ที่มา | เก็บมาเล่า |
---|---|
ผู้เขียน | นพรัตน์ โชติเกษมกุล |
เผยแพร่ |
ทุเรียนดินภูเขาไฟหนึ่งเดียวในภาคใต้ที่ได้รับเครื่องหมาย GAP มีลูกค้าสั่งจองกันมาตั้งแต่ปี 2566 กว่า 300 ราย ทำลูกค้าเก่า-ใหม่รู้ข่าว แห่จองจนมีไม่พอขาย ประกอบกับปีนี้ร้อนจัด ทำให้ทุเรียนติดผลน้อยลง แต่โกยรายได้ทะลุหลักล้าน
นางสายหยุด จันทร์สว่าง อดีตข้าราชการสำนักงานเกษตรจ.ตรัง ที่หันมาทำเกษตรหลังเกษียณ ในชื่อ สวนป้าสายหยุด หมู่ที่ 1 ต.นาข้าวเสีย อ.นาโยง จ.ตรัง โดยปลูกทุเรียนดินภูเขาไฟ เจ้าแรกเจ้าเดียวในภาคใต้ บนเนื้อที่กว่า 15 ไร่ ที่ได้รับเครื่องหมาย GAP จากกรมส่งเสริมการเกษตร การันตีให้เป็นสวนทุเรียนที่ปลอดภัยจากการใช้สารเคมี ซึ่งทุเรียนที่ปลูกไว้มีทั้งหมดจำนวน 220 ต้น ทั้งหมอนทอง ชะนี ก้านยาว นกกระจิบ หลงลับแล กระดุมและพวงมณี สล็อต
นางสายหยุด กล่าวว่า ผลกระทบจากปัญหาภัยแล้ง ทำให้ผลผลิตลดลงร้อยละ 30 โดยในปี 2567 มีต้นทุเรียนติดลูกเพียง 130 กว่าต้น ป้าสายหยุดได้เริ่มตัดทุเรียนหมอนทองมีดแรกเมื่อวันที่ 24 มิ.ย. 67 ได้ผลผลิตน้ำหนักเฉลี่ยลูกละ 3-6 กิโลกรัม ขายในราคากิโลละ 230 บาท โดยมียอดสั่งจองมาตั้งแต่ปี 2566 กว่า 300 ราย เพราะเป็นทุเรียนภูเขาไฟ เนื้อเนียนเหมือนครีม รสนัว หอมหวานมัน เปลือกบาง เมล็ดเล็กลีบ เป็นที่ถูกใจของลูกค้า แต่ละวันจะมีลูกค้าแวะเวียนกันเข้ามาหาซื้อทุเรียนภูเขาไฟกันอย่างต่อเนื่อง
ก่อนหน้านี้ มีทุเรียนหล่นจากต้น ซึ่งไม่แน่ใจว่าจะมีพูไหนเสียบ้าง จึงปอกทุเรียนแกะเอาแต่เนื้อล้วน เพื่อให้ลูกค้าได้เลือกชิมรสชาติ ก่อนตัดสินใจซื้อ ซึ่งปีนี้เปิดขายเป็นปีที่ 2 เน้นขายหน้าสวน เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภค หากมีลูกไหนเสียสามารถเปลี่ยนได้ทุกลูก คาดจะได้ผลผลิตทุเรียนประมาณ 4,000-5,000 กิโล สร้างรายได้กว่า 1 ล้านบาท จากที่ตั้งเป้าไว้ 3 ล้านบาทในปีนี้
ปัจจุบันสวนทุเรียนแห่งนี้ มีเกษตรกรผู้สนใจเดินทางมาศึกษาดูงาน การปลูกทุเรียนแบบเสริมราก เสริมกิ่งให้ต้นแข็งแรง โดยไม่ต้องใช้เชือกโยงลูกตลอดอายุของต้นทุเรียน และเรียนรู้การห่อลูกทุเรียนด้วยถุงสีแดง สีฟ้าและสีขาวทุกลูก เพื่อป้องกันการเจาะทำลายของกระรอก กระแตและสัตว์ต่าง ๆ ด้วย ในช่วงที่ขายทุเรียน ป้าสายหยุดจะใส่เสื้อสีแดงทุกวัน เพื่อเป็นเคล็ดกวักเงินกวักทอง ให้ลูกค้าเดินทางมาหาถึงบ้าน
นางสายหยุด จันทร์สว่าง เจ้าของสวนทุเรียนภูเขาไฟกล่าวว่า ปีนี้ได้เตรียมการอย่างดี ต้นทุเรียนให้ผลผลิตประมาณ 130 กว่าต้น จากจำนวนต้นทุเรียนที่ปลูกทั้งหมด 220 ต้น ได้ผลผลิตทุเรียนภูเขาไฟหรือทุเรียนอินทรีย์ที่ไม่ใช้เคมีเพิ่มขึ้นเท่าตัว หรือประมาณ 5,000 กว่าลูก โดยมีน้ำหนักเฉลี่ยลูกละ 3-6 กิโล แต่ยังไม่เพียงพอสำหรับตลาดที่ต้องการบริโภคทุเรียนอินทรีย์
ทางสวนมียอดสั่งจองทุเรียนข้ามปีจากที่ลงชื่อไว้เมื่อปีที่แล้วประมาณ 300 รายชื่อแต่ยังไม่ตอบรับเพราะกลัวปัญหาภัยธรรมชาติ ในปีนี้ทุเรียนภูเขาไฟขายได้กิโลกรัมละ 230 บาท ราคาค่อนข้างสูงกว่าทุเรียนทั่วไป
ทุเรียนภูเขาไฟสวนป้าสายหยุด ปลูกดูแลในระบบเกษตรอินทรีย์มาตลอด ซึ่งมีคุณสมบัติเด่นหลายประการ เช่น ให้ผลผลิตเร็ว ตั้งแต่อายุ 2 ปีครึ่ง เมื่อต้นทุเรียนอายุ 5 ปี ให้ผลผลิตต่อต้นประมาณ 80 ลูก ขณะที่ทุเรียนทั่วไปจะได้ไม่ถึง เดี๋ยวต้นมันจะตาย แต่ของเราสามารถอยู่ได้ จุดเด่นอีกอย่างคือ เปลือกบางแค่ครึ่งเซนติเมตรทั้งที่เป็นผลผลิตปีแรก
จุดเด่นข้อที่ 3 คือ ทุเรียนเนื้อเนียนละเอียดมาก เนื้อเป็นครีมเมื่อเข้าปากแล้วเหมือนกับครีมมี่ ใส่เข้าปากแล้ว เนื้อละลายเลย ไม่มีเส้น ไม่มีเสี้ยน นี่คือคำตอบจากผู้บริโภคที่ได้ชิมเนื้อทุเรียนสวนแห่งนี้ จุดเด่นที่เป็นไฮไลท์อีกอย่าง คือ เนื้อทุเรียนมีความนัว มีรสชาติหวาน มันกลมกล่อม มากกว่าทุเรียนหมอนทองทั่วไปถึง 2 เท่าตัว พอทานเข้าไปแล้ว รู้สึกว่า มันอร่อยมาก