ที่มา | เก็บมาเล่า |
---|---|
ผู้เขียน | เทคโนโลยีชาวบ้านออนไลน์ |
เผยแพร่ |
วิกฤตการแพร่ระบาดของ “ปลาหมอคางดำ” ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศ ลูกสัตว์น้ำ กุ้ง หอย ปู ปลาที่อยู่ในแหล่งน้ำธรรมชาติ ถูกกินไปจำนวนมาก กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมประมง ได้บูรณาการการทำงานร่วมกับทุกภาคส่วน เพื่อกำจัดปลาหมอคางดำออกจากแหล่งน้ำธรรมชาติอย่างต่อเนื่อง และนำปลาที่จับมาไปใช้ประโยชน์ทั้งในภาคครัวเรือน เช่น การทำน้ำหมักชีวภาพ การทำน้ำปลาร้า การทำปลาป่น ฯลฯ
ล่าสุด กองวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีอุตสาหกรรมสัตว์น้ำ (กอส.) กรมประมงได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่จากเนื้อของปลาหมอคางดำ ได้แก่ ปลาหยอง ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีโปรตีนสูงและสามารถเก็บรักษาไว้ได้นาน รวมถึงยังสามารถพัฒนาต่อยอดไปเป็นผลิตภัณฑ์ประเภทอื่นๆ ได้ เช่น น้ำพริกปลาคั่วสมุนไพร และผงโรยข้าว
ขั้นตอนการทำปลาหยอง
การทำปลาหยอง เริ่มต้นจากนำปลาหมอคางดำมาลอกหนังออก และล้างเนื้อปลาด้วยน้ำเกลือ เพื่อกำจัดไขมัน เลือด และกลิ่นคาว และนำไปนึ่งให้สุก ยีเนื้อปลาให้แยกเป็นฝอย ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาว ซีอิ๊วดำ และน้ำตาลทราย คั่วด้วยไฟอ่อนจนแห้ง และนำไปอบให้แห้งด้วยตู้อบ ที่อุณหภูมิ 50 องศาเซลเซียส นาน 1 ชั่วโมง เพื่อให้ผลิตภัณฑ์มีกลิ่นหอมของเนื้อปลาและซีอิ๊ว ทิ้งไว้ให้เย็นบรรจุลงภาชนะแบบมีฝาปิด
นอกจากนั้น ยังสามารถนำผลิตภัณฑ์ปลาหยองไปต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์ “น้ำพริกปลาคั่วสมุนไพร” โดยเติมวัตถุดิบ กระเทียม หอมแดง ใบมะกรูดหั่นฝอย คั่วจนมีกลิ่นหอม พร้อมรับประทาน และยังมีเมนูยอดนิยมสไตล์ญี่ปุ่น เช่น “ผงโรยข้าว” โดยใช้ปลาหยองหมอคางดำแทนเนื้อปลาแห้ง ผสมกับสาหร่าย งาขาว งาดำ ปรุงรส ตามต้องการ ซึ่งทั้ง 3 ผลิตภัณฑ์แปรรูปข้างต้น สามารถทำเพื่อบริโภคได้ในครัวเรือน หรือเพื่อจำหน่าย สร้างรายได้เสริมให้แก่ครัวเรือนและชุมชนต่อไป
ทั้งนี้ ประชาชนที่สนใจ สามารถเข้าถึงวิธีการแปรรูปและกระบวนการผลิตผลิตภัณฑ์จากปลาหมอคางดำของกรมประมงได้ผ่านช่องทางเว็บไซต์ https://www4.fisheries.go.th/industry และ Facebook Page : กองวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีอุตสาหกรรมสัตว์น้ำ กรมประมง ในรูปแบบ E-book และ Infographic รวมทั้งสามารถติดต่อขอข้อมูลเพิ่มเติมผ่านช่องทางโทรศัพท์ โทร. 02-940-6130-45 ต่อ 4320 และ 4321