8 ผักยอดฮิต ปลูกง่าย โตไว เหมาะสำหรับมือใหม่หัดปลูกผักในช่วงหน้าฝน

หน้าฝนเป็นฤดูกาลที่เหมาะแก่การปลูกผักสวนครัว เพราะฝนตกชุก ทำให้ไม่ต้องรดน้ำบ่อย และผักหลายชนิดก็เจริญเติบโตได้ดีในสภาพอากาศแบบนี้ วันนี้เทคโนโลยีชาวบ้านจะมาแนะนำผัก 8 ชนิดที่ปลูกง่าย โตไว เหมาะสำหรับมือใหม่หัดปลูกในช่วงหน้าฝน

ผักบุ้งจีน
ผักบุ้งจีน

1. ผักบุ้งจีน เป็นผักอายุสั้นที่ปลูกง่าย และเจริญเติบโตได้ดีในช่วงฤดูฝน สามารถปลูกได้ทั้งในกระถางและแปลงปลูก 

วิธีการปลูก : นำเมล็ดแช่น้ำอุ่นทิ้งไว้ 6-12 ชั่วโมง เพื่อให้เมล็ดงอกได้ดี หลังจากนั้นหว่านให้กระจายทั่วแปลง หรือในกระถางที่เตรียมไว้ โดยพยายามหว่านให้เมล็ดพันธุ์ห่างกันเล็กน้อย กลบเมล็ดด้วยดินร่วนหรือแกลบดำหนาประมาณ 0.5 เซนติเมตร คลุมด้วยฟาง รดน้ำเป็นฝอยละเอียดทั่วแปลง

การเตรียมดิน : ปลูกได้ในดินแทบทุกชนิด แต่ชอบดินร่วนหรือดินร่วนปนทราย ชอบพื้นที่ชื้นแฉะ ต้องการความชื้นในดินสูงมาก มีค่าความเป็นกรดเป็นด่าง 5.0-7.0

การดูแล : ควรให้น้ำอย่างสม่ำเสมอ ควรคลุมดินเพื่อรักษาความชื้นของดินและลดการระเหยของน้ำ ไม่ควรใช้แกลบคลุมเพราะหลังการพรวนดินกลบโคนแกลบจะสลายตัวทำให้ผักบุ้งจีนชะงักการเจริญเติบโต

การเก็บเกี่ยว : ควรรดน้ำก่อนถอนต้นผักบุ้ง จะทำให้ถอนได้ง่าย เมื่อผักบุ้งจีนมีอายุ 20-25 วันหลังปลูก หรือมีความสูงประมาณ 30-35 เซนติเมตร สามารถเก็บมาบริโภคได้

คะน้า
คะน้า

2. คะน้า เป็นผักที่ปลูกง่ายและให้ผลผลิตเร็ว ทนต่อสภาพอากาศ สามารถนำไปประกอบอาหารได้หลากหลายเมนู

Advertisement

วิธีการปลูก : เริ่มจากการใส่กาบมะพร้าวสับวางรองก้นกระถาง หาภาชนะร่อนดินให้ละเอียด จากนั้นผสมดินร่วน 2 ส่วน ปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอก 1 ส่วน แล้วทำการใส่ลงในกระถางที่เตรียมมา โดยไม่ต้องเทให้เต็มมาก เสร็จแล้วหย่อนเมล็ดตามลงไป ใช้ดินผสมหรือปุ๋ยคอกหว่านกลบเมล็ดให้หนาประมาณ 0.6-1 เซนติเมตร กลบดินผิวหน้าเมล็ด

การเตรียมดิน : สามารถเจริญเติบโตได้ในดินแทบทุกชนิด โดยเฉพาะดินร่วนปนทราย ดินเหนียวปนดินร่วน ชอบดินที่ระบายน้ำได้ดี น้ำไม่ขัง 

Advertisement

การดูแล : ปุ๋ยที่นำมาบำรุงต้นควรเป็นปุ๋ยที่ธาตุไนโตรเจนสูงๆ ควรรดน้ำอย่างสม่ำเสมอทุกเช้า-เย็น หมั่นกำจัดวัชพืชและพรวนดินบ่อยๆ วางในบริเวณที่มีแสงเพียงพอ

การเก็บเกี่ยว : เมื่ออายุได้ประมาณ 45-55 วันหลังปลูก สามารถเก็บเกี่ยวมาบริโภคได้ แต่คะน้าอายุ 50-55 วัน เป็นระยะที่เก็บเกี่ยวได้น้ำหนักมากกว่า

ผักชี
ผักชี

3. ผักชี พืชสมุนไพรชนิดหนึ่งที่มีกลิ่นหอมเฉพาะตัว แต่เป็นพืชล้มลุกที่มีอายุสั้น ประมาณ 40-60 วันเท่านั้น

การเตรียมดิน : เตรียมดินสำหรับปลูก ด้วยการตากดินสัก 1 สัปดาห์ แล้วพรวนดินให้แตกเป็นก้อนเล็ก ผสมปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยสดคลุกเคล้าเข้าไป

การปลูก : บดเมล็ดพันธุ์ผักชีที่ซื้อมาให้แตกออกเป็น 2 ซีก แล้วนำเมล็ดไปแช่น้ำประมาณ 2-3 ชั่วโมง นำเมล็ดพันธุ์ผักชีที่แช่น้ำแล้วไปผึ่งลม ผสมกับทรายหรือขี้เถ้าเล็กน้อย เมื่อเห็นเมล็ดเริ่มงอก ให้นำไปใส่กระถางปลูกที่เตรียมดินเอาไว้แล้ว จากนั้นคลุมด้วยฟางข้าวหรือหญ้าแห้ง แล้วรดน้ำให้ชุ่ม

การดูแล : ผักชีถึงแม้จะพืชที่ต้องการน้ำมาก แต่ผักชีไม่ชอบน้ำขัง ดังนั้น ควรให้น้ำอย่างสม่ำเสมอวันละ 2 ครั้ง ในตอนเช้าและเย็น เมื่อผักชีแตกใบให้ใส่ปุ๋ยหมัก หรือถ้าจะเร่งให้งามเร็วๆ ให้ใส่ปุ๋ยแอมโมเนียมซัลเฟต อัตราส่วน 3-4 ช้อนแกงต่อน้ำ 1 ปี๊บ แล้วนำไปฉีดพ่นเบาๆ

การเก็บเกี่ยว : เมื่ออายุประมาณ 40-45 วัน โดยเลือกต้นที่สมบูรณ์ที่มีความยาว 20-30 เซนติเมตร ก่อนการเก็บเกี่ยวควรรดน้ำให้ชุ่มแปลงดินเพื่อการถอนผักชีที่ง่ายขึ้นทำให้ต้นผักชีไม่ขาด การเก็บเกี่ยวผักชีทำได้โดยการใช้มือจับที่โคนรากแล้วถอนดึงขึ้นมา สะบัดดินออก แล้วนำไปล้างน้ำ คัดใบสีเหลืองหรือใบที่เน่าออก

ถั่วพู
ถั่วพู

4. ถั่วพู เป็นพืชตระกูลถั่วที่ปลูกง่ายและสามารถออกดอก ออกผลได้ตลอดทั้งปี อีกทั้งยังสามารถปลูกได้แทบทุกพื้นที่ที่ไม่มีน้ำท่วมขัง

การเตรียมดิน : เตรียมดินร่วนผสมปุ๋ยคอก และกาบมะพร้าวสับ ถั่วพูชอบดินร่วนปนทราย ระบายน้ำได้ดี ทำการรองก้นหลุมด้วยปุ๋ยคอกประมาณ 1 กำมือ

การปลูก : นำเมล็ดถั่วพูมาแช่น้ำอุ่นไว้ เป็นเวลา 1 คืน แล้วนำมาเพาะลงในถุงหรือกระบะเพาะชำ ใส่เมล็ดถั่วพูลงไปประมาณ 2-3 เมล็ด หลังจากนั้นประมาณ 15 วัน ต้นกล้าก็จะเริ่มงอกและแตกใบอ่อนออกมา 3 ใบ ทำการย้ายไปปลูกในหลุมที่ขุดไว้ โดยใช้ระยะห่างระหว่างหลุม ประมาณ 5-6 เมตร

การดูแล : หลังจากย้ายต้นกล้าของถั่วพูเป็นเวลาประมาณ 2 เดือน ถั่วพูจะเริ่มแทงช่อดอก ให้ผู้ปลูกใส่ปุ๋ย สูตร 8-24-24 เพื่อเร่งการออกดอก และทำการใส่ปุ๋ยทุกๆ 15 วัน หลังจากนั้นประมาณ 3 เดือนก็จะเก็บฝักถั่วได้ตลอดระยะเวลา 6-12 เดือน โดยถั่วพู 1 ต้น จะให้ผลผลิตประมาณ 300-500 กรัมต่อวัน 

การเก็บเกี่ยว : เมื่ออายุประมาณ 2 เดือน โดยเก็บเกี่ยววันเว้น 3 วัน นิยมเก็บฝักอ่อน หลังจากนั้นจะเก็บเกี่ยวได้ต่อเนื่อง ประมาณ 2 เดือน ต้นจะเหี่ยวเฉาลง

มะเขือเปราะ ขอบคุณภาพจาก : kapook
มะเขือเปราะ ขอบคุณภาพจาก : kapook

5. มะเขือเปราะ เป็นพืชผักที่มีอายุยืน สามารถปลูกได้ในดินแทบทุกชนิด สามารถปลูกได้ตลอดทั้งปี

การเตรียมดิน : ผสมดินปลูกในกระถาง โดยใช้ดินร่วนละเอียดผสมกับปุ๋ยคอก หรือปุ๋ยหมัก ในอัตรา 2 : 1 ย้ายกล้าที่มีอายุ 1 เดือน ลงกระถางปลูกกลบดินให้แน่น แล้วรดน้ำให้ชุ่ม 

การปลูก : ใช้เศษไม้เล็กๆ (ขนาดเท่าไม้จิ้มผลไม้) กดลงไปในดินที่บรรจุอยู่ในถาดพลาสติกเพาะกล้า ขนาด ความลึก 0.5 เซนติเมตร และนำเมล็ดมะเขือเปราะหยอดลงในหลุมปลูก หลุมละ 1-2 เมล็ด กลบดินผิวหน้าเมล็ดไปจากถาดพลาสติกเพาะกล้าโดยใช้ปูนขาวโรยเป็นเส้นล้อมถาดเพาะไว้ หลังเพาะนาน 7-10 วัน มะเขือเปราะเริ่มงอก หมั่นรดน้ำต้นกล้ามะเขือเปราะทุกวัน วันละ 1-2 ครั้ง ในช่วงเช้าและเย็นจนกระทั่งต้นกล้ามะเขือเปราะมีอายุ 25-30 วัน จึงย้ายกล้ามะเขือเปราะลงปลูกในกระถางหรือในแปลงปลูก

การดูแล : ควรรดน้ำทุกวัน และในช่วงการติดผลต้องระมัดระวังให้น้ำอย่างสม่ำเสมอ หลังย้ายปลูกแล้ว 7-10 วัน ให้ใส่ปุ๋ยเคมี สูตร 15-15-15 อัตราต้นละ 1/4 ช้อนชา ควรโรยปุ๋ยห่างโคนต้นประมาณ 2-3 เซนติเมตร และรดน้ำทันที ต่อมาควรใส่ปุ๋ยเคมีสูตร 15-15-15 อัตราต้นละ 1/4 ช้อนชาทุกๆ 15 วัน

การเก็บเกี่ยว : เมื่ออายุ 45-60 วัน มะเขือเปราะเริ่มทยอยให้ผลผลิต สามารถเก็บผลผลิตไปบริโภคได้ หลังจากที่สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตมะเขือเปราะไปแล้วประมาณ 2 เดือน ควรตัดแต่งกิ่งออกบ้าง เพื่อทำให้ลำต้นมะเขือเปราะ เจริญเติบโตแตกกิ่งก้านใหม่ที่มีความแข็งแรง จะให้ผลผลิตรุ่นใหม่ได้อีก

กระเจี้ยบเขียวขอบคุณภาพจาก : องค์ความรู้เพื่อการพัฒนาพื้นที่สูงอย่างยั่งยืน
กระเจี๊ยบเขียว ขอบคุณภาพจาก : องค์ความรู้เพื่อการพัฒนาพื้นที่สูงอย่างยั่งยืน

6. กระเจี๊ยบเขียว 

การเตรียมดิน : เจริญเติบโตได้ดีในสภาพดินร่วนระบายน้ำดี ดินปลูกต้องร่วนซุยไม่แน่น มีการระบายน้ำดี ควรใส่อินทรียวัตถุ เช่น ปุ๋ยคอก มูลเป็ด มูลไก่ ฯลฯ และใส่ปูนขาวเพื่อปรับสภาพความเป็นกรดด่างของดินให้เหมาะสม 

การปลูก : เริ่มจากเมล็ด โดยหยอดเมล็ดลงแปลงปลูกหลุมละ 2-3 เมล็ด ระยะห่างระหว่างหลุมประมาณ 30 เซนติเมตร หลังจากนั้น 7-15 วัน เมล็ดจะเริ่มงอก ในระยะนี้ต้องได้รับน้ำสม่ำเสมอ ใช้ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักในการบำรุงต้นทุกๆ 20 วัน

การดูแล : การให้น้ำในช่วงนี้จึงควรหมั่นรดน้ำอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้การเจริญเติบของต้นเป็นไปอย่างต่อเนื่อง ฝักมีคุณภาพดี และมีปริมาณฝักที่ได้สูง

การเก็บเกี่ยว : กระเจี๊ยบเขียวเป็นพืชที่โตเร็ว เมื่ออายุได้ 40 วัน จะเริ่มออกดอก หลังดอกบาน 5 วัน ฝักจะยาว 4-9 เซนติเมตร ซึ่งสามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตฝักสดได้

มะระจีน
มะระจีน

7. มะระจีน 

การเตรียมดิน : เริ่มจากการไถ พรวนดิน ปรับสภาพดิน ฆ่าเชื้อในดินด้วยวิธีการโรยปูนขาว การตากหน้าดิน และการเติมธาตุอาหารลงในดิน อาจจะใช้ปุ๋ยหมัก หรืออินทรียวัตถุ

การปลูก : เริ่มจากการทำลายการพักตัว ด้วยวิธีการตัดเปลือกของเมล็ด เพื่อให้น้ำเข้าไปในเนื้อของเมล็ดได้ แล้วนำเมล็ดไปแช่น้ำอุ่น 40-50 องศา เพื่อให้เกิดการกระตุ้นการงอก เป็นเวลา 4-6 ชั่วโมง นำมาห่อกระดาษหรือผ้า บ่มไว้จนกว่ารากแรกเริ่มจะปรากฏ จากนั้นจึงค่อยนำมาย้ายลงถาดเพาะปลูก

การดูแล : การทำค้างและการติดตาข่าย เพื่อให้ต้นเลื้อยขึ้น สามารถใช้ไม้ไผ่ทำหลักระยะห่าง 2-3 เมตรได้ ขึงตาข่ายสูงไม่เกิน 2.5 เมตร เพื่อง่ายต่อการจัดการและการเก็บผลผลิต และค่อยจัดยอดให้เลื้อยขึ้นตาข่ายเป็นระยะๆ

การเก็บเกี่ยว : หลังจากปลูกได้ประมาณ 45-50 วัน หรือนับหลังจากดอกบาน 17 วัน เป็นระยะเวลาที่เหมาะสมในการเก็บผลมะระจีน สามารถทยอยเก็บผลได้ทุกวันจนถึงอายุประมาณ 90 วัน

ถั่วฝักยาว ขอบคุณภาพจาก : สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน)
ถั่วฝักยาว ขอบคุณภาพจาก : สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน)

8. ถั่วฝักยาว สามารถปลูกได้ตลอดทั้งปี แต่ช่วงที่ให้ผลผลิตดีที่สุดก็คือ ช่วงฤดูฝน แนะนำให้ปลูกช่วงเดือนกุมภาพันธ์-พฤศจิกายน ส่วนฤดูร้อนนั้น ไม่แนะนำ เพราะอาจพบเจอปัญหาแมลงมากัดกินใบ หรือ ฝักเสียหายได้

การเตรียมดิน : ดินที่มีความร่วนซุย โดยก่อนปลูก ให้นำดินร่วนมาผสมกับปุ๋ยคอก กาบมะพร้าวสับ แกลบดิบ แล้วหมักทิ้งไว้ นอกจากจะทำให้ดินโปร่งดีแล้ว ยังเพิ่มธาตุอาหาร ทำให้ดินมีความอุดมสมบูรณ์อีกด้วย 

การปลูก : นำถาดเพาะเมล็ดออกมา ใส่กาบมะพร้าวสับรองไว้ ตามด้วยดินร่วน ให้เต็มถาด ขุดเป็นหลุมเล็กๆ แล้วหยอดเมล็ดพันธุ์ถั่วฝักยาว 1-2 เมล็ดลงไป ในแต่ละหลุม (เผื่อเมล็ดใดเมล็ดหนึ่งไม่งอก) จากนั้นใช้ขวดสเปรย์ฉีดน้ำให้ดินชุ่ม แล้วตั้งไว้ในที่โดนแสงแดด รดน้ำเช้า-เย็น ทุกวัน ผ่านไป 1-2 วัน เมล็ดก็จะงอกขึ้นมาแล้ว พอถั่วฝักยาวมีอายุได้ 5-7 วัน จึงเตรียมย้ายลงกระถางต่อไป

การดูแล : ถั่วฝักยาว เป็นไม้เลื้อย ต้องการสิ่งค้ำจุน ทำให้เมื่อต้นถั่วฝักยาวโตขึ้น จะต้องทำไม้ค้างสำหรับเป็นหลัก ไว้ค้ำจุนลำต้นของถั่วฝักยาวด้วย โดยคุณสามารถใช้วัสดุที่หาได้ง่ายๆ เช่น ไม้ไผ่ หรือท่อ PVC มาใช้ก็ได้

การเก็บเกี่ยว : หลังจากปลูกได้ประมาณ 40-45 วัน ก็จะสามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตไปบริโภคได้

ขอบคุณข้อมูลจาก : สถาบันวิจัยพืชสวน กรมวิชาการเกษตร, Agh hortipro และ sge.thai