เผยแพร่ |
---|
ช่วงหน้าฝนเป็นปัญหาใหญ่ที่จะทำให้ผลผลิตทางการเกษตรเสียหายได้ โดยเฉพาะการปลูกพืชผักทั้งการค้าและรอบบ้าน กรมส่งเสริมการเกษตรได้แนะนำให้เกษตรกรวางแผนการปลูกและรักษาพืชผัก เนื่องจากในช่วงฤดูฝนมีปริมาณน้ำมากและความชื้นในอากาศสูง อาจทำให้ผลผลิตเสียหายได้ หากเกษตรกรวางแผนการผลิตและดูแลรักษาไม่ดี ขอแนะนำ 7 เทคนิคการปลูกพืชผักให้เหมาะกับช่วงฤดูฝน ดังนี้
1. เลือกชนิดพืชผักที่เหมาะสมสำหรับปลูกในฤดูฝน ได้แก่ ผักที่มีอายุการเก็บเกี่ยวสั้นจำพวกผักใบ เช่น กวางตุ้ง ผักบุ้งจีน ผักตระกูลกะหล่ำ เช่น คะน้า ผักเถาเลื้อย เช่น ตำลึง ถั่วลันเตา แฟง มะระ ผักยืนต้น เช่น ชะอม พริก มะเขือ เป็นต้น
2. เมล็ดพันธุ์ควรใช้จากแหล่งที่เชื่อถือได้ และเพื่อเป็นการป้องกันเชื้อราที่ติดมากับเมล็ดควรแช่เมล็ดพันธุ์ในน้ำอุ่น ประมาณ 50 องศาเซลเซียส นาน 30 นาที
3. การเตรียมแปลงในฤดูฝนดินมีการอุ้มน้ำมาก จะทำให้ขาดอากาศและตายในที่สุด ดังนั้น พืชผักที่มีรากไม่ลึกมาก ควรยกแปลงให้สูงไม่น้อยกว่า 30 เซนติเมตร พร้อมทั้งเพิ่มปริมาณปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักมากกว่าเดิม เพื่อลดความเป็นกรดของดิน
4. การจัดการแปลงหาวัสดุคลุมแปลง เพื่อป้องกันเม็ดฝนที่สร้างความเสียหายแก่ผิวดินและระบบรากพืช โดยเฉพาะพืชที่มีระบบรากตื้น การคลุมแปลงโดยใช้วัสดุที่หาได้ง่าย เช่น ฟางข้าว หญ้าแห้ง จะช่วยลดแรงกระแทกของเม็ดฝนและควบคุมวัชพืชได้อีกด้วย
5. กำจัดวัชพืชในฤดูฝนจะเจริญเติบโตได้ดี และเป็นที่อาศัยของโรคแมลงศัตรูพืช การหมั่นกำจัดวัชพืชนอกจากจะทำให้พืชเจริญเติบโตดีแล้ว ยังเป็นการลดแหล่งอาศัยของศัตรูพืช และทำให้แสงแดดส่องถึงพื้นดิน
6. การรดแปลงผักด้วยน้ำปูนใสช่วยให้กล้าผักมีความแข็งแรง และเพิ่มอัตรารอดตายจากโรคพืชที่เข้าทำลายได้ การเตรียมน้ำปูนใส ทำได้โดยผสมปูนขาว 5 กิโลกรัมในน้ำ 20 ลิตร กวนให้เข้ากัน ทิ้งไว้ 1 คืนให้ตกตะกอน หลังจากนั้นนำน้ำปูนใสที่ตกตะกอนแล้วผสมน้ำอัตรา 1 ต่อ 5 รดแปลงผักสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง
7. การใช้เชื้อราไตรโคเดอร์มา ป้องกันกำจัดเชื้อราอย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย มีวิธีการดังนี้
– คลุกเมล็ดพันธุ์ ในอัตรา 10-20 กรัมต่อเมล็ดพันธุ์ 1 กิโลกรัม เติมน้ำลงไปเล็กน้อย เพื่อช่วยให้ผลเพื่อจับติดเมล็ดได้ดีขึ้นและนำไปปลูกทันที
– ผสมดินปลูก โดยใช้เชื้อไตรโคเดอร์มาในรูปเชื้อสด 1 ส่วน ผสมกับรำข้าว 10 ส่วน และปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอก 40 ส่วน (โดยน้ำหนัก) ผสมให้เข้ากัน พรมน้ำให้ชุ่ม ทิ้งไว้ในที่ร่ม 1-3 คืน เพื่อให้เชื้อราเจริญเติบโต จากนั้นนำไปคลุกเคล้ากับดินปลูกหรือรองก้นหลุมประมาณ 1 กำมือต่อต้น
– ฉีดพ่นบริเวณโคนหรือใบต้นผัก โดยใช้เชื้อไตรโคเดอร์มาในรูปเชื้อสด 1 กิโลกรัม ผสมน้ำ 20 ลิตร กรองเอาเฉพาะน้ำสปอร์เติมน้ำจนได้ 100 ลิตร ใช้ฉีดพ่นแปลงต้นกล้าบริเวณโคนต้นผัก หรือฉีดพ่นทางใบ
ข้อควรระมัดระวัง หากเกิดภาวะฝนทิ้งช่วง เกษตรกรจำเป็นต้องให้น้ำแก่พืชอย่างสม่ำเสมอและเพียงพอ หากพืชขาดน้ำในช่วงนี้ เมื่อฝนตกลงมาอีกครั้งจะทำให้ผลผลิตเสียหาย โดยเฉพาะพืชผัก
ขอบคุณข้อมูล กรมส่งเสริมการเกษตร