตติคุณ ประเสริฐกาญจน์ นักวิจัยทีมวิจัยระบบอัตโนมัติสำหรับกระบวนการทางวัสดุ กลุ่มวิจัยกระบวนการทางวัสดุและการผลิตอัตโนมัติ ศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ หมายเลขโทรศัพท์ 02-564-6500 ต่อ 4703