เผยแพร่ |
---|
การปลูกผักสวนครัวไม่เพียงช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในครัวเรือน แต่ยังได้ผักที่ปลูกเองแบบไม่ต้องพึ่งสารเคมี แถมยังได้ผักสดๆ จากบ้านตัวเองมาใช้ทำอาหารในแต่ละมื้อได้อีกด้วย หนึ่งในเคล็ดลับที่ช่วยลดของเหลือจากผักที่กินไม่หมด และได้ผักสดๆ กลับมากินอีกครั้งด้วยวิธีการ “ปักชำ” ซึ่งเป็นการนำผักที่เหลือจากการใช้ในครัวมาปักชำใหม่ให้แตกยอดอีกครั้ง เรามาดูกันว่า ผักชนิดไหนบ้างที่สามารถปักชำใหม่ได้ง่ายๆ และโตไว
สะระแหน่ เป็นพืชล้มลุก เลื้อยตามพื้นดิน ลำต้นสีแดงเข้ม เป็นรูปสี่เหลี่ยม มีกลิ่นหอม ขยายกิ่งก้านออกโดยใช้ไหลหรือลำต้นใต้ดิน สะระแหน่เป็นพืชที่สามารถปลูกได้ทั้งในแสงแดดรำไรและแดดจัด เหมาะที่ปลูกในสภาพอากาศแห้งและความชื้นต่ำ ชอบน้ำชุ่มและน้ำสม่ำเสมอ
วิธีปลูกโดยการปักชำ
การเลือกกิ่งสะระแหน่ : เลือกกิ่งที่สดและแข็งแรง ไม่แก่หรืออ่อนเกินไป ยาวประมาณ 4-6 นิ้ว (10-15 เซนติเมตร) ตัดใบล่างออกประมาณครึ่งหนึ่ง เหลือใบส่วนบนไว้ เพื่อช่วยลดการคายน้ำ
การปักชำ
• ถ้าปักชำในน้ำ : ให้เตรียมน้ำสะอาดใส่แก้วหรือภาชนะ แล้วนำกิ่งสะระแหน่ปักลงไปโดยให้โคนกิ่งจมในน้ำ 1-2 นิ้ว
• ถ้าปักชำในดิน : ให้เตรียมดินที่ร่วนซุยและระบายน้ำดี เช่น ดินผสมทราย หรือดินที่มีส่วนผสมของขุยมะพร้าว
การดูแล
• หากปักในน้ำ : ควรเปลี่ยนน้ำทุก 2-3 วัน เพื่อป้องกันน้ำเน่า และเพื่อให้น้ำสะอาดสำหรับการเจริญเติบโตของราก
• หากปักในดิน : รดน้ำให้ชุ่มเป็นประจำ แต่ควรระวังไม่ให้ดินแฉะจนเกินไป เพราะอาจทำให้รากเน่าได้
หลังจากประมาณ 7-10 วัน รากจะเริ่มงอกจากโคนกิ่งสะระแหน่ เมื่อรากแข็งแรงสามารถย้ายกิ่งปักชำไปปลูกลงดินหรือกระถางขนาดใหญ่ได้
จิงจูฉ่าย มีลำต้นเป็นไม้ล้มลุก หรือไม้พุ่มขนาดเล็ก มีความสูงประมาณ 30-50 เซนติเมตร ลำต้นมีสีม่วงแดงเรื่อ และแตกกิ่งก้านสาขาออกไปรอบๆ เป็นพืชที่ขยายพันธุ์ได้ง่าย โดยวิธีที่นิยมที่สุดคือการปักชำกิ่ง
วิธีปลูกโดยการปักชำ
การเลือกกิ่งจิงจูฉ่าย : เลือกกิ่งที่สมบูรณ์ แข็งแรง ไม่มีโรคแมลง และมีความยาวประมาณ 15-20 เซนติเมตร ใช้มีดคมๆ ตัดกิ่งให้เฉียง เพื่อเพิ่มพื้นที่ในการดูดซับน้ำ และแช่ในน้ำยาเร่งรากซัก 30 นาที ก่อนนำไปปลูก
การปักชำ จิงจูฉ่ายสามารถปักชำได้ทั้งในน้ำและในดิน
• ถ้าปักชำในน้ำ : ควรใช้น้ำสะอาดและเปลี่ยนน้ำเป็นประจำ ควรเปลี่ยนน้ำทุก 2-3 วัน เพื่อป้องกันน้ำเน่า
• หากปักในดิน : ควรเลือกดินที่ระบายน้ำได้ดี เช่น ดินร่วนผสมทราย โดยปักชำกิ่งลงในดินที่เตรียมไว้ ลึกประมาณครึ่งหนึ่งของกิ่ง
การดูแล
วางกระถางในที่มีแสงแดดรำไร หมั่นรดน้ำให้ชุ่มแต่ไม่แฉะ หลังจากผ่านไปประมาณ 1-2 สัปดาห์ รากจะแตกออกจากกิ่งและเริ่มเจริญเติบโต สามารถย้ายลงปลูกในดินได้เมื่อรากแข็งแรง
ผักแขยง เป็นพืชล้มลุกที่เจริญเติบโตได้ง่ายและรวดเร็ว วิธีปักชำช่วยให้ได้ต้นใหม่โดยไม่ต้องใช้เมล็ด ซึ่งเป็นวิธีที่สะดวกและได้ผลดีสำหรับผู้ที่ต้องการปลูกผักแขยงในพื้นที่จำกัด
วิธีปลูกโดยการปักชำ
การเลือกกิ่งผักแขยง : เลือกกิ่งผักแขยงที่ดูสดและแข็งแรง โดยเลือกกิ่งที่มีความยาวประมาณ 5-10 เซนติเมตร ตัดโคนกิ่งให้เรียบ แล้วลอกใบล่างออกเพื่อป้องกันการเน่า
การปักชำ
• หากปักในน้ำ : เตรียมน้ำสะอาดใส่ภาชนะที่มีขนาดพอดี เช่น แก้วหรือขวด แล้วนำกิ่งผักแขยงปักลงไปให้โคนกิ่งจมในน้ำ
• หากปักในดิน : ใช้ดินร่วนที่ผสมกับทรายเล็กน้อยเพื่อช่วยในการระบายน้ำได้ดี และเตรียมกระถางสำหรับปักชำ
การดูแล
• หลังจากประมาณ 5-7 วัน รากจะเริ่มงอกจากกิ่งผักแขยง หากปักในน้ำ ให้รอจนรากแข็งแรงก่อนย้ายปลูกลงดินหรือกระถาง
• หลังจากรากแข็งแรงแล้วสามารถย้ายปลูกในกระถางหรือแปลงปลูกได้เลย ผักแขยงจะเติบโตอย่างรวดเร็วและสามารถเก็บเกี่ยวได้ภายใน 2-3 สัปดาห์
กะเพรา จะนิยมขยายพันธุ์ด้วยการปักชำ ซึ่งเป็นวิธีที่นิยมใช้ในการขยายพันธุ์ เนื่องจากเป็นวิธีง่ายและรวดเร็ว ไม่ต้องรอให้ต้นกะเพราติดเมล็ด วิธีปักชำยังช่วยให้ได้ต้นใหม่ที่มีลักษณะเหมือนกับต้นแม่ ทำให้การขยายพันธุ์ทำได้ต่อเนื่องและมั่นใจได้ว่าต้นจะเติบโตอย่างแข็งแรง
วิธีปลูกโดยการปักชำ
การเลือกกิ่งกะเพรา : เลือกกิ่งกะเพราที่มีอายุประมาณ 2-3 เดือน กิ่งควรเป็นกิ่งที่ยังสดและแข็งแรง ความยาวกิ่งประมาณ 10-15 เซนติเมตร เลือกกิ่งที่ไม่มีดอก
การตัดกิ่ง : ตัดกิ่งให้เป็นปลายเฉียงเล็กน้อยเพื่อเพิ่มพื้นที่ในการออกราก จากนั้นลอกใบที่อยู่ส่วนล่างของกิ่งออกประมาณครึ่งหนึ่งของกิ่ง เพื่อป้องกันการเน่า
การปักชำ
• หากปักชำในดิน : เตรียมดินที่ระบายน้ำได้ดี เช่น ดินร่วนผสมกับทรายเล็กน้อย เพื่อให้ดินมีความโปร่งและระบายอากาศได้ดี ปักกิ่งกะเพราลงในดินให้ลึกประมาณ 1-2 นิ้ว กดดินรอบๆ ให้แน่น เพื่อให้กิ่งตั้งตัวได้ดี
• หากปักชำในน้ำ : ใช้น้ำสะอาดใส่แก้วหรือขวดแล้วปักกิ่งกะเพราลงไป หากปักในน้ำ ให้จุ่มโคนกิ่งลงในน้ำ ทิ้งไว้ในที่ร่มที่มีแสงแดดอ่อนๆ ไม่ควรวางในที่แสงแดดจัด
การดูแล
• หากปักในดิน : รดน้ำให้ดินชุ่มชื้นแต่ไม่แฉะ รักษาความชื้นให้พอดี อย่าให้ดินแห้ง
• หากปักในน้ำ : ควรเปลี่ยนน้ำทุก 2-3 วัน เพื่อป้องกันน้ำเน่าและให้รากเจริญเติบโตได้ดี
ประมาณ 7-14 วัน จะเริ่มเห็นรากงอกออกมาจากโคนกิ่ง ถ้าปักในน้ำ เมื่อรากยาวพอควร (ประมาณ 2-3 เซนติเมตร) สามารถย้ายลงปลูกในดินได้ หลังจากปักชำในดิน รากจะแผ่และต้นจะเริ่มโตเร็วขึ้น ควรย้ายลงปลูกในแปลงหรือกระถางที่ต้องการได้
แมงลัก จะนิยมขยายพันธุ์ด้วยการปักชำ เป็นวิธีหนึ่งที่ง่ายและมีประสิทธิภาพในการขยายพันธุ์ต้นแมงลัก การปักชำช่วยให้ได้ต้นใหม่อย่างรวดเร็ว โดยไม่ต้องเพาะเมล็ด ซึ่งประหยัดเวลาและทำให้ได้ต้นที่มีลักษณะและคุณภาพเหมือนต้นแม่
วิธีปลูกโดยการปักชำ
การเลือกกิ่งแมงลัก : เลือกกิ่งแมงลักที่แข็งแรงและไม่มีโรคหรือแมลง ความยาวของกิ่งควรอยู่ที่ประมาณ 10-15 เซนติเมตร เลือกกิ่งที่ไม่ได้ออกดอกและใบมีความสดใส
การตัดกิ่ง : ใช้กรรไกรตัดกิ่งที่คมตัดกิ่งแมงลักเป็นปลายเฉียง เพื่อเพิ่มพื้นที่ในการออกราก จากนั้นลอกใบที่อยู่ส่วนล่างของกิ่งออก ทิ้งไว้ประมาณครึ่งหนึ่งของกิ่งเพื่อป้องกันการเน่า
การปักชำ
• หากปักในดิน : ปักกิ่งแมงลักลงในดินลึกประมาณ 1-2 นิ้ว กดดินรอบๆ ให้แน่นพอประมาณ
• หากปักในน้ำ : จุ่มโคนกิ่งแมงลักลงในน้ำ และวางในที่ที่ได้รับแสงแดดรำไร
การดูแล
ประมาณ 7-14 วัน รากจะเริ่มงอกออกมาจากโคนกิ่ง หากปักในน้ำ เมื่อรากยาวพอ (ประมาณ 2-3 เซนติเมตร) สามารถย้ายไปปลูกในดินได้
โหระพา เป็นพืชที่สามารถขยายพันธุ์ง่ายและรวดเร็ว ซึ่งสามารถทำได้ทั้งในน้ำและในดิน การปักชำโหระพาทำให้ได้ต้นใหม่ที่มีคุณภาพเหมือนต้นแม่ และเติบโตได้อย่างรวดเร็ว โดยไม่ต้องเพาะเมล็ด
วิธีปลูกโดยการปักชำ
การเลือกกิ่งโหระพา : เลือกกิ่งที่แข็งแรงและไม่แก่หรืออ่อนเกินไป ควรมีความยาวประมาณ 10-15 เซนติเมตร กิ่งที่เลือกควรมีใบสีเขียวสดและไม่ได้ออกดอก
การตัดกิ่ง : ใช้กรรไกรที่คม ตัดกิ่งโหระพาเป็นปลายเฉียงประมาณ 45 องศา เพื่อเพิ่มพื้นที่ในการออกราก จากนั้นลอกใบที่อยู่ด้านล่างออก ประมาณ 1-2 ข้อ เพื่อให้โคนกิ่งสามารถสัมผัสกับดินหรือน้ำได้ดีขึ้น
การปักชำ
• หากปักในดิน : เตรียมดินที่ร่วนซุยและมีการระบายน้ำดี เช่น ดินผสมกับปุ๋ยหมักหรือขุยมะพร้าว ปักกิ่งโหระพาลงในดินลึกประมาณ 1-2 นิ้ว กดดินให้แน่นเล็กน้อยเพื่อให้กิ่งตั้งตัวได้ดี วางไว้ในที่ที่ได้รับแสงแดดรำไร รดน้ำให้ดินชุ่ม แต่ไม่แฉะจนเกินไป
• หากปักในน้ำ : เตรียมภาชนะใส่น้ำสะอาด เช่น แก้วน้ำหรือขวดโหล จุ่มโคนกิ่งโหระพาลงในน้ำ โดยให้กิ่งส่วนที่ไม่มีใบอยู่ในน้ำ วางในที่ที่ได้รับแสงแดดรำไร เปลี่ยนน้ำทุก 2-3 วัน เพื่อป้องกันน้ำเน่า
การดูแล
ประมาณ 7-10 วัน จะเริ่มเห็นรากงอกออกมาจากโคนกิ่ง หากปักในน้ำ เมื่อรากยาวประมาณ 2-3 เซนติเมตร สามารถย้ายไปปลูกในดินได้ หากปักในดิน ให้สังเกตว่ากิ่งเริ่มแตกใบใหม่ แสดงว่ารากเริ่มงอกแล้ว
ต้นหอม เป็นพืชผักสมุนไพร เป็นพืชล้มลุก ต้นหอมกินได้ทั้งใบ ดอก และหัว มีกลิ่นฉุน
วิธีปลูกโดยการปักชำ
• เตรียมต้นหอม : นำต้นหอมที่กินส่วนใบแล้ว แต่เหลือรากและโคนไว้ประมาณ 2-3 นิ้ว
• ปักชำในน้ำ : ใส่ต้นหอมลงในแก้วน้ำ โดยให้รากและโคนจุ่มน้ำ แต่ไม่ต้องแช่ใบ เปลี่ยนน้ำทุก 2-3 วัน
• รอการเติบโต : หลังจากประมาณ 4-7 วัน ต้นหอมจะเริ่มแตกยอดใหม่
• ย้ายลงดิน (ถ้าต้องการ): หากต้องการให้ต้นหอมโตแข็งแรงขึ้น สามารถย้ายไปปลูกในดินหลังจากรากเริ่มงอกยาว
ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก : anndagarden.com