เผยแพร่ |
---|
โรคระบาดสัตว์ ถือเป็นภัยคุกคามสำคัญต่ออุตสาหกรรมปศุสัตว์ทั่วโลก โดยส่งผลกระทบต่อทั้งเกษตรกร ผู้บริโภค และเศรษฐกิจในวงกว้าง ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากโรคระบาดสัตว์สามารถแบ่งออกได้หลากหลาย อย่างเช่น ผลกระทบโดยตรงที่ทำให้เกิดการสูญเสียของสัตว์ ซึ่งโรคระบาดหลายชนิดทำให้สัตว์ป่วยและตายจำนวนมาก ส่งผลให้เกษตรกรสูญเสียรายได้และทรัพย์สิน
การเกิดโรคยังทำให้การลดลงของผลผลิตมีจำนวนที่น้อยลง เพราะสัตว์ที่ป่วยจะให้ผลผลิตน้อยลง เช่น การเลี้ยงโคนมหากสัตว์มีโลกนมลดลง ในสัตว์ปีกอย่างเป็ดและไก่จะให้ไข่ลดลง นอกจากนี้ยังทำให้ต้นทุนการผลิตของเกษตรกรเพิ่มขึ้นอีกด้วย เพราะ เกษตรกรต้องใช้จ่ายเพิ่มขึ้นในการรักษาสัตว์ป่วย ตั้งแต่การซื้อยา วัคซีน และค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ในกรณีที่โรคระบาดรุนแรมากเกินไปจนควบคุมไม่ไหวอาจทำให้ฟาร์มปิดตัวลง เกษตรกรอาจต้องปิดฟาร์มเพื่อป้องกันการแพร่ระบาด ส่งผลให้ขาดรายได้และสูญเสียอาชีพ
โรคระบาดสัตว์จึงถือว่าเป็นการสูญเสียในอุตสาหกรรมปศุสัตว์ทั่วโลก รวมทั้งอาจเป็นปัจจัยเสี่ยงทางสาธารณสุขในโรคที่ระบาดจากสัตว์สู่คน หลายชนิดเกิดการเเพร่ระบาดอย่างกว้างขวางเเละยาวนานกว่า 100 ปี โดยยังพบอุบัติการณ์อย่างต่อเนื่อง ซึ่งปัจจุบันองค์การสุขภาพสัตว์โลก (OIE) ประกาศเป็น OIE-listed diseases จำนวน 117 รายการ
โรคระบาดสำคัญในปศุสัตว์เเละสัตว์น้ำทั่วโลกถือเป็นปัญหาสำคัญที่ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมปศุสัตว์และสัตว์น้ำทั่วโลก ไม่เพียงแต่ก่อให้เกิดการสูญเสียทางเศรษฐกิจมหาศาล แต่ยังส่งผลกระทบต่อความมั่นคงทางอาหารและสุขภาพของประชาชนด้วย มีดังนี้
ไข้หูดับ เกิดจากเชื้อเเบคทีเรียสเตรฟโตคอกคัส ซูอิส มีการค้นพบครั้งเเรกเมื่อปี ค.ศ.1968 และสามารถติดต่อสู่มนุษย์ได้ โดยผ่านการบริโภคชิ้นส่วนของสุกรที่ไม่ผ่านการปรุงสุกมีความดิยอยู่ หรือหากไปสัมผัสสุกรที่ป่วยก็สามารถทำให้เกิดได้
นิวคาสเซิล โรคนี้เกิดจากเชื้อที่ติดต่อได้ในสัตว์ปีกเเละเป็นอันตรายถึงชีวิตของปศุสัตว์ได้โดยไม่เเสดงอาการใดๆ ให้เห็น ซึ่งนิวคาสเซิลพบครั้งเเรกในเมืองนิวคาสเซิล ประเทศอังกฤษ เมื่อปี ค.ศ. 1926
โรคปากเเละเท้าเปื่อย มักพบไว้รัสชนิดนี้ในปศุสัตว์กีบคู่ อย่างเช่น โค สุกร แกะ แพะ ยกเว้นในม้าที่ไม่พบ ซึ่งโรคชนิดนี้ก่อให้เกิดอุปสรรคทางการค้าระหว่างประเทศ โดยเฉพาะสินค้าอย่างโคและสุกร ซึ่งในปัจจุบันในประเทศไทยมีการพัฒนาการทำปศุสัตว์ให้ปลอดโรคปากเเละเท้าเปื่อยมากขึ้น เพื่อให้การส่งออกสินค้าทำได้กว้างยิ่งขึ้น
โรคลัมปีสกิน โรคนี้เกิดจากเชื้อไวรัสที่เจริญเติบโตเเละก่อโรคตามอวัยวะต่างที่มีเซลล์เยื่อบุ (Epithelium cells) เดิมเป็นโรคประจำถิ่นในประเทศเเถบแอฟริกา
โรควัวบ้า เป็นโรคที่มีผลต่อสมองของโคเเละมนุษย์ ซึ่งโรคนี้เกิดจากโปรตีนที่ผิดปกติในเนื้อเยื่อสมองที่เรียกว่าพรีออน พบครั้งเเรกในสหราชอาณาจักร เเละกลายเป็นปัญหาสำคัญของประเทศผู้ส่งออกเนื้อโคทั่วโลก
โรคอหิวาต์สุกรแอฟริกัน เกิดจากเชื้อดีเอ็นเอไวรัสกลุ่ม Asfivirus ที่ติดเฉพาะในสัตว์ประเภทสุกร ที่พบประวัติการระบาดมากกว่า 100 ปี และยังก่อให้เกิดความเสียหายต่ออุตสาหกรรมสุกรทั่วโลก โดยเฉพาะประเทศที่มีอุตสาหกรรมสุกรหรือเป็นผู้บริโภคที่สำคัญ
ไข้หวัดนก ซึ่งโรคนี้เกิดจากเชื้อไวรัสที่มีโครงสร้างสำคัญอย่าง Hemaglutinin (H) และ Neuraminidase (N) ทำให้มีการถอดรหัสประจำตัวของสายพันธ์ุตามโครงสร้าง H-N เช่น H5N1 ซึ่งเป็นสายพันธุ์ก่อโรครุนเเรง จึงทำให้โรคไข้หวัดนกสามารถติดต่อสู่คนได้ โดยปัจจุบันยังมีการพบติดต่อในหลายภูมิภาค ทั้งเอเชีย ยุโรป เเละอเมริกา
ส่วนในด้านของสัตว์น้ำนั้นมีกลุ่มโรคที่เกิดอันตรายด้วยเช่นกัน อย่างเช่น กลุ่มอาการตายด่วนในกุ้ง มักพบการระบาดวงกว้างในอุตสาหกรรมการเพาะเลี้ยงกุ้งทั่วโลก โรคนี้เกิดขึ้นครั้งเเรกในปี ค.ศ. 2011 เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย Vibrio parahaemolyticus ก่อให้เกิดกลุ่มอาการตับเเละตับอ่อนตายเฉียบพลัน ส่งผลให้ประเทศผู้เลี้ยงกุ้งทั่วโลกเกิดการสูญเสียเป็นจำนวนมาก
โดยปัจจุบันองค์การ OIE มีพันธกิจที่สำคัญในการสร้างความโปร่งใสเกี่ยวกับสถานการณ์โรคระบาดสัตว์ทั่วโลก ทำให้ประเทศสมาชิก OIE รวมทั้งประเทศไทย จำเป็นต้องรายงานหากตรวจพบโรคสัตว์โดยเฉพาะตามที่ระบุใน OIE Terrestrial and Aquatic Codes หรือ OIE-listed diseases ข้างต้น ที่มีการทบทวนอย่างต่อเนื่องทุกปี เพื่อให้ประเทศสมาชิกอื่นๆ ทราบ โดยเฉพาะความเสี่ยงในการติดต่อสู่คน การตกค้าง หรือปนเปื้อนในสิ่งเเวดล้อมหรือผ่านสัตว์พาหะ ตลอดจนถึงผลกระทบต่ออุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง เช่น อาหาร อาหารสัตว์ ยาสัตว์ เเละการผลิตเพื่อจำหน่าย-ส่งออก ไปยังประเทศสมาชิก OIE
ขอบคุณแห่งข้อมูล
วารสารเพื่อการเตือนภัยสินค้าเกษตรและอาหาร
สำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ (มกอช.)