เกษตรกรสุราษฎร์ฯ เปลี่ยนเงาะโรงเรียนเป็นลำไยพวงทอง “ช่อใหญ่ หวานกรอบ เนื้อเยอะ เมล็ดเล็ก ตรงตามพันธุ์”

นายเกษม กังก๋ง หรือ ลุงเกษม วัย 69 ปี เดิมเป็นคนจังหวัดราชบุรี แต่ได้ย้ายมาอาศัยและทำการเกษตรอยู่ในพื้นที่บ้านทับคริสต์ หมู่ที่ 3 ตำบลคลองชะอุ่น อำเภอพนม จังหวัดสุราษฎร์ธานี ตั้งแต่ ปี พ.ศ. 2513 โดยตนเองได้ปลูกเงาะโรงเรียนซึ่งเป็นไม้ผลชื่อดังของจังหวัดสุราษฎร์ธานี บนพื้นที่ 6 ไร่ รวมทั้งปลูกพืชล้มลุกอื่นๆ ตามฤดูกาล

ต่อมาประมาณ ปี พ.ศ. 2555 ได้ตัดสินใจเปลี่ยนพื้นที่ไปปลูกลำไยพันธุ์พวงทองบ้านแพ้ว เนื่องจากเห็นเพื่อนบ้านทดลองนำลำไยพันธุ์ดังกล่าวมาปลูกแล้วได้ผลผลิตดี จึงมีความคิดที่จะปลูกอย่างจริงจัง โดยเดินทางไปศึกษาวิธีการปลูกและดูแลสวนลำไย พร้อมทั้งซื้อกิ่งพันธุ์จากอำเภอบ้านแพ้ว จังหวัดสมุทรสาคร มาปลูกประมาณ 70 ต้น บนพื้นที่ประมาณ 3 ไร่ ด้วยระยะปลูก 6×6 เมตร ผ่านไปประมาณ 3 ปี ลุงเกษมก็ได้รับผลผลิตลำไยตามที่ตนเองตั้งใจไว้

ลุงเกษม เล่าต่อว่า ตนเองได้ศึกษาวิธีการปลูกลำไย รวมทั้งลองผิดลองถูกด้วยตนเอง จนได้ผลผลิตที่มีปริมาณและมีคุณภาพที่น่าพอใจ โดยเริ่มตั้งแต่การเลือกพื้นที่ปลูกที่เป็นพื้นที่ลาดเอียง ระบายน้ำได้ดี ดินมีลักษณะร่วนปนทราย มีการจัดทำระบบน้ำด้วยระบบสปริงเกลอร์ ให้น้ำวันละประมาณ 15-20 นาที (ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศในแต่ละวัน) รวมทั้งมีการใส่ปุ๋ยสูตร 15-15-15 ในช่วงต้นฤดูฝนเพื่อบำรุงต้นและใบ และใส่ปุ๋ยสูตร 8-24-24 ในช่วงทำดอก

สำหรับเทคนิคการทำดอกและผล ลุงเกษมใช้วิธีการเหมือนกับที่เกษตรกรที่บ้านแพ้วทำ นั้นคือเมื่อต้นสมบูรณ์ ใบสุดท้ายเลยระยะใบเพสลาดเล็กน้อย ให้ใช้โพแทสเซียมคลอเรตชนิดผงโรยในบริเวณทรงพุ่ม อัตรา 100 กรัมต่อพื้นที่ใต้ทรงพุ่ม 1 ตารางเมตร แล้วรดน้ำเพื่อบังคับให้เกิดดอก หลังจากใช้สารประมาณ 1 เดือน ต้นลำไยจะเริ่มออกดอก และอีกประมาณ 7 เดือน ก็จะได้รับผลผลิตลำไย

Advertisement

ปี 2567 ลำไยสวนลุงเกษมให้ผลผลิตประมาณ 30 ต้น ได้ผลผลิตกว่า 1 ตัน ถือเป็นสวนแรกๆ ที่สามารถให้ผลผลิตจำนวนมากในพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ปัจจุบันลุงเกษมจำหน่ายลำไยผ่านช่องทางออนไลน์ เช่น เฟซบุ๊ก ไลน์ และจำหน่ายในชุมชนของตนเอง ในราคากิโลกรัมละ 50 บาท ได้รับผลตอบรับที่ดีและจำหน่ายได้ทุกวันตลอดช่วงเวลาที่ให้ผลผลิต เนื่องจากชาวบ้านรับรู้ว่าสวนของลุงเกษมใช้สารเคมีน้อย ที่สำคัญคือก่อนเก็บผลผลิต 1 เดือน จะใช้งดใช้สารเคมีทุกชนิด ฉะนั้นมั่นใจได้ว่าลำไยจากสวนลุงเกษมมีความปลอดภัยแน่นอน

Advertisement

นายไพฑูรณ์ คงเดิม นายกเทศมนตรีตำบลคลองชะอุ่น กล่าวว่า ด้วยสภาพพื้นที่ของบ้านทับคริสต์ หมู่ที่ 3 ตำบลคลองชะอุ่น อำเภอพนม จังหวัดสุราษฎร์ธานี มีสภาอากาศที่เหมาะสมกับการปลูกไม้ผล โดยเฉพาะไม้ผลเศรษฐกิจที่สำคัญ เช่น ทุเรียน มังคุด เงาะ ฯลฯ อีกทั้งมีระบบการบริหารจัดการน้ำที่ดี ทำให้เกษตรกรมีน้ำใช้ตลอดทั้งปี

สำหรับสวนลำไยของนายเกษม กังก๋ง ทางเทศบาลตำบลคลองชะอุ่นได้มอบหมายให้นักวิชาการเกษตรของเทศบาลเข้าไปดูแล เพื่อส่งเสริมให้เกษตรกรทำการเกษตรแบบยุคใหม่ มีการบริหารจัดการสวนที่ดี ควบคุมต้นทุนได้ อีกทั้งสามารถกำหนดช่วงเวลาและปริมาณผลผลิตที่สอดคล้องกับความต้องการของตลาด ช่วยเพิ่มราคาลำไยให้สูงขึ้น และสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรมากขึ้น นอกจากนี้ ยังช่วยประชาสัมพันธ์ให้ลำไยบ้านทับคริสต์เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้นอีกด้วย

นายพสุชา อาจณรงค์ นักวิชาการเกษตรปฏิบัติการ เทศบาลตำบลคลองชะอุ่น กล่าวว่า จากการที่ได้เข้าไปเยี่ยมเยียนและติดตาม พบว่าลุงเกษมเป็นผู้มีองค์ความรู้และประสบการณ์ทั้งการให้น้ำ ใส่ปุ๋ย การตัดแต่งทรงพุ่ม การใช้สารควบคุมการออกดอก ทำให้ผลผลิตลำไยที่ได้มีคุณภาพดี ผลดก ช่อใหญ่ รสชาติดี หวานกรอบ เมล็ดเล็ก และตรงตามพันธุ์ ทางเทศบาลได้เข้าไปแนะนำให้มีการจดบันทึกข้อมูลการทำการเกษตร เพื่อวางแผนสำหรับขอการรับรองมาตรฐานการปฏิบัติทางการเกษตรที่ดี (GAP) หรือเกษตรปลอดภัย

เพื่อเป็นการการันตีและสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภคในอนาคต พร้อมทั้งแนะนำให้ทดลองผลิตลำไยนอกฤดู เพื่อไม่ให้ผลผลิตออกพร้อมกับลำไยที่มาจากภาคกลางหรือภาคอื่นๆ ซึ่งหากทำได้จะทำให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มมากขึ้น มากไปกว่านั้นได้ตั้งเป้าหมายสำหรับปีการผลิต 2568 จะต้องเพิ่มปริมาณผลผลิตให้ได้อย่างน้อย 50 เปอร์เซ็นต์ โดยใช้วิชาการรวมทั้งการบูรณาการของหน่วยงานในการพัฒนากระบวนการผลิต เช่น การปรับปรุงดิน การใช้ปุ๋ย การตัดแต่งทรงพุ่ม และการป้องกันกำจัดศัตรูพืชที่ถูกต้องและเหมาะสมเข้ามาประยุกต์ใช้

สำหรับผู้ที่สนใจลำไยพวงทองบ้านแพ้วสุราษฎร์ฯ ช่อใหญ่ หวานกรอบ เนื้อเยอะ เมล็ดเล็ก ตรงตามพันธุ์ สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ นายเกษม กังก๋ง (ลุงเกษม) โทร. 089-871-1512 หรือจะไปเยี่ยมชมสวน ซึ่งตั้งอยู่ที่ หมู่ที่ 3 ตำบลคลองชะอุ่น อำเภอพนม จังหวัดสุราษฎร์ธานี