เผยแพร่ |
---|
ปัจจุบัน เกษตรกรหลายแห่งได้ปรับเปลี่ยนมาใช้ระบบน้ำหยดในการให้น้ำแก่พืช ซึ่งเป็นเทคโนโลยีการเกษตรรูปแบบใหม่ที่ช่วยจัดการน้ำอย่างมีประสิทธิภาพ การให้น้ำแบบนี้ช่วยให้พืชได้รับน้ำอย่างสม่ำเสมอ และเหมาะสมต่อการเจริญเติบโต
หลักการทำงานของ “ระบบน้ำหยด”
ระบบน้ำหยด สามารถนำมาประยุกต์ใช้กับการเกษตรได้หลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น การปลูกพืช , ปลูกผัก , ทำไร่ , ทำสวน ซึ่งสามารถนำระบบน้ำหยดมาใช้สำหรับควบคุมปริมาณน้ำในการปลูกพืช เพื่อรักษาระดับความชื้นในดิน
หลักการทำงานของระบบสายน้ำหยด คือ การส่งน้ำไปยังต้นพืชอย่างสม่ำเสมอผ่านท่อและหัวน้ำหยดที่ติดตั้งไว้บริเวณโคนต้น โดยน้ำจะถูกปล่อยออกมาเป็นหยดเล็ก ๆ อย่างช้า ๆ ตามจังหวะเวลาที่ตั้งไว้ ซึ่งช่วยให้พืชได้รับน้ำในปริมาณที่เหมาะสมตลอดเวลา ลดการสูญเสียน้ำจากการระเหยหรือการซึมลงดินลึกเกินไป
อุกปรณ์ “ระบบน้ำหยด” หลักๆ จะมีอุปกรณ์ดังนี้
- เครื่องสูบน้ำ หรือถังน้ำ ใช้สำหรับส่งน้ำให้กับระบบน้ำหยดและสร้างแรงดันน้ำที่เหมาะสม
- หัวน้ำหยด ใช้สำหรับจ่ายน้ำและควบคุมอัตราการจ่ายน้ำ สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภท ได้แก่ หัวน้ำหยดชนิดไม่ชดเชยแรงดัน ซึ่งสามารถปรับอัตราการจ่ายน้ำได้ และหัวน้ำหยดชนิดชดเชยแรงดัน ทำให้จ่ายน้ำได้สม่ำเสมอ
- เครื่องกรองน้ำ ใช้ในการกรองตะกอนในน้ำ เพื่อป้องกันไม่ให้หัวน้ำหยดและอุปกรณ์ต่าง ๆ ของระบบน้ำหยดเกิดการอุดตัน ตัวอย่างเครื่องกรองน้ำสำหรับระบบน้ำหยด เช่น เครื่องกรองน้ำแบบตะแกรง เครื่องกรองนํ้าแบบทรายกรอง หรือเครื่องกรองน้ำแบบแผ่นดิสก์
- ท่อประธานหรือท่อเมน เป็นท่อหลักที่ใช้ในการส่งน้ำไปยังท่อรองประธาน (Sub Line) และท่อแขนง (Lateral) ของระบบน้ำหยด
- ท่อรองประธาน เป็นท่อส่งน้ำที่ต่อแยกออกมาจากท่อประธาน มีหน้าที่รับน้ำจากท่อประธานแล้วแบ่งน้ำออกเป็นส่วน ๆ เพื่อส่งต่อไปยังท่อแขนง
- อุปกรณ์คุมแรงดันน้ำ ใช้สำหรับควบคุมแรงดันน้ำภายในท่อแขนงให้คงที่ เพื่อให้น้ำออกจากหัวน้ำหยดทั้งทางต้นท่อและปลายท่อได้อย่างสม่ำเสมอ
ข้อดีของระบบน้ำหยด
- ประหยัดน้ำ เนื่องจากน้ำถูกใช้ในปริมาณที่เหมาะสมโดยตรงกับต้นพืช
- ลดต้นทุนการผลิต เพราะใช้น้ำน้อยกว่าระบบการให้น้ำแบบทั่วไป
- ส่งเสริมผลผลิต เพราะพืชได้รับน้ำอย่างสม่ำเสมอและเพียงพอ
- ลดการเกิดวัชพืช เพราะน้ำจะไปเฉพาะที่รากพืช ไม่แพร่กระจายไปทั่วพื้นที่
ราคาของระบบน้ำหยดเริ่มต้นที่ประมาณ 1,500-3,000 บาท ขึ้นอยู่กับขนาดพื้นที่และวัสดุที่ใช้ หากเป็นชุดระบบน้ำหยดขนาดเล็กที่ออกแบบสำหรับพื้นที่ไม่เกิน 1 ไร่ ราคาจะเริ่มต้นที่ประมาณนี้ ซึ่งเกษตรกรสามารถเข้าถึงได้ในราคาที่ไม่สูงมาก และยังสามารถปรับแต่งตามความต้องการของพื้นที่ได้