เผยแพร่ |
---|
นายไพฑูรย์ สีลาพัฒน์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 9 สงขลา (สศท. 9) สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) เปิดเผยว่า จังหวัดสงขลานับเป็นอีกหนึ่งจังหวัดของภาคใต้มีศักยภาพด้านการเกษตร ทั้งด้านพืช ปศุสัตว์ และประมง โดยเฉพาะอย่างยิ่งพื้นที่ทะเลสาบสงขลาที่มีความโดดเด่นด้านประมงที่เป็นแหล่งผลิตปลากะพงที่สำคัญ สามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้จังหวัด และสร้างรายได้ สร้างอาชีพ ให้กับเกษตรกรในพื้นที่ ซึ่ง ปลากะพงสามน้ำทะเลสาบสงขลา (Songkhla Lake Seabass หรือ Pla Ka Phong Sam Num Tha Le Sab Songkhla) ได้รับการขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) เมื่อวันที่ 28 กันยายน 2565

จากการลงพื้นที่ของ สศท.9 เพื่อติดตามการดำเนินงานของ กลุ่มวิสาหกิจชุมชนรักเกาะยอ ตำบลเกาะยอ อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา นับเป็นกลุ่มที่ประสบความสำเร็จในการผลิตปลากะพงสามน้ำทะเลสาบสงขลาและเป็นศูนย์กลางในการรวบรวมผลผลิตจากกลุ่มเครือข่าย จำนวน 19 กลุ่ม ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่อำเภอเมือง และอำเภอสิงหนคร เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรรายอื่นในการกระจายผลผลิต โดยกลุ่มวิสาหกิจชุมชนรักเกาะยอ เริ่มดำเนินการปี 2563 มีสมาชิก 40 ราย โดยมี นางจีรวัฒน์ ชุตินธร เป็นประธานกลุ่ม มีพื้นที่เลี้ยงรวม 4 ไร่ จำนวน 320 กระชัง (เลี้ยงเฉลี่ย 10 กระชัง/ครัวเรือน) ด้านสถานการณ์การผลิตของกลุ่มวิสาหกิจชุมชนรักเกาะยอ พบว่า การเลี้ยงปลากะพงสามน้ำทะเลสาบสงขลา ใน 1 รอบ ใช้เวลาเลี้ยงประมาณ 24 เดือน ซึ่งเกษตรกรมีการวางแผนการเลี้ยงเป็นอย่างดี ทำให้สามารถจับผลผลิตได้ตลอดทั้งปี ซึ่งกลุ่มวิสาหกิจฯ สามารถผลิตได้ 2,350 ตัน/ปี จำหน่ายในราคาเฉลี่ย (ราคา ณ เดือน ธันวาคม 2567) กิโลกรัมละ 160 บาท/กิโลกรัม สามารถสร้างรายได้เฉลี่ย 376 ล้านบาท/ปี คิดเป็นรายได้สุทธิเฉลี่ย (กำไร) 94 ล้านบาท/ปี ทั้งนี้ กลุ่มวิสาหกิจฯ ยังสามารถผลิตและรวบรวมผลผลิตทั้งภายในกลุ่มและจากกลุ่มเครือข่ายอื่นๆ จำนวน 19 กลุ่ม เพื่อจำหน่ายออกสู่ตลาดได้ประมาณ 3,500-5,000 ตัน/ปี สามารถสร้างรายได้เฉลี่ย 560-800 ล้านบาท/ปี หรือ คิดเป็นรายได้สุทธิเฉลี่ย (กำไร) 140-200 ล้านบาท/ปี ด้านสถานการณ์ตลาด ผลผลิตส่วนใหญ่ร้อยละ 70 จำหน่ายภายในจังหวัดสงขลา อาทิ ร้านอาหารต่างๆ ภายในจังหวัด การนำไปใช้ในการปรุงอาหารเลี้ยงในพิธีต่างๆ รวมถึงจำหน่ายให้แก่ผู้บริโภคทั่วไป และอีกร้อยละ 30 เป็นการจำหน่ายภายนอกจังหวัด อาทิ จังหวัดนครศรีธรรมราช ภูเก็ต กรุงเทพมหานคร รวมถึงจำหน่ายช่องทางออนไลน์
“สำหรับแนวทางการพัฒนาและการยกระดับในระยะต่อไปของกลุ่มวิสาหกิจฯ คือการนำปลากะพงสามน้ำทะเลสาบสงขลา เข้าไปจัดแสดงในงาน THAIFEX – Anuga Asia เพื่อให้ผู้ประกอบการร้านอาหารทั่วโลกได้รู้จัก มีแนวทางการส่งเสริมให้มีการใช้วัตถุดิบสินค้า GI ในการประกอบอาหารในร้านอาหารไทยที่ได้รับตราสัญลักษณ์ Thai Select ซึ่งมีอยู่ทั่วประเทศ พร้อมทั้งวางจำหน่ายในห้างสรรพสินค้าชั้นนำ เพื่อเพิ่มช่องทางและมูลค่าให้กับสินค้า ส่งเสริมให้มีส่งออกไปยังประเทศจีนซึ่งที่ผ่านมาทางกลุ่มวิสาหกิจฯ ได้มีการศึกษาดูงาน และเรียนรู้วิธีการเลี้ยงปลาการจับปลา การบรรจุภัณฑ์ การเจาะหัวปลาเพื่อรีดเลือดออก การบ่มปลาเพื่อเพิ่มคุณภาพของปลา โดยการไล่ความชื้นส่วนเกินในตัวปลาออกมาในอุณหภูมิที่ควบคุมได้ รวมถึงวิธีการส่งออกผลิตภัณฑ์ อีกทั้งการเตรียมความพร้อมเสนอโครงการเพื่อขอรับเงินสนับสนุนจากกองทุน FTA ของ สศก. เพื่อยกระดับสู่สินค้าเกษตรมูลค่าสูง” ผู้อำนวยการ สศท.9 กล่าว
ทั้งนี้ ปลากะพงสามน้ำทะเลสาบสงขลา คือ ปลากะพงสด ปลากะพงสดแช่แข็ง ปลากะพงเค็ม และหนังปลากะพงทอดกรอบ จากปลากะพงขาวที่มีขนาดใหญ่ น้ำหนักไม่น้อยกว่า 2 กิโลกรัม เลี้ยงในพื้นที่ทางทะเลในเขตพื้นที่อำเภอเมือง อำเภอสิงหนคร อำเภอหาดใหญ่ อำเภอบางกล่ำ และอำเภอควนเนียง และขอบเขตพื้นที่การแปรรูปครอบคลุมทุกอำเภอในจังหวัดสงขลา โดยลักษณะเด่นและเอกลักษณ์เฉพาะของการเลี้ยงปลากะพงสามน้ำทะเลสาบสงขลา เป็นการเลี้ยงด้วยอาหารสดซึ่งจะทำให้ปลามีเนื้อแน่น น้ำหนักเนื้อมาก มีความหวานฉ่ำ ไม่มีกลิ่นคาว เป็นปลาที่มีรสชาติอร่อย โดยเลี้ยงในแหล่งน้ำธรรมชาติ 3 น้ำ คือ น้ำเค็ม น้ำจืด และน้ำกร่อย มีกระแสน้ำไหลเวียนทำให้มีแร่ธาตุอุดมสมบูรณ์ เลี้ยงแบบวิธีธรรมชาติ ปราศจากฮอร์โมน สารเร่งโต และปลอดยาปฏิชีวนะ โดยเกษตรกรจะคำนึงถึงความปลอดภัยของผู้บริโภคเป็นหลักเพื่อความยั่งยืนของอาชีพ ชุมชน และสิ่งแวดล้อมโดยรอบทะเลสาบสงขลา หากท่านใดสนใจข้อมูล สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ สศท.9 โทร. 074-312-996 หรืออีเมล[email protected] หรือวิสาหกิจชุมชนรักเกาะยอ ตำบลเกาะยอ อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา โทร. 086-962-4579