เผยแพร่ |
---|
รู้หรือไม่? หัวปลี ไม่ได้มีดีแค่เป็นอาหารที่อร่อยและมีประโยชน์ต่อสุขภาพ แต่ยังมีประโยชน์มากกว่านั้นในด้านการเกษตรอีกด้วย หนึ่งในความพิเศษของหัวปลีที่ไม่ค่อยมีใครรู้คือ “ยางหัวปลี” ที่สามารถช่วยกำจัดเชื้อราในพืชได้
ยางหัวปลีมีสารที่ชื่อว่า “แทนนิน (Tannins)” และ “โพลีฟีนอล (Polyphenols)” ซึ่งมีคุณสมบัติในการต้านเชื้อรา ที่เป็นสาเหตุของโรคในพืช เมื่อเราใช้น้ำยางหัวปลีในการฉีดพ่นหรือทาลงบนส่วนที่มีเชื้อรา สารแทนนินจะไปยับยั้งการเติบโตของเชื้อรา ไม่ให้มันแพร่กระจายไปทั่วพืช สารโพลีฟีนอลยังมีฤทธิ์ต้านการอักเสบ ช่วยให้พืชแข็งแรง สร้างภูมิคุ้มกันได้ดีขึ้น
หัวปลี คือ ช่อดอกของต้นกล้วย โดยมีดอกจริงอยู่ภายในซึ่งหุ้มด้วยใบประดับสีแดงขนาดใหญ่ที่เรียงซ้อนกันเป็นชั้นๆ คล้ายดอกบัวตูม เมื่อดอกเพศเมียเจริญเติบโตจะกลายเป็นผลกล้วยเล็กๆ ในแต่ละหวี ชาวสวนมักตัดปลีที่ปลายช่อทิ้ง เพื่อไม่ให้แย่งสารอาหารที่จำเป็นต่อการเติบโตของผลกล้วย และช่วยลดความเสี่ยงในการสะสมเชื้อโรคบนเครือกล้วย
สูตรน้ำยางจากปลีกล้วย
สำหรับกำจัดเชื้อรานี้มาจากองค์ความรู้ของ คุณยรรยง ยาดี ผู้เชี่ยวชาญด้านการทำเกษตรผสมผสานและการใช้สารขับไล่แมลง จากจังหวัดแม่ฮ่องสอน โดยคุณยรรยงได้เผยแพร่สูตรนี้ผ่านรายการวิทยุในจังหวัดเชียงราย พร้อมระบุว่าสูตรนี้สามารถช่วยกำจัดราดำ ราขาว และโรคพืชที่เกิดจากเชื้อราได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ส่วนผสมหลักในสูตรนี้ประกอบด้วย
- น้ำยางจากปลีกล้วย 150 ซี.ซี.
- เครื่องดื่มชูกำลัง 1 ขวด (ยี่ห้อใดก็ได้)
ขั้นตอนการทำ
- เมื่อเราตัดปลีกล้วยออกจากเครือ จะเห็นว่าน้ำยางสีขาวขุ่นเริ่มไหลออกมา ให้เตรียมขวดเปล่าของเครื่องดื่มชูกำลังมารองน้ำยางจนเต็มขวด
- จากนั้นนำยางที่เก็บได้มาผสมกับเครื่องดื่มชูกำลังยี่ห้อใดก็ได้ในภาชนะที่มีฝาปิด
-
คนส่วนผสมให้เข้ากัน แล้วปิดฝาหมักทิ้งไว้ 1 คืน ก็จะได้น้ำหมักยางจากปลีกล้วยที่พร้อมใช้ในการกำจัดเชื้อราในพืช
วิธีการนำไปใช้
- ใช้น้ำยางหมัก 3 ช้อนโต๊ะ ผสมกับน้ำสะอาด 5 ลิตร แล้วนำไปฉีดพ่นในบริเวณที่ต้องการกำจัดเชื้อราในพืช ฉีดพ่นทุกๆ 5-7 วัน จะช่วยลดความรุนแรงของโรคและยังช่วยกำจัดเพลี้ยต่างๆ ซึ่งเป็นพาหะของเชื้อราได้อีกด้วย
ขอบคุณที่มา : mitrpholmodernfarm