เผยแพร่ |
---|
นายรพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร เปิดเผยว่า กรมวิชาการเกษตร(กวก.)จะเร่งเดินหน้าพัฒนาพืชเศรษฐกิจด้วยเทคโนโลยีจีโนม ภายหลังที่ประกาศกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เรื่อง การรับรองสิ่งมีชีวิตที่พัฒนาจากเทคโนโลยีการปรับแต่งจีโนมเพื่อใช้ประโยชน์ในภาคการเกษตร พ.ศ. 2567 ลงนามโดย ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ วันที่ 11 ก.ค. 2567 ประกาศในราชกิจจานุเบกษา 16 ก.ค. 67 จะมีผลบังคับใช้หลังประกาศในราชกิจจาฯ30 วัน ทั้งนี้สาระสำคัญกำหนดให้การรับรองตามประกาศนั้น กรณี พืช จุลินทรีย์ ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์วิธีการและเงื่อนไขที่กรมวิชาการเกษตรกำหนด กรณีสัตว์น้ำ ให้เป็นไปตามที่กรมประมงกำหนด และกรณีสัตว์ให้เป็นไปตามที่กรมปศุสัตว์กำหนด หลังจากนี้แต่ละกรมจะไปออกประกาศกรมมารองรับการพัฒนาด้วยเทคโนโลยีดังกล่าว ทั้งนี้คาดว่าจะส่งผลต่อการพัฒนาภาคการเกษตรทั้งระบบอย่างมีนัยสำคัญได้ในเร็วๆนี้
“ตามเป้าหมายของรัฐบาล และกระทรวงเกษตรฯ มีนโยบายการวิจัยพืชสำคัญทดแทนการนำเข้าอาทิ ข้าวโพด ถั่วเหลือง มันสำปะหลัง พืชพลังงานปาล์มน้ำมัน เป็นต้น ซึ่งต้องนำเข้าปีละนับแสนล้านบาทเพื่อเป็นวัตถุดิบในประเทศ ดังนั้นเมื่อได้พันธุ์ที่ให้ผลผลิตต่อไร่เพิ่ม นอกจากรายได้ภาคครัวเรือนเพิ่มขึ้นแล้ว ยังส่งผลต่อการลดการนำเข้าและเพิ่มการส่งออกสินค้าเกษตรของประเทศอีกด้วย” นายรพีภัทร์กล่าว
ปัจจุบันมีหลายหน่วยงานที่เตรียมการวิจัยหลากหลายชนิดพืชตามเทคนิคดังกล่าว เช่นสับปะรด กล้วยไม้ มันสำปะหลัง แตงกวา มะเขือเทศ กล้วยหอม มะละกอต้านทานโรคไวรัสจุดวงแหวน ถั่วเหลือง ปาล์มน้ำมัน พืชผัก สมุนไพร เห็ด กัญชา โดยลักษณะที่วิจัยเช่น การต้านทานโรค การทนความเครียดจากสิ่งไม่มีชีวิต การควบคุมการเจริญเติบโต การเพิ่มลักษณะที่ดีเพื่อรองรับความแปรปรวนของสภาพภูมิอากาศ การเพิ่มประสิทธิภาพการใช้ไนโตรเจน เป็นต้น
สำหรับการพัฒนาพืชด้วยเทคโนโลยีจีโนมนั้นจะอยู่ในกรอบการดำเนินงานวิจัยของกรมวิชาการเกษตร ปี 2568 – 2570 เพื่อสนับสนุนการขับเคลื่อนนโยบายและทิศทางงานวิจัยของกรมฯ ไปสู่การปฏิบัติวิจัยเชิงรุกตามนโยบายรัฐบาลขับเคลื่อนภาคการเกษตร “IGNITE THAILAND จุดพลัง รวมใจ ไทยต้องเป็นหนึ่ง” ยกระดับประเทศไทยสู่ศูนย์กลางเกษตรและอาหารของโลก โดยองค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ( FAO)และองค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา(OECD)ให้การยอมรับว่าเทคโนโลยีจีโนมมีความเทียบเท่ากับการปรับปรุงพันธุ์แบบดั่งเดิมเป็นเทคโนโลยีที่จะช่วยแก้ปัญหาด้านความมั่นคงอาหารในอนาคต สำหรับไทยศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ(ไบโอเทค)ได้ออกแนวทางการพิจารณาเทคโนโลยีการปรับแต่งจีโนม เมื่อ 26ม.ค. 67 เป็นเกณฑ์วิชาการสำหรับพิจารณาประกอบเรียบร้อยแล้ว ขณะที่หลายประเทศมีการอนุมัติจีโนมใช้เชิงพาณิชย์ของสิ่งมีชีวิตที่ได้จากเทคโนโลยีนี้ เช่น สหรัฐอเมริกา จีน ฟิลิปปินส์ แคนาดา ญี่ปุ่น ในกลุ่มพืชเศรษฐกิจเช่นกัน.