ภารกิจของพระธรรมทูต

ท่านเจ้าคุณวิเทศสิทธิธรรมาภรณ์ เจ้าอาวาสวัดอตัมมยตา เมืองซีแอตเติ้ล ได้เดินทางมากิจนิมนต์ที่วัดพุทธธรรมแล้วสนทนากันว่า พระธรรมทูตในประเทศสหรัฐอเมริกา ได้ทำกิจกรรมอะไรกันบ้าง เพื่อประโยชน์สุขของมหาชนตามหลักแห่งพระธรรมทูตที่พระพุทธเจ้าตรัสว่า

“เธอทั้งหลายจงจาริกไป เพื่อประโยชน์ เพื่อความสุข แก่ชนเป็นอันมาก จงประกาศพรหมจรรย์งามในเบื้องต้น งามในท่ามกลาง และงามในที่สุด พร้อมด้วยอรรถและพยัญชนะ”

ถ้าจะลองประมวลงานของพระธรรมทูต ตามที่ประจักษ์แก่สายตาที่เห็นกันทุกเมื่อเชื่อวัน ก็จะพบว่า

  1. ปฏิบัติกิจวัตรของพระสงฆ์ คือทำวัตรเช้า ทำวัตรเย็น ลงอุโบสถ สวดปาฏิโมกข์ ฟังปาฏิโมกข์เพื่อชำระศีลของตนให้บริสุทธิ์ เป็นกิจวัตรที่นำมาจากประเทศไทยและต้องรักษาไว้ให้ครบถ้วน เพื่อจะได้ส่งเสริมการปฏิบัติพระธรรมวินัยให้ได้ผลยิ่งๆ ขึ้นไป
  2. ประกอบศาสนพิธีเป็นกำลังใจให้แก่ประชาชนทั้งในงานมงคลและงานอวมงคล เช่น ทำบุญวันเกิด วันแต่งงาน สวดพระอภิธรรมอุทิศส่วนกุศลให้แก่ผู้ล่วงลับไปแล้ว สวดมนต์ขึ้นบ้านใหม่ สวดมนต์เปิดร้านอาหารและกิจการต่างๆ ตามที่เจ้าภาพนิมนต์ เยี่ยมไข้ผู้ป่วยตามโรงพยาบาลตามที่ญาติหรือลูกหลานนิมนต์ให้ไปสวดหรือแสดงธรรมเป็นกำลังใจ หรือแนะนำการภาวนาเพื่อรักษาจิตของตนมิให้กระวนกระวาย เพราะแรงบีบคั้นแห่งเวทนาทางกายเข้าทำนองหมอรักษากาย คนไข้รักษาใจ (พระสงฆ์รักษาใจ)
  3. เผยแผ่พุทธธรรม คือแสดงธรรมประจำวันพระ 8 ค่ำ 15 ค่ำ หรือวันเสาร์-อาทิตย์ ตามที่สมาชิกของชุมชนนั้นๆ นัดหมายกัน ต้อนรับปฏิสันถารสนทนาธรรมตามกาลเวลาที่เหมาะสมแก่ผู้ต้องการกัลยาณมิตรเพื่อออกจากปัญหาชีวิตต่างๆ อย่างหนักหน่วงที่ตนเผชิญอยู่
  4. ทำงานทั่วไปภายในวัด เช่น ตัดหญ้า ตัดกิ่งไม้ จัดสวน ปลูกผักสวนครัวรั้วกินได้ไว้ปรุงอาหารยามขาดแคลน จัดโต๊ะ เก้าอี้ เขียนป้ายประชาสัมพันธ์ เตรียมการจัดงานต่างๆ เพราะที่ประเทศสหรัฐอเมริกาแรงงานที่ใช้ฝีมือหรือกรรมกรทั่วๆ ไป ราคาแพงมาก ยากที่จะจ่ายเงินค่าจ้างได้ง่ายๆ พระธรรมทูตจึงต้องลงมือทำงานเหล่านี้เสียเอง ตามสภาพงานที่มีมาเฉพาะหน้า เช่น บางวัดมีสวนผลไม้ พระธรรมทูตต้องเข้าสวนตัดแต่งต้นไม้ ใส่ปุ๋ย รดน้ำ พรวนดิน จนถึงเก็บผลไม้ บางวัดทางวัดปลูกผักหารายได้พิเศษ พระธรรมทูตต้องลงสวนปลูกผักครบกระบวนการ บางวัดเน้นหนักข้อมูลข่าวสาร พระธรรมทูตต้องทุ่มเวลาในการทำเอกสาร นิตยสาร วารสาร ประชาสัมพันธ์ต่างๆ เป็นรายเดือนบ้าง ราย 3 เดือนบ้าง รายสะดวกบ้าง
  5. นำสมาธิภาวนา ชาวอเมริกันที่สนใจพุทธศาสนาส่วนใหญ่จะเข้ามาหาพระพุทธศาสนาเพื่อศึกษาสมาธิภาวนา ด้วยการลงมือปฏิบัติจริงๆ ต้องการพระภิกษุสงฆ์เป็นผู้นำทางจิตใจ พระธรรมทูตต้องลงมือปฏิบัติด้วย เมื่อมีข้อข้องใจใดๆ ก็ไขข้อข้องใจให้ตามที่จะแก้ไขกันได้
  6. พัฒนาตนเอง พระธรรมทูตแม้ผ่านการอบรมมาอย่างดีจากประเทศไทย แต่บางทียังไม่ครบถ้วนเพียงพอที่จะมาสนองงานในวัดที่ตนสังกัดตามสภาพท้องที่นั้นๆ เมื่อพระธรรมทูตไปอยู่ประเทศใด ต้องไปเรียนภาษาจากประเทศนั้นให้มีความรู้ ความเข้าใจ พอสื่อสารได้กับคนท้องถิ่น การเพิ่มพูนความรู้ด้านคอมพิวเตอร์ เพื่อใช้เป็นสื่อธรรมให้กระจายกว้างขวางมากขึ้น ต้องทำอย่างสม่ำเสมอ เพราะวิชาการสมัยใหม่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว
  7. ทำงานร่วมกับศาสนาประจำท้องถิ่น ในรูปแบบรูปศาสนสัมพันธ์ เพื่อประสานความเข้าใจซึ่งกันและกันและร่วมมือกันสร้างสันติภาพให้แก่สังคมที่อยู่ร่วมกันนั้น
  8. ทำงานร่วมกันกับชาวพุทธต่างนิกาย ต่างคณะที่มาจากประเทศต่างๆ เช่น เวียดนาม ลาว กัมพูชา จีน ญี่ปุ่น ในวาระวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาที่สามารถจะร่วมกันได้ เช่น วันวิสาขบูชา วันมาฆบูชา และวันอื่นๆ ที่จะหาจุดร่วมกันได้
  9. เป็นเพื่อนคนไทยที่ทำงานอยู่ในส่วนต่างๆ ของประเทศ ชาวไทยที่เดินทางไกลพลัดบ้านเมืองมา ปรารถนาจะได้พบคนไทยด้วยกัน ปรารถนาจะได้ทำบุญตักบาตร ได้พบกับวัฒนธรรมที่คุ้นเคย พระธรรมทูตช่วยสื่อความรัก ความอบอุ่นในส่วนวัฒนธรรมนี้ได้เป็นอย่างดี

ที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ เป็นการฉายภาพกว้างๆ ให้เห็นว่า พระธรรมทูตทั้งหลายในประเทศสหรัฐอเมริกาได้ทำอะไรกันบ้าง กำลังทำอะไรกันอยู่ และจะทำอะไรกันต่อไป คงจะพอเป็นแนวทางให้แก่ผู้ใฝ่รู้ได้ค้นคว้าหารายละเอียดต่างๆ ลึกลงไปในกาลต่อไปอีก ขอเป็นกำลังใจให้แก่พระธรรมทูตทั้งหลายและพุทธศาสนิกชนที่ได้รวมตัวกันอย่างเหนียวแน่นสร้างวัดขึ้นมาประจำชุมชนของตนได้ และแผ่ขยายออกไปอย่างกว้างขวางรวดเร็ว ขอให้ได้รับประโยชน์จากความเสียสละทั้งกำลังกาย กำลังใจ และกำลังทรัพย์ กลับมาเป็นความสงบร่มเย็นโดยทั่วกันเทอญ