สมุนไพรเปลี่ยนชีวิต คนเป็นมิตรกับสัตว์ป่าห้วยขาแข้ง

ในอดีต ชาวบ้านที่อาศัยอยู่รอบป่าห้วยขาแข้งต้องเผชิญกับปัญหาสัตว์ป่าเข้ามาทำลายพืชผลทางการเกษตรอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งนำไปสู่ความขัดแย้งและการสูญเสียทรัพย์สิน แต่ปัจจุบัน ชุมชนเครือข่ายวิสาหกิจชุมชนที่เป็นมิตรกับสัตว์ป่าห้วยขาแข้ง ได้ค้นพบวิธีการอยู่ร่วมกับธรรมชาติอย่างยั่งยืน ด้วยการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตมาปลูกสมุนไพร ซึ่งไม่เพียงแต่สร้างรายได้ให้กับชุมชน แต่ยังช่วยอนุรักษ์ป่าและสัตว์ป่าให้คงอยู่คู่กับมนุษย์ตลอดไป

“เครือข่ายวิสาหกิจชุมชนที่เป็นมิตรกับสัตว์ป่าห้วยขาแข้ง” คือกลุ่มเกษตรกรในเขตปฏิรูปที่ดินจังหวัดอุทัยธานีที่ทำกินรอบรอยต่อป่าห้วยขาแข้ง ประสบปัญหาสัตว์ออกมารบกวนในแปลงเกษตรกรรม จึงใช้กระบวนการมีส่วนร่วมระหว่างกลุ่มเกษตรกร หน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน หาแนวทางในการอยู่กับสัตว์ป่า ใช้กระบวนการร่วมคิด ร่วมเรียนรู้ ทดลองจนได้รูปแบบการทำเกษตรกรรมแบบยั่งยืน โดยปลูกพืชสมุนไพรเป็นแนวกันชนรอยต่อป่าห้วยขาแข้ง ซึ่งสัตว์ป่าไปทำลายผลผลิต ไม่เป็นอาหารของสัตว์ป่าทดแทนพืชเชิงเดี่ยว และสร้างรายได้ตลอดทั้งปี

ผลผลิต

– ส.ป.ก.อุทัยธานี บูรณาการการทำงานกับภาคีเครือข่าย

– เกษตรกรมีรายได้จากการปลูกสมุนไพร

– ลดการปลูกพืชเชิงเดี่ยว ลดการใช้สารเคมี และผลกระทบกับสัตว์ป่า โดยเฉพาะรอบพื้นที่แนวกันชนห้วยขาแข้ง

ผลลัพธ์

Advertisement

– ปรับเปลี่ยนการผลิต จากพืชไร่เป็นพืชสมุนไพร

– ลดการพึ่งพิงป่า

Advertisement

– ผลิตสมุนไพรที่ไม่ใช้สารเคมี (สมุนไพรอินทรีย์)

– ส่งเสริมการปลูกสมุนไพรให้ได้มาตรฐาน

ผลกระทบ

– ปรับเปลี่ยนแนวคิดและวิถีการใช้ชีวิต

– คนและสัตว์ป่าอยู่ร่วมกันได้อย่างเป็นมิตรและมีความสุข

สมุนไพรเปลี่ยนชีวิต คนเป็นมิตรกับสัตว์ป่าห้วยขาแข้ง

“รางวัลการบริหารราชการแบบมีส่วนร่วม ประจำปี พ.ศ. 2567

ประเภทสัมฤทธิผลประชาชนมีส่วนร่วม”

ที่มาและปัญหา

– เกษตรกรทำเกษตรเชิงเดี่ยวและใช้สารเคมีกระทบสัตว์ป่าและความสมบูรณ์ของสัตว์ป่า

– สัตว์ป่าบุกกัดกินและทำลายพืชผลทางการเกษตร

– เกิดความขัดแย้งที่รุนแรงระหว่างคนและสัตว์ป่า

กระบวนการ

ส.ป.ก.อุทัยธานี บูรณาการร่วมกับภาคีเครือข่ายในการขับเคลื่อน ดังนี้

– ระดมแนวคิดในการแก้ไขปัญหา

– วางแผนกำหนดเป้าหมาย

– ส่งเสริมอาชีพทางเลือกในการปลูกสมุนไพรอินทรีย์เป็นแนวกันชนเขตป่า

– ส่งเสริมการรวมกลุ่มสมุนไพร

– จัดหาตลาดรับซื้อสมุนไพร

ปัจจัยความสำเร็จ

– เรียนรู้ที่จะปรับตัว เกิดกลุ่มคนที่เรียกว่า “หัวไว ใจสู้”

– วิเคราะห์ปัญหาในพื้นที่ผลิตและหาจุดปรับเปลี่ยนที่ลงตัวร่วมกัน

– ปกป้องและฟื้นฟูระบบนิเวศและความหลากหลายทางชีวภาพ

– ลด ละ เลิกใช้สารเคมี ในการผลิตและวิธีปฏิบัติทางการเกษตร

– สร้างทางเลือกอาชีพให้คน และสร้างแหล่งอาหารให้สัตว์ป่า

– ส่งเสริมการปลูกพืชสมุนไพรอินทรีย์

– สร้างเครือข่ายและความร่วมมือทางธุรกิจกับทุกภาคส่วน

– ขึ้นทะเบียนเป็นเครือข่ายวิสาหกิจชุมชนที่เป็นมิตรกับสัตว์ป่าห้วยขาแข้ง

ความยั่งยืน

  • ด้านการพัฒนา

– ประสานความร่วมมือทั้งภาครัฐและเอกชน รวมทั้งสถาบันการศึกษาต่างๆ เพื่อการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์สมุนไพรในเขตห้วยขาแข้งให้กับเครือข่าย

– ดำเนินการพัฒนาและขอเลขจดแจ้งเครื่องสำอางจากสมุนไพร (ใบเปล้าใหญ่และคนทา) ให้ได้รับการรับรองจากสาธารณสุข

  • ด้านการพัฒนาตลาด

– ขยายตลาดในพื้นที่จังหวัดและโรงพยาบาล

– ขยายตลาดส่งออกนอกจังหวัด และบริษัทรับซื้อสมุนไพร

– ขยายตลาดผ่านการพัฒนาช่องทางออนไลน์

  • ด้านการพัฒนาสถานที่และอุปกรณ์การผลิต

– เพิ่มจำนวนโรงอบตากที่เหมาะกับผลิตภัณฑ์ เพื่อให้เกษตรกรเข้าถึงและใช้ประโยชน์ได้มากขึ้น

– เพิ่มจำนวนอุปกรณ์การผลิตที่ได้มาตรฐาน เช่น เครื่องหั่นสับ ชั้นสแตนเลสวางสมุนไพร พาหนะขนส่งผลผลิต

– พัฒนาสถานที่รวบรวมสมุนไพร โดย ส.ป.ก. สนับสนุนอาคารผลิตและอาคารเก็บรวบรวมผลผลิตที่ได้มาตรฐาน

  • ด้านการพัฒนาคุณภาพสมุนไพร

– เรียนรู้การแปรรูปเบื้องต้นที่มีคุณภาพยิ่งขึ้น พร้อมกระบวนการบรรจุหีบห่อ

– หาองค์ความรู้ในการเก็บรักษา เพื่อแก้ปัญหาความชื้นและเชื้อราในการทำสมุนไพรแห้ง

ความสำเร็จของการทำงานร่วมกัน

การดำเนินงานขับเคลื่อนงานสมุนไพร ในพื้นที่ ส.ป.ก. ทำให้เกษตรกรมีรายได้จากการปลูกพืชสมุนไพร ลดการปลูกพืชเชิงเดี่ยวที่มีการใช้สารเคมี ลดการกระทบกับสัตว์ป่าโดยเฉพาะพื้นที่รอบป่าห้วยขาแข้ง เกิดกลุ่มคนที่เรียกว่า “หัวไว ใจสู้” โดยลดการพึ่งพิงป่า ปลูกพืชที่ลดการดึงดูดของสัตว์ป่า โดยเลือกพืชพันธุ์ที่เหมาะสม สามารถปกป้องและฟื้นฟูระบบนิเวศ และความหลากหลายทางชีวภาพ สัตว์ป่าอยู่ได้ คนอยู่ดี สัตว์ป่าปลอดภัย อยู่แบบถ้อยทีถ้อยอาศัย สร้างชุมชนยั่งยืน ดั่งคำที่ว่า “อยู่ได้ อยู่ดี มีความสุข”

ผลลัพธ์ของการทำงานร่วมกัน

  • การสร้างอาชีพ

ในระยะเวลา 5 ปี มีกลุ่ม “หัวไว ใจสู้” ที่กล้าปรับเปลี่ยนจากพืชไร่เป็นสมุนไพร โดยปัจจุบันมีสมาชิกของกลุ่มแล้วกว่า 40 ราย และมีแนวทางขยายเครือข่ายไปในอำเภอห้วยคตและอำเภอบ้านไร่ เพื่อสร้างชุมชนที่อยู่ร่วมกับสัตว์ป่าอย่างเป็นมิตร

  • เครือข่ายความร่วมมือ

หน่วยงานภาคีเครือข่ายความร่วมมือ ร่วมสนับสนุนองค์ความรู้ ปัจจัยการผลิต เครื่องมือ การตรวจรับรองมาตรฐาน การจัดหาตลาด และการเชื่อมโยงเครือข่าย

  • รายได้

เกษตรกรมีรายได้ที่เพิ่มขึ้น และเป็นรายได้ที่เข้ามาตลอดทั้งปี จากการปลูกสมุนไพรเป็นอาชีพเสริมสู่อาชีพหลัก เพราะสามารถจำหน่ายได้ตลอดทั้งปี และมีความต้องการในตลาดเป็นอย่างมาก

  • ความยั่งยืน NEXT STEP
  1. การพัฒนาคุณภาพสมุนไพร

– เรียนรู้การแปรรูปเบื้องต้นที่มีคุณภาพยิ่งขึ้น พร้อมกระบวนการบรรจุหีบห่อที่ได้มาตรฐาน

– หาองค์ความรู้ในการเก็บรักษา เพื่อแก้ปัญหาความชื้นและเชื้อราในการทำสมุนไพรแห้ง

  1. การพัฒนาสถานที่และอุปกรณ์การผลิต

– เพิ่มจำนวนโรงอบตากที่เหมาะกับผลิตภัณฑ์ เพื่อให้เกษตรกรเข้าถึงและใช้ประโยชน์ได้มากขึ้น

– เพิ่มจำนวนอุปกรณ์การผลิตที่ได้มาตรฐาน เช่น เครื่องหั่นสับ ชั้นสแตนเลสวางสมุนไพร พาหนะขนส่งผลผลิต

– พัฒนาสถานที่รวบรวมสมุนไพร โดย ส.ป.ก. สนับสนุนอาคารผลิตและอาคารเก็บรวบรวมผลผลิตที่ได้มาตรฐาน

  1. การพัฒนาผลิตภัณฑ์

– ประสานความร่วมมือทั้งภาครัฐและเอกชน รวมทั้งสถาบันการศึกษาต่างๆ เพื่อการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์สมุนไพรในเขตห้วยขาแข้งให้กับเครือข่าย

– ดำเนินการพัฒนาและขอเลขจดแจ้งเครื่องสำอางจากสมุนไพร (ใบเปล้าใหญ่และคนทา) ให้ได้รับการรับรองจากสาธารณสุข

  1. การพัฒนาตลาด

– ขยายตลาดในพื้นที่จังหวัดและโรงพยาบาล

– ขยายตลาดส่งออกนอกจังหวัด และบริษัทรับซื้อสมุนไพร

– ขยายตลาดผ่านการพัฒนาช่องทางออนไลน์