ราคาผักพุ่งทะยาน! รับเทศกาลเจ เปิดสาเหตุที่ต้องรู้

เทศกาลกินเจปี 2567 ตรงกับวันที่ 3-11 ตุลาคม หอการค้าไทย เผยกินเจปีนี้คึกคัก คาดเงินสะพัด 4.5 หมื่นล้านบาท แต่ผู้บริโภคยังระวังการใช้จ่าย ด้วยปัจจัยหลายประการ โดยปัจจัยหลักๆ เกิดจากสภาพอากาศที่แปรปรวน ประกอบกับที่ประเทศไทยต้องเผชิญกับน้ำท่วมในหลายพื้นที่ ส่งผลให้แหล่งเพาะปลูกได้รับความเสียหาย ทำให้ปริมาณผักที่ออกสู่ตลาดน้อยลง ซึ่งเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้ราคาผักสูงขึ้น นอกจากนี้ ต้นทุนการขนส่งก็เพิ่มขึ้นจากสภาพถนนและการขนส่งที่ยากลำบากจากน้ำท่วม ประกอบกับภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว

โดยหลักๆ ผักที่ราคาพุ่งจะเป็นผักที่นิยมนำมาประกอบอาหารเจ เช่น ถั่วฝักยาว จากเดิมราคา 20 บาทต่อกก. ปัจจุบัน ราคา 40 บาทต่อกก. ผักบุ้งจีน จากเดิมราคา 14 บาทต่อกก. ปัจจุบันราคา 25 บาทต่อกก. ผักกาดหอม จากเดิมราคา 40 บาทต่อกก. ปัจจุบันราคา 60 บาทต่อกก. ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นที่มากกว่าปกติ

ปัจจัยที่ส่งผลกระทบทำให้ราคาผัก
ในช่วงเทศกาลกินเจราคาสูง มีอะไรบ้าง

  1. ความต้องการผักสูงขึ้น ในช่วงเทศกาลกินเจ ความต้องการบริโภคผักเพิ่มขึ้นอย่างมาก เนื่องจากผู้คนหันมากินอาหารที่ไม่มีเนื้อสัตว์ ซึ่งส่งผลให้ผักต่างๆ เช่น ขึ้นฉ่าย ผักกาดขาว หัวไชเท้า คะน้า ผักบุ้ง กะหล่ำปลี และถั่วฝักยาว เป็นที่ต้องการมากกว่าปกติ เมื่อตลาดมีความต้องการสูงแต่ปริมาณผักมีจำกัด ราคาจึงปรับตัวสูงขึ้นตามกลไกตลาด
  2. ปัจจัยทางด้านภัยธรรมชาติ ช่วงเทศกาลกินเจมักตรงกับฤดูกาลเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ เช่น ฝนตกหนักหรือภัยแล้ง ซึ่งส่งผลต่อการปลูกและเก็บเกี่ยวผัก หากสภาพอากาศไม่เอื้ออำนวย การผลิตผักลดลง ทำให้ผักมีปริมาณน้อยและราคาสูงขึ้น

โดยเฉพาะในปีนี้ทางภาคเหนือ ที่ถือเป็นแหล่งผลิตผักมากที่สุด ได้แก่ จังหวัดเชียงใหม่ ลำพูน และเชียงราย เป็นแหล่งผลิตผักที่สำคัญ โดยเฉพาะพืชผักเมืองหนาว ซึ่งในปีนี้ล้วนได้รับผลกระทบทั้งสิ้น จึงเป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ส่งผลกระทบทำให้เจปีนี้ผักราคาสูงกว่าปีที่แล้ว

  1. การผลิตและการขนส่งจำกัด การปลูกและเก็บเกี่ยวผักต้องใช้เวลาและทรัพยากร ซึ่งในช่วงเทศกาลกินเจ ความต้องการผักเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้เกษตรกรและผู้ผลิตผักไม่สามารถตอบสนองความต้องการได้เพียงพอ นอกจากนี้ สภาพอากาศหรือปัญหาการขนส่งในบางพื้นที่อาจทำให้ปริมาณผักในตลาดลดลง ส่งผลต่อการขึ้นของราคา
  2. ผลกระทบจากการเก็งกำไร ผู้ค้าผักในตลาดบางรายอาจใช้โอกาสในช่วงเทศกาลกินเจเก็งกำไร โดยการกักตุนผักหรือขึ้นราคาสินค้า เนื่องจากรู้ว่าผู้บริโภคต้องการซื้อผักในช่วงนี้มากกว่าปกติ ทำให้ราคาผักเพิ่มขึ้นจากการเก็งกำไรของผู้ค้ารายใหญ่
  3. ความหลากหลายของผักเจ ผักบางชนิดที่เป็นที่นิยมในช่วงเทศกาลกินเจ เช่น ผักใบเขียว เต้าหู้ เห็ด และหน่อไม้ มักมีราคาสูงขึ้นเนื่องจากเป็นสินค้าที่ใช้ในการทำอาหารเจที่หลากหลาย อีกทั้งการจัดหาผักเหล่านี้ในปริมาณมากก็อาจยากขึ้น ทำให้ราคาสูงขึ้นตามไปด้วย
  4. ต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น การผลิตผักบางชนิดอาจมีต้นทุนที่สูงขึ้นในช่วงที่ความต้องการเพิ่มขึ้น ไม่ว่าจะเป็นค่าปุ๋ย ค่ายาฆ่าแมลง หรือค่าจ้างแรงงาน ซึ่งส่งผลต่อราคาขายปลีกรวมถึงการขนส่งผักจากฟาร์มสู่ตลาด
  5. กำลังซื้อของประชาชนลดลง ภายใต้ภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว ทำให้ผู้บริโภคมีกำลังซื้อลดลง หลายคนอาจต้องประหยัดในการซื้ออาหารเจ

สอดคล้องกับข้อมูลจากศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เผยผลการสำรวจพฤติกรรมการใช้จ่ายของประชาชนในช่วงเทศกาลกินเจ ประจำปี 2567 จากการสอบถามประชาชนว่าในปี 67 จะกินเจในช่วงเทศกาลกินเจหรือไม่ พบว่า ประชาชน 63.9% ระบุว่า ไม่กินเจ โดยส่วนใหญ่ให้เหตุผลว่า อาหารเจแพง ไม่มีเชื้อสายจีน และเศรษฐกิจไม่ดี ขณะที่ประชาชนอีก 36.1% ระบุว่า กินเจ เพราะตั้งใจทำบุญ ลดการกินเนื้อสัตว์ และกินเป็นประจำเฉพาะช่วงเทศกาล สำหรับแหล่งที่มาของเงินที่จะนำมาใช้จ่ายช่วงกินเจ 75.2% ระบุว่ามาจากรายได้ประจำ 16.3% มาจากเงินออม และอีก 4.7% มาจากเงินช่วยเหลือจากภาครัฐ

แม้ว่าเศรษฐกิจจะส่งผลให้การใช้จ่ายของผู้บริโภคลดลง แต่ด้วยการส่งเสริมการขายและการให้ความสำคัญของเทศกาลกินเจ จึงยังคงเป็นเทศกาลที่คนไทยหลายกลุ่มให้ความสำคัญสืบทอดกันมา

Advertisement