เผยแพร่ |
---|
ย้อนกลับไปเมื่อปี 2542 ณ บ้านเขานาใน หมู่บ้านเกษตรกรรมเล็กๆ ที่มีการรวมของกลุ่มแม่บ้านเกษตรกรเพียง 20 คน ในพื้นที่อำเภอพนม จังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้มีการริเริ่มนำขมิ้นมาปลูกแซมสวนหลังบ้าน และจากนั้นได้ขยับขยายมาปลูกแซมในสวนปาล์มและยางพารา โดยจำหน่ายเป็นหัวสด จนกระทั่งได้รวมกลุ่มต่อยอดแปรรูปเป็นสมุนไพรขมิ้นตากแห้งและขมิ้นผง ในช่วงแรกแม้จะพบปัญหามากมายในการเพาะปลูกเนื่องจากต้องใช้แรงงานคนเป็นกำลังหลักในการเพาะปลูก ทำให้ต้นทุนสูง แต่ได้ผลผลิตค่อนข้างต่ำ ส่งผลต่อรายได้จากการจำหน่ายขมิ้นชัน แต่กลุ่มเกษตรกรกลับไม่ถอดใจเพราะมั่นใจในผลผลิตและสรรพคุณขมิ้นชัน ต่อมาในปี 2563 กลุ่มได้พัฒนาไปอีกขั้นสู่การจัดตั้งเป็นวิสาหกิจชุมชนบ้านเขานาใน
นางหนูเรียง จีนจูด ประธานวิสาหกิจชุมชนบ้านเขานาใน และประธานศูนย์เรียนรู้ชุมชนพลังเกษตรสร้างสุขสยามคูโบต้า-เขานาใน เล่าถึงจุดกำเนิดของการรวมกลุ่มว่า “ในช่วงแรกราคายางตกต่ำจึงมีการแซมขมิ้นตามร่องยางและร่องปาล์มน้ำมัน จากนั้นมีการนำความรู้ภูมิปัญญาท้องถิ่นที่สืบทอดมาจากรุ่นพ่อแม่มาลองทำลูกประคบสมุนไพรจำหน่าย ต่อมาในปี 2548 ทางหน่วยงานภาครัฐก็เข้ามาส่งเสริมให้เป็นกลุ่มวิสาหกิจชุมชน จนได้จัดตั้งเป็นวิสาหกิจชุมชนแม่บ้านเขานาใน ในปี 2553 และนับเป็นความโชคดีที่ได้พบกับสยามคูโบต้า เพราะช่วงแรกทางกลุ่มได้ผลผลิตขมิ้นเพียง 600 กิโลกรัมต่อไร่ หลังจากสยามคูโบต้าสนับสนุนเครื่องจักรกลการเกษตรมาช่วยไถพรวนทำให้ดินร่วนซุยและช่วยยกร่องดิน ส่งผลให้ขมิ้นชันแตกหน่อได้เยอะขึ้น ปัจจุบันชุมชนมีแปลงปลูกขมิ้นรวมประมาณ 100 ไร่ ได้ผลผลิตมากขึ้นเฉลี่ย 1,000–1,200 กิโลกรัมต่อไร่ กำไรมากขึ้นกว่า 36% อีกทั้งยังสามารถลดต้นทุนได้กว่า 38% รวมถึงต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์จากขมิ้นและสมุนไพรพื้นบ้านต่างๆ ได้แก่ ครีมนวดคลายเส้น ลูกประคบสมุนไพร ยาหม่อง สมุนไพรอบแห้งเพื่อสุขภาพ สมุนไพรอบตัว สครับขมิ้น เครื่องแกงผง เป็นต้น”
นางวราภรณ์ โอสถาพันธุ์ กรรมการรองผู้จัดการใหญ่อาวุโส บริษัท สยามคูโบต้าคอร์ปอเรชั่น จำกัด กล่าวถึง ในช่วงแรกสยามคูโบต้าได้เข้ามารู้จักกับกลุ่มแม่บ้านเกษตรแห่งนี้ เราได้ค้นพบศักยภาพและต้นทุนที่ดีในหลายด้าน ทั้งเชิงภูมิศาสตร์ที่ขมิ้นชันในพื้นที่ชุมชนเขานาในถือกำเนิดบนแหล่งปลูกที่ดีที่สุดของไทย จึงทำให้มีสารเคอร์คิวมินอยด์ (curcuminoid) ในปริมาณที่สูงกว่าค่ามาตรฐานของขมิ้นชันทั่วไป อีกทั้งผู้นำของกลุ่มมีความเข้มแข็ง สมาชิกมีความสามัคคี พร้อมที่จะเรียนรู้เปิดรับสิ่งใหม่ๆ และพัฒนาไปด้วยกัน จึงเข้ามาร่วมมือผลักดันจนเกิดเป็นศูนย์เรียนรู้ชุมชนพลังเกษตรสร้างสุขสยามคูโบต้า–เขานาใน ศูนย์เรียนรู้ฯ แห่งที่ 6 ของสยามคูโบต้า เพื่อให้เป็นศูนย์เรียนรู้ที่สามารถส่งต่อความรู้และแรงบันดาลใจให้กับเกษตรกรได้ในอีกหลายๆ พื้นที่ พร้อมเป็นศูนย์กลางให้สมาชิกได้ใช้เป็นพื้นที่ร่วมกันคิด ร่วมกันสร้าง ร่วมกันพัฒนากลุ่มและชุมชนให้เข้มแข็งและยั่งยืนต่อไป พร้อมกับการนำความรู้ที่มีไปถ่ายทอดกับเกษตรกร และเยาวชนรุ่นใหม่ให้มีความรู้ ความภาคภูมิใจ และมีพลังที่จะพัฒนาต่อไป”
เมื่อความมุ่งมั่นตั้งใจของกลุ่มแม่บ้านเกษตรกร และสยามคูโบต้าผสานรวมกันจึงเกิดเป็น “ศูนย์เรียนรู้ชุมชนพลังเกษตรสร้างสุขสยามคูโบต้า-เขานาใน” โดยสยามคูโบต้าได้มุ่งส่งเสริมความรู้ทางการเกษตร ด้วยการส่งเสริมการเพาะปลูกด้วยระบบ KUBOTA (Agri) Solutions หรือ KAS นวัตกรรมเกษตรครบวงจร เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตและความมั่นคงทางรายได้ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ ได้แก่ ลดความเหลื่อมล้ำโดยการรวมกลุ่มเกษตรกร พัฒนาความรู้ทางการเกษตรด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม ลดต้นทุน เพิ่มผลผลิตและรายได้ สร้างความเข้มแข็งชุมชนด้วยการบริหารจัดการแบบรวมกลุ่มอย่างเป็นระบบ สร้างมูลค่าเพิ่มจากผลผลิตทางการเกษตรและสินค้าแปรรูปทำให้ชุมชนเกิดรายได้เพิ่ม และพัฒนาบุคลากรในด้านการสร้าง Smart Farmer เพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันภาคการเกษตร อีกทั้งส่งเสริมการเป็นผู้นำ และผู้ประกอบการ
“สยามคูโบต้านับเป็นกำลังใจที่ทำให้แม่ๆ เกษตรกรในชุมชนเกิดความมุ่งมั่นและตั้งใจที่จะปลูกพืชสมุนไพรเพื่อเป็นรายได้ให้ชุมชน หรือแนะนำให้เกษตรกรรุ่นต่อๆ ไป และในอนาคตเราจะขยายกลุ่มสมาชิกให้มากขึ้นกว่าเดิม การเข้ามาสนับสนุนของสยามคูโบต้าเป็นสิ่งยืนยันให้เห็นถึงคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น มีความสุข มีความเข้มแข็ง ทำให้เราเห็นคุณค่าในตนเอง เพราะสยามคูโบต้าเห็นคุณค่าของเกษตรกรชุมชนบ้านเขานาในแห่งนี้ อีกทั้งคอยสนับสนุนและเป็นกำลังใจให้พวกเราสู้ต่อไปได้…ขอบคุณที่จับมือเดินไปด้วยกัน” นางหนูเรียง กล่าวปิดท้าย