เผยแพร่ |
---|
เทคโนโลยีชาวบ้าน ผู้นำสื่อออนไลน์ด้านการเกษตรครบวงจร จัดงานสัมมนาแรกของปี ‘ไข่ผำ – วานิลลา : เจาะลึกโอกาสธุรกิจพืชเทรนด์ใหม่’ โดย ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานเปิดสัมมนา และมีนายรพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร นายพีรพันธ์ คอทอง อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม ณ ห้องประชุมอาคารหนังสือพิมพ์ข่าวสด
สำหรับเวทีสัมมนาสุดเอ็กซ์คลูซีฟ หัวข้อ ปลดล็อกศักยภาพ ‘ไข่ผำ’ พืชเทรนด์ใหม่ ตอบโจทย์อนาคตยั่งยืน พูดคุยแนวทางการสร้างมูลค่า ‘ไข่ผำ’ ให้เกิดรายได้ โดย ‘คุณณัฐ-ณัฐวุฒิ จันทร์เรือง’ เจ้าของสวนจันทร์เรือง จ.จันทบุรี ชาวสวนรุ่นใหม่ ผู้พัฒนาเลี้ยงผำเชิงอุตสาหกรรม ด้วยวิธีการเลี้ยงในระบบปิดแนวตั้ง เพื่อให้ได้ผำที่สะอาด มีคุณภาพ ได้มาตรฐาน สู่การสร้างมูลค่า และคุณอนุวัฒน์ กำแพงแก้ว ผู้อำนวยการกลุ่มวิจัยพืชอนาคตใหม่ กรมวิชาการเกษตร

คุณณัฐวุฒิ จันทร์เรือง เจ้าของสวนจันทร์เรือง จังหวัดจันทบุรี เป็นเกษตรกรรุ่นใหม่ที่บุกเบิกการเลี้ยง “ไข่ผำ” หรือ “ผำ” ในระบบปิดแนวตั้ง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและสร้างมูลค่าให้กับพืชน้ำชนิดนี้
คุณณัฐวุฒิ บอกว่า ไข่ผำชุปเปอร์ฟู้ดจากแหล่งน้ำไทย เป็นพืชน้ำขนาดเล็กที่มีโปรตีนสูงและเป็นแหล่งของสารอาหารสำคัญ อาทิ กรดอะมิโน วิตามิน และแร่ธาตุ จึงถูกยกให้เป็น “ซูเปอร์ฟู้ด” ที่มีศักยภาพสูงในการพัฒนาเชิงพาณิชย์ อย่างไรก็ตาม การเลี้ยงไข่ผำให้ได้มาตรฐานจำเป็นต้องคำนึงถึงคุณภาพน้ำ ระบบการเลี้ยง และมาตรฐานความปลอดภัยทางอาหาร
คุณณัฐวุฒิได้นำระบบการเลี้ยงแบบ “รางแนวตั้ง” มาใช้ช่วยให้การจัดการง่ายขึ้น และสามารถควบคุมคุณภาพน้ำได้ดีขึ้น ระบบน้ำที่ใช้เป็นระบบ RO (Reverse Osmosis) ซึ่งมีความสะอาดและปลอดภัย ช่วยลดความเสี่ยงจากการปนเปื้อน
“ถ้าตั้งรางเลี้ยงไว้กลางแจ้งโดยไม่มีการป้องกัน จะเสี่ยงต่อปัญหาลูกน้ำยุงลายและสิ่งปนเปื้อนจากภายนอก แต่เมื่อทำเป็นรางแนวตั้งในระบบปิด ก็สามารถควบคุมอุณหภูมิ ควบคุมสารอาหาร และรักษาคุณภาพของไข่ผำได้อย่างสมบูรณ์” คุณณัฐวุฒิกล่าว
คุณณัฐวุฒิ บอกว่า จะทำให้ไข่ผำสามารถเข้าสู่ตลาดสุขภาพที่ต้องการมาตรฐานสูง ต้องเน้นเพาะเลี้ยงไข่ผำให้ได้มาตรฐาน GAP (Good Agricultural Practices) และหลีกเลี่ยงการใช้ปุ๋ยอินทรีย์ที่อาจทำให้เกิดการปนเปื้อน นอกจากนี้ ยังมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์แปรรูปจากไข่ผำ เช่น ผงโปรตีนเสริมอาหาร และสารสกัดจากไข่ผำ
“เรายังไม่หยุดพัฒนา ตอนนี้กำลังศึกษาเรื่องสารสกัดจากไข่ผำ เพื่อเพิ่มคุณค่าและทำให้สามารถนำไปใช้ในอุตสาหกรรมอาหารได้กว้างขึ้น” คุณณัฐวุฒิกล่าว
จากการสำรวจตลาดต่างประเทศ คุณณัฐวุฒิพบว่ากลุ่มประเทศตะวันออกกลางให้ความสนใจไข่ผำเป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นแหล่งโปรตีนจากพืชที่สามารถใช้เป็นอาหารเสริมสุขภาพได้
“ศักยภาพของตลาดตะวันออกกลางน่าสนใจมาก เพราะผู้บริโภคในภูมิภาคนี้มองหาอาหารที่มีโปรตีนสูงและดีต่อสุขภาพ หากสามารถพัฒนาไข่ผำให้ตอบโจทย์กลุ่มนี้ ก็จะช่วยสร้างความยั่งยืนให้กับการเลี้ยงไข่ผำในไทย” คุณณัฐวุฒิกล่าว
อนาคตของไข่ผำจากพืชพื้นบ้านสู่ซูเปอร์ฟู้ดระดับโลก คุณณัฐวุฒิจะทำการพัฒนาไข่ผำให้มีคุณค่าทางโภชนาการสูงขึ้น เช่น การเสริมพรีไบโอติก หรือการพัฒนาสายพันธุ์ที่เหมาะสมกับการบริโภค นับเป็นแนวทางสำคัญที่ช่วยให้ไข่ผำสามารถแข่งขันในตลาดโลกได้
“ไข่ผำไม่ใช่แค่พืชน้ำพื้นบ้านอีกต่อไป แต่สามารถเป็นแหล่งอาหารแห่งอนาคต ที่ตอบโจทย์ทั้งด้านโภชนาการและความยั่งยืนทางสิ่งแวดล้อม” คุณณัฐวุฒิกล่าวทิ้งท้าย
ไข่ผำอาจเป็นคำตอบของอนาคตในอุตสาหกรรมอาหารเพื่อสุขภาพ ด้วยระบบการเลี้ยงที่ได้มาตรฐาน การพัฒนาผลิตภัณฑ์แปรรูป และโอกาสทางการตลาดระดับสากล เกษตรกรไทยจึงสามารถใช้ประโยชน์จากพืชน้ำชนิดนี้ เพื่อสร้างมูลค่าและผลักดันให้ไข่ผำกลายเป็นซูเปอร์ฟู้ดที่ได้รับการยอมรับในระดับโลก

ส่วนคุณอนุวัฒน์ กำแพงแก้ว ผู้อำนวยการกลุ่มวิจัยพืชอนาคตใหม่ กล่าวว่า กรมวิชาการเกษตร มีนโยบายการส่งเสริมพืชเศรษฐกิจใหม่อย่าง “ไข่ผำ” ซึ่งเป็นซูเปอร์ฟู้ด ไข่ผำ เป็นพืชจิ๋วที่มีโปรตีนสูงแล้ว ยังมีวิตามินบี 12 ซึ่งคู่ค้าต่างประเทศตื่นเต้นมากเพราะปกติพืชไม่สามารถสร้างได้ ถือเป็นจุดขายสำคัญ แต่การผลิตต้องมีคุณภาพและมาตรฐาน GAP ด้วย
ปัจจุบัน กลุ่มวิจัยพืชอนาคตใหม่ ได้ร่วมมือกับสวนจันทร์เรือง ในการศึกษาและทดสอบวิธีการเพาะเลี้ยงไข่ผำสำหรับบริโภคในโรงเรือน เพื่อใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์ รวมทั้งอบรมและพัฒนาเครือข่ายที่สนใจเพาะเลี้ยงไข่ผำให้ได้คุณภาพและมาตรฐาน GAP ขณะเดียวกัน สนับสนุนการแปรรูปผลิตภัณฑ์ไข่ผำที่แปลกใหม่ หลากหลายรูปแบบ และส่งเสริมการบริโภคไข่ผำในประเทศ หากใครสนใจเพาะเลี้ยงไข่ผำ ขอแนะนำว่า อย่าลงทุนเชิงเดี่ยว ควรต่อยอดกิจการเดิม หรือเสริมธุรกิจใหม่ เพื่อลดความเสี่ยงในการลงทุน