เลี้ยงปูดำทะเลออร์แกนิกในบ้าน!!! เน้นขายเป็นปูนิ่ม รายได้ดี ราคาสูง

ปูทะเลเป็นอีกหนึ่งสัตว์เศรษฐกิจที่สำคัญ เพราะเกษตรกรผู้เลี้ยงนำมาทำตลาดได้หลากหลายขึ้นอยู่ที่ลูกค้าต้องการนำไปประกอบอาหารประเภทใด จึงทำให้อาหารที่ทำขึ้นจากปูทะเลได้รับความนิยมและตลาดมีความต้องการอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันการทำเกษตรให้ได้คุณภาพและจำหน่ายได้ราคาสูง ถือเป็นอีกหนึ่งการผลิตที่เกษตรกรให้ความสนใจมากขึ้น เพราะความต้องการของตลาดเป็นตัวแปรสำคัญ ช่วยให้สินค้าที่ผลิตออกมาขายได้ราคาสูง

คุณโอม-ธนกฤต พลอยงาม ผู้คิดค้นและริเริ่มเรื่องของการเลี้ยงปูทะเลในภาคเหนือ โดยทำน้ำเค็มให้คล้ายกับน้ำทะเลไว้ใช้เองจนประสบผลสำเร็จ ทดลองเลี้ยงตั้งแต่กุ้งไปจนถึงปูทะเล พร้อมกับทำตลาดปูทะเลให้เป็นสินค้าปูนิ่ม จนสามารถจำหน่ายได้ราคาสูงเป็นที่ต้องการของตลาด เรียกได้ว่าในช่วงนี้ผลิตไม่ทันขายกันเลยทีเดียว 

คุณโอม-ธนกฤต พลอยงาม

อดีตช่างแอร์ ผู้มีใจมุ่งมั่น 

เลี้ยงปูทะเลคุณภาพสูง 

คุณโอม เล่าให้ฟังว่า เดิมนั้นทำอาชีพเป็นช่างแอร์มาประมาณ 15 ปี ซึ่งช่วงหลังๆ จำนวนช่างมีมากขึ้นทำให้รู้สึกต้องมองหาอาชีพใหม่ เพื่อให้มีรายได้จากจำนวนงานช่างแอร์ที่ลดน้อยลง เริ่มแรกได้นำกุ้งแม่น้ำมาทดลองเลี้ยง หลังจากนั้นนำปูทะเลมาเลี้ยงด้วยเช่นกัน คุณโอม บอกว่า กว่าจะสำเร็จมาจนถึงทุกวันนี้ได้นั้น ลองผิดลองถูกอยู่นานและต้องไม่ท้อใจ โดยมีความมุ่งมั่นอยู่พอสมควรจนประสบผลสำเร็จ

ผมหัดและเรียนรู้ด้วยตัวเองเลยครับ ศึกษาจากทางโซเชียลก่อน จากนั้นผมก็มาทดลองด้วยตัวเอง การลงมือทำอย่างจริงจังมันช่วยได้มากครับ เพราะจะทำให้เรารู้ว่าเราพลาดตรงไหน และที่สำคัญที่ผมเลือกเป็นปูทะเล เพราะผมมองว่าสัตว์พวกนี้ มันเป็นสัตว์ที่จะต้องอยู่ในทะเลทางภาคใต้ แต่พอผมมาเลี้ยงทางภาคเหนือสำเร็จ ก็ทำให้ผมสามารถทำราคาจากการขายได้เป็นหลายเท่าตัวเลย ขอเพียงผมอย่าท้อและมุ่งมั่น เลี้ยงให้ได้ดีมีคุณภาพประสบผลสำเร็จแน่นอน” 

Advertisement

ซื้อลูกพันธุ์ปูทะเลจากชาวบ้านทางใต้ 

มาเลี้ยงในน้ำทะเลที่ทำเองด้วย 2 มือ

สำหรับลูกพันธุ์ปูทะเลที่นำมาเลี้ยง คุณโอม บอกว่า มีชาวบ้านที่อยู่ในพื้นที่ทางภาคใต้จับมาส่งขายให้ เพราะลูกปูเหล่านี้หากไม่ได้ซื้อมาเลี้ยงเอง ก็จะถูกส่งขายให้กับเกษตรกรที่เลี้ยงในบ่อดิน โดยลูกปูส่งมาจากทางภาคใต้เดินทางมาถึงบ้านของคุณโอมใช้เวลาประมาณ 1-2 วัน 

Advertisement

ส่วนน้ำทะเลที่ใช้เลี้ยงปูทะเล คุณโอม เล่าอย่างภูมิใจว่า เกิดจากการลองผิดลองถูกเองด้วย 2 มือ เอาความผิดพลาดมาเป็นครูทำน้ำทะเลขึ้นมาจนประสบผลสำเร็จ จนสามารถเลี้ยงทั้งปูทะเลและกุ้งก้ามกรามได้ คุณโอม ย้ำว่า เป็นน้ำทะเลที่เรียนแบบธรรมชาติมีคุณภาพดี สามารถเลี้ยงปูทะเลในพื้นที่ภาคเหนือได้อย่างไม่มีปัญหา 

“การทำน้ำทะเลก็จะประกอบไปด้วยดอกเกลือ มีแร่ธาตุที่ผมทำเอง จุลินทรีย์ และแพลงก์ตอน (plankton) เอาส่วนประกอบเหล่านี้มาผสมจนได้เป็นน้ำทะเลสูตรผม และมีค่าความเค็มอยู่ที่ประมาณ 18-22 ppt สำหรับผมค่านี้เหมาะสุดครับ”

ปูทะเลที่เลี้ยง จนทำเป็นปูนิ่ม 

ใช้เวลา 20-25 วัน จึงขายได้ 

การเลี้ยงปูทะเลเพื่อนำมาทำเป็นปูนิ่ม คุณโอม เผยการเลี้ยงว่า การเลือกลูกปูทะเลจะใช้ขนาด 6 ตัวต่อกิโลกรัมมาเลี้ยง โดยหลังจากได้ลูกปูมาแล้ว นำมาแช่น้ำเค็มที่เตรียมไว้เพื่อเป็นการให้ปูได้ปรับสภาพ ก่อนปล่อยลงบ่อน้ำทะเลที่ทำไว้รอบๆ บ้าน จากนั้นนำปูทะเลมาใส่เลี้ยงลงในตะกร้าละ 1 ตัว

การให้อาหารปูทะเลจะเลี้ยงด้วยปลาน้ำจืดที่หาได้จากท้องถิ่น มีตั้งแต่ปลาสร้อยปลาซิวเป็นหลัก โดยให้กินวันเว้นวัน วันละ 1 มื้อ เลี้ยงต่อไปแบบนี้เรื่อยๆ ประมาณ 20-25 วัน ปูทะลที่เลี้ยงอยู่ในตะกร้าก็จะเริ่มลอกคราบออกมาให้เห็น ซึ่งการลอกคราบจะเป็นไปเองตามธรรมชาติของปู ซึ่งคุณโอมบอกว่าจะไม่บังคับหรือเร่งการลอกคราบแต่อย่างใด 

“หลังจากที่ผมเลี้ยงด้วยปลาในแต่ละมื้อที่กำหนด พอถึงช่วงเวลาที่เหมาะสมปูนิ่มก็จะลอกคราบออกมา ช่วงนี้พอตัวนิ่มๆ อยู่ผมก็จะส่งขายทันที จะไม่ปล่อยให้กระดองแข็ง ในส่วนของช่วงนี้ตัวปูก็จะนิ่ม จึงเรียกว่าปูนิ่มครับ”            

ตลาดปูนิ่มยังไปได้ไกล 

และจำหน่ายในราคาสูง    

คุณโอม เล่าถึงการทำตลาดว่า สมัยก่อนจะเน้นขายเป็นปูกระดองแข็ง ทำให้การทำตลาดค่อนข้างยาก เพราะลูกค้าซื้อไปแล้วต้องประกอบอาหารกินทันที แต่เมื่อมาปรับเปลี่ยนทำเป็นตลาดปูนิ่ม เห็นได้ชัดว่าตอบโจทย์ในเรื่องของการทำตลาดมากกว่า เพราะลูกค้าสามารถซื้อแล้วเก็บแช่แข็งไว้ได้นาน 

“หลังปูทะเลผ่านการลอกคราบแล้ว ผมจะนำมาแพ็กสุญญากาศทันที เพราะเราจะขายเป็นปู่นิ่มที่ไม่ปล่อยให้เป็นกระดองแข็ง เพราะถ้าปล่อยเป็นกระดองแข็ง จะต้องเลี้ยงต่อไปอีก หรือรอลอกคราบอย่างต่ำ 2 ครั้ง เพื่อให้ได้ปูขนาดไซซ์ที่ใหญ่ขึ้น เพื่อให้เป็นปูเนื้อที่มีคุณภาพ แต่ถ้าทำตลาดปูนิ่มหลังจากที่ลอกคราบแล้ว ผมเอาปูมาแช่น้ำจืด และซีลสุญญากาศขายได้ทันที ทำให้เงินได้ไวกว่าปูเนื้อ”      

ปูนิ่มที่มีขนาดไซซ์ 2-3 ตัวต่อกิโลกรัม ราคาขายอยู่ที่ 500 บาท นอกจากนี้ ยังมีกุ้งก้ามกรามที่เลี้ยงขายอีกด้วย

ศึกษาข้อมูลให้รอบด้านก่อนลงมือ 

ช่วยให้ประสบผลสำเร็จไม่ยาก

สำหรับผู้ที่สนใจอยากเลี้ยงปูทะเลสร้างรายได้ คุณโอม แนะนำว่า ต้องหมั่นศึกษาข้อมูลให้รอบด้านก่อน หรือหากสนใจสามารถเข้ามาดูคลิปความรู้ที่คุณโอมทำสอนไว้ภายในเพจที่ชื่อว่า “เกษตรข้างบ้าน ชาวเลภาคเหนือ” มาดูและชมก่อนว่าชอบหรือสนใจการเลี้ยงปูทะเลจริงไหม จากนั้นจึงค่อยต่อยอดการเลี้ยงทำตลาดต่อไป 

“ผมเองลองผิดลองถูกมาเยอะครับ บางครั้งถามว่ามีท้อไหม ก็มีแต่ผมสร้างกำลังใจขึ้นมาใหม่ เราต้องผ่านและทำให้ได้จนประสบผลสำเร็จ เหมือนอย่างผม ท้อได้แต่ไม่ถอย จนทุกวันนี้อาชีพนี้ผมเองจะยึดไปจนแก่เลยครับ เป็นอาชีพที่ทำอยู่กับบ้านได้สบายๆ มีรายได้ตลอด”

หากสนใจหรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อสอบถามได้ที่ คุณโอม-ธนกฤต พลอยงาม ฟาร์มตั้งอยู่ที่ ตำบลวังน้ำคู้ อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก หมายเลขโทรศัพท์ 081-353-6922