สศท.6 ชูผลสำเร็จ “กลุ่มแปลงใหญ่ไผ่อำเภอท่าตะเกียบ” จ.ฉะเชิงเทรา ผลิตพืชเศรษฐกิจ “ไผ่” ดึงนวัตกรรมเพิ่มประสิทธิภาพผลผลิตและแปรรูป สร้างรายได้กลุ่ม 2,091,800 บาทต่อปี

นางสาวนริศรา เอี่ยมคุ้ย ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 6 ชลบุรี (สศท.6) สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) เปิดเผยว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้มุ่งเน้นนโยบายตลาดนำนวัตกรรมเสริมเพิ่มรายได้ เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาภาคเกษตรของไทย บริหารจัดการการผลิตสินค้าเกษตรให้สอดคล้องกับศักยภาพความเหมาะสมของพื้นที่ เพื่อลดผลกระทบจากปัญหาราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ ซึ่งแนวทางที่นำมาขับเคลื่อนโครงการบริหารจัดการสินค้าเกษตรด้วยการส่งเสริมและสนับสนุนให้เกษตรกรปรับเปลี่ยนการผลิตเป็นสินค้าทางเลือกในอนาคต (Future Crop) สำหรับภาคตะวันออก หนึ่งในสินค้าเกษตรทางเลือก คือ “ไผ่” พืชเศรษฐกิจที่สามารถปลูกทดแทนในเขตพื้นที่ไม่เหมาะสมของสินค้าที่สำคัญ สำหรับแหล่งพื้นที่ปลูกไผ่ตงเขียวของภาคตะวันออกที่สำคัญ ได้แก่ จังหวัดปราจีนบุรีและจังหวัดฉะเชิงเทรา 

นางสาวนริศรา เอี่ยมคุ้ย ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 6 ชลบุรี (สศท.6)

จากการติดตามของ สศท.6 พบว่า จังหวัดปราจีนบุรี และฉะเชิงเทรา มีแปลงใหญ่ไผ่ทั้งหมด 7 แปลง โดยตัวอย่างแปลงใหญ่ไผ่ที่ประสบความสำเร็จ ได้แก่ แปลงใหญ่ไผ่อำเภอท่าตะเกียบ หมู่ 9 ตำบลท่าตะเกียบ อำเภอท่าตะเกียบ จังหวัดฉะเชิงเทรา โดยเริ่มรวมกลุ่มจดทะเบียนจัดตั้งเป็นวิสาหกิจกลุ่มผู้ปลูกไผ่อำเภอท่าตะเกียบ ปี 2559 และเข้าร่วมโครงการระบบส่งเสริมการเกษตรแบบแปลงใหญ่ ปี 2561 ซึ่งได้รับรางวัลชนะเลิศแปลงใหญ่ดีเด่นระดับประเทศ ประจำปี 2563 ปัจจุบันแปลงใหญ่ไผ่ มีพื้นที่ปลูก 275 ไร่ มีสมาชิกกลุ่มแปลงใหญ่ 38 ราย เกษตรกรนิยมปลูกพันธุ์ไผ่ตงเขียว เป็นไผ่ตงสายพันธุ์ศรีปราจีนนำเข้ามาปลูกจากจังหวัดปราจีนบุรี ซึ่งจะเริ่มให้ผลผลิตตั้งแต่ปีที่ 2 ขึ้นไป จึงเริ่มตัดหน่อออกจำหน่ายได้ จนถึงอายุเฉลี่ย 25 ปี ไผ่จะเริ่มออกหน่อน้อยลง ระยะเวลาการเก็บเกี่ยวในฤดูกาลช่วงเดือนมิถุนายน-สิงหาคม และนอกฤดูกาลช่วงเดือนมีนาคม-พฤษภาคม สำหรับการจำหน่ายผลผลิตของแปลงใหญ่ไผ่ แบ่งเป็น 2 รูปแบบ คือ จำหน่ายแบบหน่อไม้สด 94% และจำหน่ายแบบแปรรูป 6% ซึ่งจากกระบวนการผลิตและแปรรูปสามารถสร้างรายได้ให้กลุ่ม 2,091,800 บาทต่อปี  

สำหรับการดำเนินงานของแปลงใหญ่ไผ่อำเภอท่าตะเกียบ มีการบริหารจัดการได้ตามเป้าหมายการพัฒนาแปลงใหญ่ 5 ด้าน ได้แก่ ด้านการลดต้นทุนการผลิต โดยการใช้ปุ๋ยหมัก ปุ๋ยคอก น้ำหมักจาก พด.2 ทำให้ลดค่าปุ๋ยเคมีจากการผสมปุ๋ยใช้เอง สามารถลดต้นทุนการผลิตได้อยู่ที่ 6,330 บาทต่อไร่ต่อปี จากก่อนเข้าร่วมโครงการมีต้นทุนเฉลี่ย 8,670 บาทต่อไร่ต่อปี หรือ ลดลงร้อยละ 26.99 ด้านการเพิ่มผลผลิต โดยการใช้ปุ๋ยคอก ปุ๋ยหมักจากเปลือกหน่อไม้ ปุ๋ยคอกและน้ำหมัก พด.2 และใช้ถุงดำคลุมหน่อไผ่ตงเพื่อให้หน่อใหญ่ อวบและรสชาติดี สามารถเพิ่มผลผลิตได้ 2,260 กิโลกรัมต่อไร่ต่อปี จากก่อนเข้าร่วมโครงการมีผลผลิตเฉลี่ย 1,500 กิโลกรัมต่อไร่ต่อปี หรือ เพิ่มขึ้นร้อยละ 50.67 ด้านการพัฒนาคุณภาพการการผลิต สมาชิกกลุ่มทุกรายผ่านการรับรองมาตรฐาน GAP และได้รับมาตรฐาน อย. ผลผลิตภัฑณ์หน่อไม้ต้มท่าตะเกียบ ด้านการตลาด กลุ่มแปลงใหญ่ได้ทำ MOU กับตลาดผักร่วมใจ (ตลาดไท) โดยผลผลิตของสมาชิกกลุ่มแปลงใหญ่ไผ่ ร้อยละ 88 จำหน่ายที่ตลาดไทและตลาดสี่มุมเมือง จังหวัดปทุมธานี ร้อยละ 8 จำหน่ายตลาดต่างจังหวัด เช่น จังหวัดราชบุรี นครปฐม สระบุรี ศูนย์กระจายสินค้าจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และสมุทรสาคร และร้อยละ 4 จำหน่ายให้กับห้างสรรพสินค้าแม็คโครสาขาจังหวัดฉะเชิงเทรา และนครนายก ด้านการบริหารจัดการ ได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานรัฐและเอกชนทั้งองค์ความรู้ อุปกรณ์ ปัจจัยการผลิต ทำให้กลุ่มมีความเข้มแข็งบริหารจัดการวางแผนการผลิต คุณภาพผลผลิตได้มาตรฐาน GAP และมีสถานที่ดำเนินงานได้รับมาตรฐาน GMP  

นอกจากนี้ กลุ่มแปลงใหญ่ไผ่ได้นำนวัตกรรมและเทคโนโลยีมาใช้ในกระบวนการผลิต เพื่อเพิ่มศักยภาพและคุณภาพ ได้แก่ การปรับใช้นวัตกรรม การคลุมหน่อไผ่ตงโดยการใช้ถุงดำทำให้หน่อมีขนาดใหญ่ขึ้น หรือใช้เครื่องยนต์ดัดแปลงจากรถไถนาเดินตามนำมาล้างหน่อไผ่ตงเพื่อลดแรงงานในการล้าง การนำงานวิจัยไปต่อยอดในการพัฒนาการผลิต ได้รับการสนับสนุนจัดทำแปลงทดสอบสูตรเคมีที่ใช้เพื่อหาสูตรปุ๋ยและระยะปลูกให้ได้ผลผลิตมากที่สุด เกษตรกรรมแม่นยำสูง ส่งเสริมและสนับสนุนระบบ Smart Farm ในการตรวจวัดความชื้นในอากาศ อุณหภูมิ ปริมาณแสง ความชื้นในดิน เพื่อกำหนดปริมาณการให้น้ำ เกษตรกรมีความสามารถในการใช้เทคโนโลยีนวัตกรรม เครื่องจักรกลสมัยใหม่ในการผลิต การใช้เครื่องจักรเพื่อจัดทำปุ๋ย ฯลฯ หรือใช้รถไถเพื่อลดการใช้แรงงานคนและลดต้นทุนในการผลิต นอกจากนี้ มีการดัดแปลงเครื่องยนต์เก่าใช้เพื่อการสูบน้ำเข้าแปลงในการผลิตไผ่นอกฤดู การสร้างสินค้าที่เป็นนวัตกรรม เปลี่ยนจากการผลิตสินค้าวัตถุดิบ ไปสู่สินค้าเชิงนวัตกรรม โดยการแปรรูปสร้างมูลค่าเพิ่มในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ เช่น ยาสระผมถ่านไม้ไผ่ สบู่เหลวถ่านไม้ไผ่ หน่อไม้ดอง และหน่อไม้ต้มซีลสุญญากาศ เพิ่มช่องทางและโอกาสการค้าผ่านระบบ e-commerce โดยกลุ่มมีการจัดทำ Facebook Fanpage : แปลงใหญ่ไผ่อำเภอท่าตะเกียบ และสร้างแบรนด์ของตนเอง โดยมหาวิทยาลัยราชภัฏราชนครินทร์ สนับสนุนการออกแบบโลโก้ ทั้งนี้ หากท่านใดสนใจข้อมูลการผลิตของแปลงใหญ่ไผ่ ตำบลท่าตะเกียบ อำเภอท่าตะเกียบ จังหวัดฉะเชิงเทรา สอบถามได้ที่ นายประสิทธิ์ รูปต่ำ ประธานแปลงใหญ่ โทร. 089-502-8529 หรือสอบถามรายละเอียดได้ที่ สศท.6 โทร. 038-351-398 อีเมล [email protected]     

Advertisement

Advertisement