เคล็ดลับปลูกวานิลลาให้โตไว เก็บเกี่ยวผลผลิตใน 2 ปี

วานิลลาเป็นหนึ่งในพืชที่มีมูลค่าสูงและได้รับความนิยมอย่างมากในอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องหอม การปลูกวานิลลาให้ได้ผลผลิตเร็วและมีคุณภาพสูงภายใน 2 ปี ขึ้นอยู่กับต้นพันธุ์ที่นำมาปลูก ควบคู่กับการดูแลจัดการที่ดี หากมีวิธีการที่เหมาะสมและใส่ใจในทุกขั้นตอน วันนี้เทคโนโลยีชาวบ้านรวมเคล็ดลับสำคัญที่จะช่วยให้ปลูกวานิลลาประสบความสำเร็จ

เคล็ดลับปลูกวานิลลาให้โตไว
เคล็ดลับปลูกวานิลลาให้โตไว
วานิลลาเป็นพืชตระกูลกล้วยไม้ ในการปลูกวานิลลาสามารถปลูกได้หลายวิธี ให้ตัดสินใจง่ายๆ ว่าผู้ปลูกต้องการอะไร หากต้องการปลูกประดับสวยงาม สามารถปลูกให้ไต่ตามต้นไม้ก็ได้ และอย่างที่บอกว่าวานิลลาเป็นพืชตระกูลกล้วยไม้ เพราะฉะนั้นสิ่งที่เขาต้องการคือ แสงรำไร ประมาณ 50 เปอร์เซ็นต์ ถ้าแสงมากไปไม่ดีทำให้ต้นเหี่ยว แต่ถ้าแสงน้อยไปก็ไม่ดีจะทำให้ต้นเหี่ยวเช่นกัน

สภาพพื้นที่ปลูกที่เหมาะสมในการปลูกวานิลลาที่ผู้ปลูกควรรู้

  • เจริญเติบโตได้ดีในเขตร้อนชื้น ตั้งแต่ระดับน้ำทะเลจนถึงสูงกว่าระดับน้ำทะเล 2,000 ฟุต
  • สภาพภูมิอากาศที่เหมาะสม อุณหภูมิ 21-23 องศาเซลเซียส ความชื้นสัมพัทธ์ 60–80 เปอร์เซ็นต์ มี ปริมาณฝนระหว่าง 850–2,000 มิลลิเมตร และมีการกระจายตัวของฝนอย่างสม่ำเสมอ
  • ลักษณะดิน ควรเป็นดินร่วนที่มีอินทรียวัตถุสูง มีการระบายน้ำดี ความเป็นกรดเป็นด่างของดิน 6-7
  • ความต้องการแสง 30–50 เปอร์เซ็นต์ โดยเฉพาะในช่วงฤดูกาลออกดอก และช่วงที่ฝักวานิลลาจะเริ่ม สุก

1. เลือกพันธุ์วานิลลาที่เหมาะสม

วานิลลาที่นิยมปลูกในเชิงพาณิชย์จะเป็นสายพันธุ์ Vanilla planifolia เนื่องจากให้ผลผลิตที่ดีและมีกลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์ เมื่อเลือกต้นกล้าที่มีรากแข็งแรงและปราศจากโรคหรือแมลงศัตรูพืช เพื่อให้แน่ใจว่าพืชจะเจริญเติบโตได้อย่างรวดเร็ว

2. จัดการพื้นที่ปลูกอย่างเหมาะสม

วานิลลาเป็นพืชเลื้อยที่ต้องการพื้นที่และสิ่งยึดเกาะ เช่น ไม้ค้ำหรือต้นไม้ที่แข็งแรงสำหรับการพยุงลำต้น ปลูกเพื่อประดับความสวยงาม สามารถปลูกให้ไต่ตามต้นไม้ก็ได้ แต่ถ้าหากปลูกเป็นอาชีพ แนะนำให้ทำโรงเรือนปลูก ซึ่งโรงเรือนสำหรับการปลูกวานิลลาทำได้ง่ายมาก แค่มีหลังคาซาแรนเพื่อพรางแสงให้กับต้นวานิลลา

การปลูกวานิลลาส่วนใหญ่มักนิยมเป็นการปักชำ โดยใช้เถายาวประมาณ 15-30 ซม. อย่างไรก็ตาม กว่าจะได้เถาที่เหมาะสำหรับการปักชำต้องใช้เวลาปลูกนานเป็นปี จึงมีการทดลองวิธีใหม่โดยเลือกตัดเถาที่มีเม็ด แล้วนำมาปลูก ผลปรากฏว่า วิธีนี้ให้ผลผลิตเร็วกว่าถึงครึ่งต่อครึ่ง และต้นยังติดง่ายกว่าวิธีปักชำแบบเดิมอีกด้วย

เทคนิคสำคัญ : หลังผลผลิตออก ต้องดูแลอย่างใกล้ชิดในช่วง 3 เดือน

3. ขั้นตอนการปลูกวานิลลา

  • เตรียมค้าง ไม้ยืนต้นที่เหมาะสม ได้แก่ แคฝรั่ง ยอป่า ทองหลาง กาแฟ ขนุน ค้าแสด มะม่วงหิมพานต์ หรือ
  • การเตรียมดิน วานิลลาเป็นพืชตระกูลกล้วยไม้ เพราะฉะนั้นในการปลูกวานิลลาไม่ใช้ดิน แต่จะใช้กาบมะพร้าวเป็นวัสดุในการปลูกแทนดิน เป็นกาบมะพร้าวสับหยาบ สำหรับกาบมะพร้าวที่ใช้ส่วนใหญ่แนะนำให้แช่น้ำก่อนเพื่อชะล้างสารแทนนินที่จะเข้าไปยับยั้งการงอกของรากพืช แต่ถ้าหากพื้นที่สวนปลูกเป็นจำนวนเยอะ หากนำไปแช่น้ำทั้งหมดคงทำไม่ไหว จึงใช้วิธีการนำกาบมะพร้าวสับมาเทลงแปลง แล้วรดน้ำไว้สัก 2-3 อาทิตย์ ให้ชะล้างสารแทนนินก่อนปลูก เนื่องจากถ้าไปแช่ ต้องทำหลายขั้นตอน
  • การให้น้ำ จะเป็นการให้น้ำน้อยๆ แต่ให้บ่อยๆ ถ้าเป็นช่วงกระตุ้นดอก ช่วงเดือนพฤศจิกายน-มกราคม ต้องลดปริมาณการให้น้ำลง เหลือแค่ 1-2 วันครั้ง เพื่อกระตุ้นการออกดอก
  • การใส่ปุ๋ย จะใช้เชื้อราไตรโคเดอร์มาคลุกกับปุ๋ยหมัก บำรุงเดือนละครั้ง เพื่อป้องกันเชื้อราที่เกิดทางดิน และมีการใส่ปุ๋ยกล้วยไม้ เป็นปุ๋ยละลายช้าทางดิน 3 เดือนครั้ง

4. การแต่งทรงพุ่ม

  • ตัดเถาที่ไม่สมบูรณ์และไม่ให้ผลผลิตแล้วออกให้หมด
  • จัดเถาวานิลลาให้โน้มลงมาแนบค้าง ในทิศทางแนวนอนของกิ่งแขนง เพื่อให้สะดวกในการผสมเกสร
  • ตัดยอดของต้นวานิลลาประมาณ 10– 5 เซนติเมตร ในช่วงก่อนและหลังฤดูกาลออกดอก และหลังจากเก็บเกี่ยวฝักแล้ว
  • ตัดแต่งพืชที่เป็นร่มเงา ให้วานิลลาได้รับแสงแดด 30 – 50 %

5. การผสมเกสร

การผสมเกสร สามารถเริ่มได้ตั้งแต่เช้าจนถึงสิบโมงเช้า ในวันที่ดอกวานิลลาบานเพียง 1 วัน โดยใน ต้นเดียวกัน ควรผสมไม่เกิน 10–12 ช่อๆ ละประมาณ 7 ฝัก ขึ้นอยู่กับความสมบูรณ์ของต้น และลักษณะของฝักที่ดี คือ ฝักตรง ไม่โค้งงอ การผสมเกสรด้วยมือ มีวิธีการดังนี้

Advertisement

ดอกวานิลลาจะบานช่วงเดือนมีนาคม แต่ว่ากว่าฝักจะสุกประมาณเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม พอฝักสุก ต้องเก็บฝักมาบ่ม และต้องใช้เวลาในการบ่มฝักอีกประมาณ 4-6 เดือน เป็นฝักบ่มแห้ง เพราะวานิลลาที่ขายได้คือฝักบ่มแห้ง

5. การเก็บเกี่ยวผลผลิต

การเก็บเกี่ยวผลผลิตของวานิลลา อย่างเร็วที่สุดประมาณ 1 ปี จะเริ่มออกดอก ถ้าโดยเฉลี่ยประมาณ 2-3 ปี ขึ้นอยู่กับต้นพันธุ์ที่นำมาปลูก ควบคู่กับการดูแลจัดการที่ดี เพราะพอวานิลลาเริ่มออกดอกจะไม่สามารถติดฝักได้เองโดยธรรมชาติ ต้องผสมเกสรด้วยมือเองทุกดอกทุกฝัก จากนั้นหลังจากติดฝักก็ต้องรอจนกว่าฝักจะสุก สังเกตได้จากฝักวานิลลาที่เปลี่ยนจากสีเขียวสดเป็นสีเหลืองอ่อนที่ปลายฝัก

Advertisement

6. การบ่มฝักวานิลลา ราคาของ “วานิลลา” ที่สูง เนื่องจากเมื่อได้ผลผลิตแล้ว ยังไม่สามารถนำมาขายได้ทันที ต้องผ่านกระบวนการ “บ่ม” ซึ่งใช้เวลารวมหลายเดือนจนถึงหนึ่งปี

แบบที่ 1 แช่ฝักวานิลลาในน้ำร้อน 63–65 องศาเซลเซียส นาน 3 นาที และผึ่งให้สะเด็ดน้ำ ห่อด้วยผ้าฝ้ายสีดำ เก็บไว้ในกล่องไม้ นาน 2–3 วัน นำมาอบที่อุณหภูมิ 45–50 องศาเซลเซียส นาน 3–4 ชั่วโมง ทุกวัน เป็นเวลา 6–8 วัน จากนั้นนำมาบ่มในลังไม้ที่ร่ม นาน 3 เดือน

แบบที่ 2 นึ่งฝักวานิลลาที่อุณหภูมิ 60–70 องศาเซลเซียส นาน 36–48 ชั่วโมง นำไปม้วนในผ้าฝ้ายสีดำ นาน 24 ชั่วโมง แล้วนำมาตากแดดวันละ 2-3 ชั่วโมง เป็นเวลา 5-6 วัน เก็บไว้ในลังไม้ที่ร่ม ที่มีการระบายอากาศได้ดี นาน 2-3 เดือน

การปลูกวานิลลาให้โตเร็วและเก็บเกี่ยวผลผลิตใน 2 ปีต้องอาศัยการดูแลอย่างพิถีพิถันในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การเลือกพันธุ์ การจัดการพื้นที่ การให้น้ำ ปุ๋ย และการตัดแต่งต้นให้เหมาะสม หากทำได้ตามนี้ จะสามารถเพลิดเพลินกับผลผลิตวานิลลาคุณภาพเยี่ยมที่ทั้งหอมและมีมูลค่าสูงได้อย่างแน่นอน


‘เทคโนโลยีชาวบ้าน’ จัดใหญ่ งานสัมมนาแรกของปี ‘ไข่ผำ-วานิลลา : เจาะลึกโอกาสธุรกิจพืชเทรนด์ใหม่’ 31 มกราคมนี้!
จัดใหญ่ จัดเต็ม เอาใจเกษตรกร ผู้ประกอบการ นักธุรกิจหน้าใหม่ หรือผู้ที่สนใจอยากเริ่มต้นทำเกษตรสร้างรายได้ สร้างโอกาส พร้อมเคล็ดลับการปลูกและแปรรูปจากผู้เชี่ยวชาญ พร้อมเปิดโลกธุรกิจใหม่ๆ สู่ธุรกิจมูลค่าสูง ที่รวมเนื้อหาที่ต้องรู้ ไว้ในงานเดียว!
ร่วมฟังงานสัมมนา ‘ไข่ผำ-วานิลลา : เจาะลึกโอกาสธุรกิจพืชเทรนด์ใหม่’ ได้ โดยการลงทะเบียนล่วงหน้าได้ที่ https://forms.gle/wKVwntHafdSEKQHG9 (จำนวนจำกัด) ลงทะเบียนสัมมนาฟรี! ไม่เสียค่าใช้จ่าย พร้อมลุ้นรับของแจกในงาน จำนวนจำกัด!
พบกันวันที่ 31 มกราคม 2568
เวลา : 10.30 – 16.30 น.
ณ ห้องประชุมอาคารหนังสือพิมพ์ข่าวสด ถนนเทศบาลนิมิตใต้ หมู่บ้านประชานิเวศน์ 1, แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพฯ ใกล้รถไฟฟ้าสายสีแดง สถานีวัดเสมียนนารี
ติดตามข้อมูลและกิจกรรมดีๆ ของเทคโนโลยีชาวบ้านได้ที่