ที่มา | เทคโนโลยีการเกษตร |
---|---|
ผู้เขียน | สาวบางแค 22 |
เผยแพร่ |
การปลูกพืชกลับหัว คือการอาศัยแรงโน้มถ่วงของโลกช่วยในการนำพาน้ำและสารอาหารจากรากพืชไปเลี้ยงส่วนต่างๆ ของพืชได้สะดวกขึ้น ซึ่งเทคนิคนี้ได้นำมาใช้ในการปลูกพืชได้หลายชนิด เช่น มะเขือเทศ พริก พืชพักสวนครัวต่างๆ ส่วนด้านบนกระถางก็สามารถปลูกพืชที่มีระบบรากไม่ลึกได้อีกด้วย
ข้อดีของการปลูกพืชกลับหัว
1. ทำให้พืชลดพลังงานในการลำเลียงน้ำและสารอาหารไปเลี้ยงส่วนยอดของต้นพืช
2. ประหยัดพื้นที่ในการปลูก ทั้งนำมาประดับตกแต่งเพิ่มความสวยงามได้อีกด้วย
3. ลดปัญหาวัชพืช และแมลงรบกวนไปได้มาก
4. ไม่ต้องยุ่งยากในการทำค้างให้พืช อาทิ มะเขือเทศ พริก ฯลฯ
หากใครมีเวลาว่าง อยากชวนมาปลูกมะเขือเทศแบบกลับหัว เริ่มจากจัดเตรียมอุปกรณ์ในการปลูก เช่น กระถางปลูกต้นไม้พลาสติก ขนาด 8 นิ้วขึ้นไป ลวดแขวนกระถาง ถาดเพาะกล้า วัสดุปลูก เมล็ดพันธุ์มะเขือเทศ และปุ๋ยสูตร 16-16-16 สูตร 9-25-25
ขั้นตอนการปลูกมเขือเทศแบบกลับหัว
- แช่เมล็ดมะเขือเทศในน้ำสะอาดทิ้งไว้ประมาณ 1 วัน
2. หยอดเมล็ดมะเขือเทศลงถาดเพาะกล้า หลุมละ 1-2 เมล็ดต่อหลุม กลบด้วยวัสดุปลูกบางๆ ใช้กระบอกฉีดน้ำพ่นน้ำให้ชุ่มแล้ว นำถาดเพาะกล้าไปในที่ร่ม
3. เมื่อต้นกล้าเริ่มมีใบจริง ได้ย้ายถาดเพาะกล้าไว้ในที่มีแสงแดด เมื่ออายุกล้าได้ 25 วันย้ายกล้าลงไปปลูกในกระดาษหรือภาชนะที่เตรียมไว้
4. นำวัสดุปลูกที่เตรียมไว้ใส่ลงไปในกระถางจนเต็ม นำแผ่นกระเบื้องสี่เหลี่ยมปิดด้านบนของกระถางเพื่อป้องกันวัสดุปลูกร่วงหล่น จากนั้นคว่ำกระถางในลักษณะก้นกระถางหันขึ้นด้านบน นำต้นกล้าที่เราปลูกที่เราปลูกหยอดลงไปในรูก้นกระถาง
5. รดน้ำ ใส่ปุ๋ยได้ตามปกติอย่างสม่ำเสมอ รอจนต้นโตสูงอย่างน้อยต้อง 30 เซนติเมตรขึ้นไป ในช่วงเวลานี้รากของต้นกล้าจะยึดเกาะดินเอาไว้แน่นแล้วจึงพลิกกระถางเพื่อให้ต้นพืชกลับหัวร้อยลอดแล้วนำไปแขวน
6. เพียงเท่านี้ เราก็สามารถปลูกพืชกลับหัวได้แล้ว ส่วนด้านบนก็สามารถปลูกพืชอื่นได้ เช่น ผักสวนครัว หรือดอกไม้ ปลูกพืชระยะสั้นกว่าด้านล่าง โดยธรรมชาติ ต้นมะเขือเทศต้องการแสงแดด และรดน้ำเช้า-เย็น
7. การใส่ปุ๋ย หลังย้ายกล้า 7 วัน บำรุงด้วยปุ๋ยสูตร 6-16-16 หลังจากนั้นทุกๆ วัน บำรุงด้วยปุ๋ยสูตร 9-25-25 การใส่ปุ๋ย ควรโรยห่างโคนต้น 1 เซนติเมตร แล้วรดน้ำด้วย