ที่มา | เทคโนโลยีการเกษตร |
---|---|
ผู้เขียน | สาวบางแค22 |
เผยแพร่ |
โรงเรียนมีชัยพัฒนา เป็นโรงเรียนเอกชนจัดการเรียนการสอนระดับมัธยมศึกษาปีที่ 1 – 6 เป็นโรงเรียนที่มีนวัตกรรมและความคิดสร้างสรรค์ ในมุ่งส่งเสริมและสนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน เน้นสร้างเยาวชนคนรุ่นใหม่ที่เป็นความหวังของชาติด้วยวิธีการเรียนรู้พร้อมปฏิบัติจริง (Active Learning) ทั้งในห้องเรียนและนอกห้องเรียน ดำเนินการเป็น 3 ด้าน คือ การศึกษา การพัฒนา และธุรกิจเพื่อสังคม นักเรียนมีทักษะในการใช้ชีวิต การประกอบอาชีพ พึ่งพาตนเองได้ มีจิตสำนึกในการช่วยเหลือผู้อื่น และ เป็นผู้นำที่ดี
โรงเรียนแห่งนี้คัดเลือกนักเรียนจากทั่วประเทศเข้าเรียนโดยการให้นักเรียนและผู้ปกครองทำความดีช่วยเหลือสังคมฝ่ายละ 400 ชั่วโมงต่อปี พร้อมทั้งปลูกต้นไม้ ฝ่ายละ 400 ต้นต่อปี แทนการจ่ายค่าเล่าเรียน ลักษณะพิเศษของโรงเรียนมีชัยพัฒนาจะมีโครงสร้างของอาคารเรียนและอาคารต่างๆ สร้างด้วยไม้ไผ่ และมีโดมไม้ไผ่เป็นอาคารอเนกประสงค์ขนาดใหญ่ จึงถูกเรียกว่า “โรงเรียนไม้ไผ่” ( Bamboo School )
โรงเรียนมีชัยพัฒนาสนับสนุนแนวคิด ความยั่งยืนในหลากหลายมิติ สะท้อนความสำคัญของการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและการพัฒนาที่ยั่งยืนในทุกด้านของชีวิต ของ มหกรรมแห่งความยั่งยืนในงาน Sustainability Expo 2024 (SX2024) ปีนี้โรงเรียนมีชัยพัฒนาได้จัดแสดงบูธกิจกรรมภายในงาน SX2024 อยู่ที่ชั้น G Hall 2 นำเสนอแนวคิดเรื่องการปลูกผักแบบมีชัยพัฒนาที่ใช้ ” พื้นที่น้อย น้ำน้อย แรงน้อย” ซึ่งผู้สูงอายุหรือเด็ก ๆ ก็สามารถปลูกได้ เพื่อสร้างความมั่นคงทางด้านอาหารและรายได้ เพื่อช่วยเหลือชุมชนรอบโรงเรียน สู่การขยายผลให้กับโรงพยาบาลและวัดซึ่งเป็นศูนย์รวมของชุมชน นวัตกรรมเครื่องพ่นหมอก(ผักประหยัดน้ำ) , เห็ดATM , ผักในเข่ง และแปลงผักลอยฟ้า(ผักหนีน้ำท่วม) เป็นต้น
นวัตกรรมเครื่องพ่นหมอก(ผักประหยัดน้ำ)
อาจารย์เอกชัย อัชชะ ครูสอนฟิสิกส์ ให้ข้อมูลโครงการนวัตกรรม เครื่องพ่นหมอก(ผักประหยัดน้ำ) ว่า เป็นส่วนหนึ่งการเรียนการสอนในฐานการเรียนรู้การใช้ประโยชน์จากใช้พลังงานแสงอาทิตย์จากธรรมชาติ (โซล่าเซลล์) ที่นำมาประยุกต์ใช้เพื่อเพิ่มความชื้นในการปลูกดูแลพืช นวัตกรรมชุดนี้ ใช้งานง่าย ใช้ระบบพลังงานแสงอาทิตย์หรือระบบไฟบ้านก็ได้ แค่เสียบปลั๊กไฟและตั้งเวลาการทำงานพ่นหมอก (ไทม์เมอร์ ) ประมาณ 5 นาที ทุกๆ ชั่วโมง วิธีนี้ สามารถประหยัดน้ำได้ดี เพราะใช้น้ำน้อยมากๆ เมื่อเทียบกับวิธีการเพาะถั่วงอกแบบปกติที่ต้องใช้น้ำวันละ 3 ลิตร ขณะเดียวกัน ถั่วงอกได้ไวขึ้น จากเดิมที่ใช้เวลาเพาะนาน 5 วันก็เหลือแค่ 2-3 วัน สามารถเก็บถั่วงอกออกขายได้แล้ว ลดระยะเวลาการดูแลและได้ถั่วงอกที่มีคุณภาพสด สะอาด ปลอดภัย
ทางโรงเรียนนำนวัตกรรมนี้มาทดลองใช้กับการเพาะทานตะวันงอก พืชต้นอ่อน และการเพาะเห็ดนางฟ้าภูฐาน ก็ได้ผลดีเช่นกัน โรงเพาะเห็ดโดยทั่วไป อุณหภูมิในโรงเรือนอยู่ประมาณ 55-60 องศาเซลเซียส เนื่องจากเกษตรกรมักใช้วิธีต้มน้ำและพ่นไอน้ำเข้าไปในโรงเห็ดหรือบางรายใช้วิธีฉีดน้ำลงพื้นให้เกิดไอน้ำระเหยขึ้นมา เห็ดจะดูดความชื้นเข้าไปในก้อนเห็ดเพื่อสร้างสารอาหาร แต่นวัตกรรมตัวนี้ สร้างก้อนเมฆที่เรียกว่า ไอหมอกละเอียดซึมเข้าไปในก้อนเชื้อเห็ดได้ในปริมาณที่พอเหมาะโดยมีอุณหภูมิภายในโรงเรือนประมาณ 35 องศาเซลเซียส ช่วยให้เห็ดเติบโตไว ออกดอกได้ถี่ขึ้นและเห็ดมีขนาดดอกใหญ่กว่าเดิม ปลอดปัญหาเรื่องโรคหรือเชื้อรารบกวน ปัญหาเห็ดเน่าเสียก็น้อยลง
โรงเรียนมีชัยพัฒนา ได้ทำโครงการสร้างความมั่นคงด้านอาหารและรายได้สำหรับผู้สูงอายุ โดยเน้นการปลูกผักที่สร้างมูลค่าสูง เช่น ถั่วงอก ต้นอ่อนทานตะวัน และเห็ด เพื่อสร้างรายได้เสริมให้กับผู้สูงอายุมาอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดได้ส่งมอบนวัตกรรมเครื่องพ่นหมอก(ผักประหยัดน้ำ)ให้ผู้สูงวัยในชุมชนได้นำไปใช้ โดยใช้ระบบไฟบ้าน มีต้นทุนค่าไฟแค่หลักสตางค์เท่านั้น ช่วยให้ผู้สูงวัยมีอาชีพและรายได้เสริมจากการเพาะถั่วงอกและการเพาะเห็ดขายสำหรับเลี้ยงดูครอบครัวเพิ่มมากขึ้น ร่วมสัมผัสนวัตกรรมและเทคโนโลยีการจัดการพืชในสไตล์ โรงเรียนมีชัยพัฒนา ได้ที่ บูธกิจกรรมภายในงาน SX2024 อยู่ที่ชั้น G Hall 2 จนถึงวันที่ 6 ต.ค.2567