เผยแพร่ |
---|
สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ภายใต้กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) จัดแถลงข่าว อว.แฟร์ : SCI POWER FOR FUTURE THAILAND ของ วช. เพื่อเผยแพร่ประชาสัมพันธ์การนำผลงานวิจัยและนวัตกรรมพร้อมกิจกรรมต่างๆ และองค์ความรู้จากศูนย์รวมผู้เชี่ยวชาญ (Hub of Talents) และศูนย์กลางความรู้ (Hub of Knowledge) เข้าร่วมจัดแสดงฯ โดยมี ดร.วิภารัตน์ อ่องดี ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ เป็นประธานในการแถลงข่าว

ทั้งนี้ ยังมีการเสวนาศูนย์รวมผู้เชี่ยวชาญ (Hub of Talents) และศูนย์กลางด้านความรู้ (Hub of Knowledge) ของ วช. โดย ศาสตราจารย์ ดร.หทัยกานต์ มนัสปิยะ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จาก Hub for Environment ศูนย์รวมผู้เชี่ยวชาญด้านวัสดุยั่งยืนเพื่อเศรษฐกิจหมุนเวียน รองศาสตร์จารย์ ดร.ศิวเรศ อารีกิจ มหาวิทยาลัยเกษตร จาก Hub for Agriculture ศูนย์กลางความรู้ด้านวิทยาศาสตร์และการวิจัยข้าวของประเทศไทย รองศาสตราจารย์ ดร.ต่อศักดิ์ แก้วจรัสวิไล มหาวิทยาลัยเกษตร จาก Hub for Society ศูนย์กลางความรู้ศิลปะมวยไทยสู่ระดับโลก ศาสตราจารย์ ดร.ผดุงศักดิ์ รัตนเดโช มหาวิทยาลัยเกษตร จาก Hub for Health ศูนย์กลางศูนย์รวมผู้เชี่ยวชาญการใช้ประโยชน์จากพลังงานคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าในงานวิศวกรรมทางการแพทย์ และ รองศาสตราจารย์ ดร.สุขุม อิสเสงี่ยม มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จาก Hub for Future Technology ศูนย์รวมผู้เชี่ยวชาญด้านการออกแบบไมโครอิเล็กทรอนิกส์แห่งประเทศไทย ณ ห้องโถงศูนย์สารสนเทศการวิจัยกลาง ด้านวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม อาคาร วช. 8
ดร.วิภารัตน์ อ่องดี ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ กล่าวว่า การจัดงาน อว.แฟร์: SCI POWER FOR FUTURE THAILAND เป็นงานมหกรรมส่งเสริมการใช้ประโยชน์จากงานวิจัยและนวัตกรรมเพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจไทยอย่างยั่งยืนด้วยพลังสหวิทยาการ จัดขึ้นโดยกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ร่วมกับเครือข่ายพันธมิตรทั้งภาครัฐและภาคเอกชน กำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 22-28 กรกฎาคม 2567 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์การจัดงานในครั้งนี้ วช. มุ่งหวังที่จะนำเสนอผลงานวิจัยและนวัตกรรมที่เกิดขึ้นจากศูนย์รวมผู้เชี่ยวชาญ (Hub of Talents) และศูนย์กลางความรู้ (Hub of Knowledge) ซึ่งเป็นการพัฒนาศักยภาพของนักวิจัยรุ่นใหม่ รวมทั้งสร้างเครือข่ายและความร่วมมือระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชน เพื่อนำไปสู่การพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศไทยอย่างยั่งยืน ซึ่งภายในงาน ผู้เข้าชมจะได้พบกับนิทรรศการผลงานวิจัยและนวัตกรรมกว่า 100 ผลงาน จากศูนย์รวมผู้เชี่ยวชาญ (Hub of Talents) และศูนย์กลางความรู้ (Hub of Knowledge) ใน 5 ด้านสำคัญ ภายใต้แนวคิด “Hub of Talents & Knowledge For All” ได้แก่
Hub for Future Technology วช. มุ่งเน้นให้เกิดการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยในด้านไมโครอิเล็กทรอนิกส์ การพิมพ์ 3 มิติ คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า เทคโนโลยีพลาสมา คลื่นไมโครเวฟ ชีวสารสนเทศ และเทคโนโลยีอวกาศ รวมถึงเทคโนโลยีแห่งอนาคตอื่นๆ ซึ่งเป็นความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่นำพาเศรษฐกิจของประเทศไปสู่อนาคตที่ดี และให้การเจริญเติบโตของไทยเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้
Hub for Environment วช. มุ่งเน้นให้เกิดการวิจัยและนวัตกรรมเพื่อช่วยแก้ปัญหา และสนับสนุน
การอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมให้กลับคืนสู่ความสมบูรณ์เกิดความยั่งยืน สนับสนุนการขับเคลื่อนเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ การจัดการของเสีย มลพิษอากาศและภูมิอากาศ และเทคโนโลยีในการผลิตพลังงาน เชื้อเพลิง และสารเคมีจากชีวมวลเพื่อปกป้องรักษาสิ่งแวดล้อมส่งต่อลูกหลานรุ่นต่อไป โดยการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน รวมทั้งช่วยกันส่งเสริมการเติบโตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเพื่อเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน (Sustainable Development Goals: SDGs)
Hub for Agriculture วช. มุ่งเน้นให้เกิดการวิจัยและพัฒนาด้านเทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว รวมถึงเทคโนโลยีทางการเกษตร และสินค้าเกษตรมูลค่าสูงเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศในเวทีโลก และนำมาใช้พัฒนาวิถีการทำการเกษตร อำนวยความสะดวกให้กับชีวิตของเกษตรกรยุคใหม่ (Smart Farmer) เพื่อให้มีปริมาณผลผลิตเพียงพอต่อความต้องการบริโภคได้ในอนาคต
Hub for Health วช. มุ่งเน้นให้เกิดการวิจัยและพัฒนาอุปกรณ์เครื่องมือทางการแพทย์ ชุดตรวจวินิจฉัย อาหาร พืชสมุนไพร รวมทั้งการดูแลป้องกันและรักษาโรคทั้งในระดับชุมชนและระดับประเทศซึ่งช่วยส่งเสริมให้ประชาชนมีสุขภาพดี และมีคุณภาพชีวิตที่ดีในทุกช่วงวัยทั้งในปัจจุบันและอนาคต
Hub for Society วช. มุ่งเน้นให้เกิดการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมเพื่อต่อต้านคอร์รัปชัน รวมทั้ง
การป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด รวมถึงการสร้างนวัตกรรมสังคม นวัตกรรมด้านศิลปะ และวัฒนธรรมเพื่อช่วยให้เป็นสังคมที่ปลอดภัยและน่าอยู่ และเตรียมความพร้อมสำหรับการเปลี่ยนแปลง
ทางสังคม รวมถึงการส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์เพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศในอนาคต
นอกจากนี้ ยังมีการประชุมในประเด็นที่น่าสนใจ อาทิ การอนุรักษ์พันธุกรรมพืชตามแนวพระราชดำริ, Future Thailand: อนาคตที่ยั่งยืน ด้วยการศึกษา วิจัย และนวัตกรรม การเสวนาและการอบรม ในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับศูนย์รวมผู้เชี่ยวชาญ (Hub of Talents) และศูนย์กลางความรู้ (Hub of Knowledge) โดยผู้เชี่ยวชาญจากศูนย์ รวมถึงกิจกรรมส่งเสริมการวิจัย กิจกรรมชิม ช้อป เพลิดเพลินกับผลิตภัณฑ์จากผลงานวิจัยและนวัตกรรม และกิจกรรมสนุกสนานอื่นๆ
อีกมากมาย อาทิ Thai Symphony Orchestra : วัฒนธรรมดนตรีเพื่อพลังสร้างสรรค์เศรษฐกิจใหม่โดยวงไทยซิมโพนีออร์เคสตร้า และการประลองยอดฝีมือเยาวชนดนตรี และโดรนแปรอักษรเพื่อสนับสนุนงานพระราชพิธี
วช. หวังว่างาน อว.แฟร์: SCI POWER FOR FUTURE THAILAND จะเป็นเวทีการรวมพลังแห่งนวัตกรรม นำเสนอผลงานวิจัยอันล้ำค่าจากสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ซึ่งล้วนเป็นผลงานที่มุ่งสนับสนุนวิสัยทัศน์ของกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ในการเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับระบบสหวิทยาการของไทยในทุกมิติ ซึ่งงานนี้มุ่งเน้นไปที่การพัฒนากำลังคนที่มีคุณภาพ พร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงและความท้าทายของโลกยุคใหม่ ผลงานวิจัยและนวัตกรรมเหล่านี้ จะเป็นพลังขับเคลื่อนสำคัญนำไปสู่การพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมอย่างยั่งยืน ส่งเสริมการเติบโตของประเทศในทุกมิติ และเตรียมพร้อมรับมือกับอนาคตที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ให้สอดคล้องกับนโยบายของ นางสาวศุภมาส อิศรภักดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม
การจัดงาน อว.แฟร์: SCI POWER FOR FUTURE THAILAND จึงถือเป็นโอกาสอันดีสำหรับประชาชนทั่วไป นักเรียน นักศึกษา นักวิจัย ผู้ประกอบการ และผู้ที่สนใจ ได้เรียนรู้และสัมผัสกับผลงานวิจัยและนวัตกรรมที่ล้ำสมัย รวมทั้งสร้างเครือข่ายและความร่วมมือเพื่อนำไปสู่การพัฒนาประเทศไทยต่อไป