เผยแพร่ |
---|
นายรพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2567 ได้ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้างานพัฒนาและวิจัยพันธุ์พืชของหน่วยงานวิจัยภาคเหนือตอนบน สำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 1 และศูนย์เครือข่ายของกรมวิชาการเกษตร (กวก.) ได้สั่งการให้ นายอนันต์ ปัญญาเพิ่ม ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยเกษตรหลวงเชียงใหม่ เร่งขึ้นทะเบียนพันธุ์กาแฟ Geisha และ Java ที่มีการรวบรวมไว้ที่ศูนย์วิจัยฯ ตามพระราชบัญญัติพันธุ์พืช พ.ศ. 2518 เพื่อคุ้มครองสิทธิ์และสร้างความเชื่อมั่นในคุณภาพกาแฟไทย
ปัจจุบันกรมมีกาแฟสายพันธุ์ กวก.เชียงใหม่ 80 กวก.เชียงราย 1 และ 2 ซึ่งมีกลิ่น รส เป็นเอกลักษณ์ ต้านทานโรคราสนิมและมีผลผลิตที่ดีเป็นพันธุ์แนะนำให้เกษตรกรนำไปปลูกเชิงพาณิชย์ นอกจากนั้น กรมยังได้เตรียมรับรองพันธุ์ชาแม่จอนหลวงเบอร์ 3 ที่อยู่ในขั้นตอนขอรับรองเป็นพันธุ์แนะนำ เป็นชาคุณภาพสูงเหมาะแปรรูปเป็นชาเขียวมัทฉะ เบื้องต้นมีบริษัทเอกชนรายใหญ่ในจังหวัดเชียงรายสนใจติดต่อซื้อกล้าพันธุ์ชาจำนวนมากเป็นการตอกย้ำเรื่องคุณภาพสายพันธุ์ดังกล่าว
“กรมไม่เคยหยุดนิ่งในการวิจัยพัฒนาพันธุ์พืช สำหรับกาแฟทั้งอะราบิกา-โรบัสตาสายพันธุ์ต่างๆ และชา ที่กรมวิจัยพัฒนาพันธุ์จะมีการขยายผลถ่ายทอดองค์ความรู้ตลอดกระบวนการผลิต เพื่อยกระดับการปลูกกาแฟไทยอย่างครบวงจรเพื่อตอบโจทย์การพัฒนาที่ยั่งยืนและส่งเสริมตลาดทั้งในและต่างประเทศตามนโยบายของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
สำหรับกาแฟสายพันธุ์เกอิชานั้นในการประกวดสุดยอดกาแฟไทย 4 ปีที่ผ่านมา พันธุ์เกอิชาซึ่งปลูกในพื้นที่จังหวัดน่านชนะอันดับ 1 ต่อเนื่องรวมถึงปี 2567 ก็ชนะที่ 1 ทั้งประเภทการแปรรูปโดยวิธีเปียก วิธีกึ่งแห้ง และวิธีแห้ง แต่พันธุ์เกอิชาต้องปลูกในระดับความสูง 1,400 เมตรเหนือระดับน้ำทะเลขึ้นไป จึงมีพื้นที่ปลูกจำกัด
ดังนั้น กรมจะพัฒนาให้ได้สายพันธุ์ที่เหมาะสมกับภูมิอากาศและภูมิประเทศของไทยให้ได้ผลดีที่สุดทั้งการเพิ่มผลผลิตและต้านทานโรค นอกจากนั้น จะส่งเสริมกาแฟพิเศษที่ปลูกในหลายพื้นที่เพื่อตอบโจทย์ตลาดเครื่องดื่มไทยและตลาดพรีเมี่ยมที่ขยายตัวทุกปี โดยข้อมูลของสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กระทรวงพาณิชย์ ระบุว่าตลาดกาแฟในประเทศมีมูลค่าประมาณ 3.4 หมื่นล้านบาท (มูลค่าปี 66) และขยายตัวมากกว่าปีละ7%” นายรพีภัทร์ กล่าว
นายอนันต์ กล่าวว่า การขึ้นทะเบียนกาแฟตาม พ.ร.บ.พันธุ์พืช พ.ศ. 2518 เป็นการแสดงความเป็นเจ้าของพันธุ์ซึ่งกรมได้มีการศึกษาวิจัยร่วมกับต่างประเทศในโครงการศึกษาไม้ผลเมืองหนาว เมื่อขึ้นทะเบียนแล้วเสร็จจะใช้เวลาศึกษาต่ออีกประมาณ 2-3 ปี เพื่อเก็บข้อมูลการปลูกทั้งหมดใช้เป็นประโยชน์สำหรับการปลูกในเชิงพาณิชย์ต่อไป
สำหรับชาแม่จอนหลวง 3 นั้นเป็นชาคุณภาพสูง กรมอยู่ระหว่างขึ้นทะเบียนเป็นพันธุ์แนะนำ ล่าสุดภาคเอกชนรายใหญ่เห็นศักยภาพและสนใจจอง 2 แสนกล้า เพื่อนำไปปลูกในพื้นที่จังหวัดเชียงรายเพื่อรองรับตลาดเครื่องดื่มสุขภาพ
ที่มา ข่าวสดออนไลน์