บึงกาฬรวมใจ ใช้ “ใบยาง” จัดทำ “ดอกไม้จันทน์”

จังหวัดบึงกาฬได้ประชุมคณะกรรมการอำนวยการจัดพิธีถวายดอกไม้จันทน์ จังหวัดบึงกาฬขึ้น โดยมีนายพิสุทธิ์ บุษยพรรณพงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬเป็นประธานในการประชุม ณ ศาลากลางจังหวัดบึงกาฬ เมื่อเร็วๆ นี้

การจัดประชุมในครั้งนั้นเป็นการเตรียมความพร้อมในพิธีถวายดอกไม้จันทน์ของประชาชนในจังหวัดบึงกาฬ ซึ่งคาดว่าจะมีการวางดอกไม้จันทน์จำนวน 210,500 ดอก โดยใช้วัสดุจากธรรมชาติในการผลิต ประกอบด้วย 2 ส่วน คือ ส่วนที่ 1 ดอกไม้จันทน์สำหรับเป็นตัวแทนจังหวัดและอำเภอ จำนวน 878 ช่อ จัดส่งไปร่วมกับส่วนกลางที่มณฑลพิธีท้องสนามหลวง และส่วนที่ 2 ดอกไม้จันทน์สำหรับประชาชนร่วมถวายดอกไม้จันทน์ในพื้นที่

กระทรวงมหาดไทยมอบหมายให้กรมการพัฒนาชุมชนรับผิดชอบในการออกแบบและจัดทำดอกไม้จันทน์ของจังหวัดและอำเภอ รวมทั้งสนับสนุนการฝึกสอนการทำดอกไม้จันทน์สำหรับประชาชน

ทั้งนี้ดอกไม้จันทน์ที่จัดไว้สำหรับเป็นตัวแทนจังหวัดและอำเภอ ได้กำหนดให้จังหวัดออกแบบและจัดทำดอกไม้จันทน์โดยมีต้นแบบเป็นดอกไม้ประจำจังหวัดที่มีความเหมาะสม เช่น จังหวัดบึงกาฬใช้ดอกสิรินธรวัลลี กำหนดขนาดความกว้าง 21-24 ซม. และสูง 35-45 ซม. พร้อมป้ายชื่ออำเภอ/จังหวัด

เน้นการใช้วัสดุธรรมชาติที่มีในพื้นที่ หรือวัสดุดัดแปลงตามแนวทางหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง เช่น เปลือกข้าวโพด ผักตบชวา ใบตองแห้ง ใบยางพารา หรือกระดาษสา ประกอบกับจังหวัดบึงกาฬมีการปลูกยางพาราเป็นจำนวนมากกว่า 1 ล้านไร่ สามารถใช้ใบยางพาราในการผลิตดอกไม้จันทน์ได้ตามแบบที่ส่วนกลางกำหนด 7 แบบด้วยกัน คือ 1.ดอกดารารัตน์ 2.ดอกกุหลาบ 3.ดอกพุดตาน 4.ดอกลิลลี่ 5.ดอกกล้วยไม้ 6.ดอกชบาทิพย์ 7.ดอกชบาหนู และจะใช้ดอกไม้ประจำจังหวัดคือดอกสิรินธรวัลลีเป็นแบบในการผลิตดอกไม้จันทน์อีก 1 แบบ

พ.อ.ธวัชชัย ปัญญะวิก สัสดีจังหวัดบึงกาฬ กล่าวว่า การนำใบยางพารามาแปรรูปทำดอกไม้จันทน์เพื่อใช้ในพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในหลวงรัชกาลที่ 9 เกิดจากการประชุมที่จังหวัด ในที่ประชุมได้หารือกับทุกภาคส่วนของจังหวัดบึงกาฬถึงวัสดุจัดทำดอกไม้จันทน์ โดยผู้ว่าราชการจังหวัดได้ถามว่าพอจะใช้ใบยางพาราที่มีอยู่ได้ไหม

“ผมชี้แจงกลับไปว่าใบยางพาราในสวนนั้นมีมาก สามารถตัดลงมาได้ หลังจากนั้นผมกลับไปที่สวนยาง เรียกประชุมลูกน้อง 30 ครอบครัวที่รับจ้างกรีดยาง บอกกับพวกเขาว่าทางจังหวัดบึงกาฬต้องการใบยางเพื่อนำไปจัดทำดอกไม้จันทน์ในพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพในหลวงรัชกาลที่ 9 พอวันรุ่งขึ้นทุกคนก็ลงมือดำเนินการ โดยกลุ่มหนึ่งตัดกิ่งใหญ่ๆ ของยางลงมาประมาณ 200-300 ต้น อีกกลุ่มหนึ่งเด็ดยอดละ 3 ใบ ใส่ถุงอย่างเดียว ทำอยู่ 2 วัน ได้ใบยางทั้งหมด 16 ถุงใหญ่”

พ.อ.ธวัชชัยกล่าวว่า เมื่อได้ใบยางมาได้นำไปแช่น้ำประมาณ 25 วัน และนัดกันไปล้างใบยาง ใช้คนประมาณ 100 คน ทั้งทหารกองหนุน ชาวบ้าน ข้าราชการสัสดีอำเภอและจังหวัดลงไปล้าง การล้างใบยางยากมาก เพราะต้องใช้แหล่งน้ำที่จะล้าง ถ้าน้ำไม่หมุน หรือน้ำไม่แรงพอ คลอโรฟิลล์ก็จะออกไม่หมด

แต่เราทำได้ภายในวันเดียว ล้างหมด 16 ถุงใหญ่

ต่อมาได้ส่งมอบให้กับ นายพิสุทธิ์ บุษยพรรณพงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ ส่งมอบให้กับหน่วยงานต่างๆ เช่น พัฒนาชุมชน, พัฒนาฝีมือแรงงาน, การศึกษานอกโรงเรียน, เขตพื้นที่การศึกษา, ท้องถิ่นจังหวัด, หอการค้า, องค์การบริหารส่วนจังหวัดบึงกาฬ เพื่อนำไปทำดอกไม้จันทน์ร่วมกับวิทยากรต้นแบบ รวมทั้งวัสดุอุปกรณ์ในการจัดทำดอกไม้จันทน์ และให้ประชาชนจิตอาสาในแต่ละอำเภอใช้เวลาว่างในการจัดทำดอกไม้จันทน์ร่วมกัน

“แรงจูงใจในการทำใบยางครั้งนี้เกิดจากสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ เราตั้งใจทำถวาย ชาวบ้านเองก็ร่วมบริจาคร่วมทำโดยไม่คิดค่าแรง ทำเพื่อถวายท่านทั้งหมด งานนี้

ก่อให้เกิดความภาคภูมิใจให้กับชาวบ้าน” พ.อ.ธวัชชัยกล่าว และว่า การร่วมแรงร่วมใจกันครั้งนี้ถือว่ายิ่งใหญ่ เราไม่ได้หวังอะไรเลย หวังว่าเราทำถวายพระองค์ ทำเพื่อนำไปให้ชาวบ้านใช้จัดทำดอกไม้จันทน์

นายพงษ์ศักดิ์ เหมะธุลิน รักษาราชการแทนพัฒนาการจังหวัดบึงกาฬ กล่าวว่า สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดบึงกาฬ ในนามตัวแทนที่รับผิดชอบเรื่องการจัดทำดอกไม้จันทน์ สรุปผลการจัดทำดอกไม้จันทน์จากประชาชนทุกภาคส่วนทั้ง 8 อำเภอแล้วจำนวน 350,175 ดอก และได้จัดพิธีนำดอกไม้จันทน์ตัวแทนของจังหวัดและอำเภอมาประกอบพิธีอธิษฐานจิต และนำดอกไม้จันทน์ตัวแทนของจังหวัดส่งมอบให้กระทรวงมหาดไทยแล้ว เพื่อรวบรวมให้กรุงเทพมหานครนำไปถวายที่หอเปลื้องพระเมรุมาศในวันที่ 26 ตุลาคม 2560

ด้าน นายพิสุทธิ์ บุษยพรรณพงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ กล่าวว่า นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณที่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระราชวินิจฉัยให้รัฐบาลดำเนินการก่อสร้างพระเมรุมาศจำลองทั่วประเทศ ด้วยทรงห่วงใยว่าประชาชนจำนวนมากจะไม่สามารถเดินทางเข้ามาในกรุงเทพฯได้ จึงมีพระราชประสงค์ให้ทุกคนมีโอกาสถวายความจงรักภักดีแด่ในหลวงรัชกาลที่ 9 เป็นครั้งสุดท้ายอย่างทั่วถึง โดยทรงพระกรุณาให้จัดสร้างพระเมรุมาศจำลองรวมจำนวน 85 แห่ง ทั้งในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และในส่วนภูมิภาค จำนวน 76 จังหวัด จังหวัดละ 1 แห่ง

รวมทั้งจังหวัดบึงกาฬด้วย

จังหวัดบึงกาฬจัดทำซุ้มถวายดอกไม้จันทน์ตามที่กรมศิลปากรออกแบบในทุกอำเภอทั้ง 8 อำเภอ ได้แก่ 1.อำเภอเมืองบึงกาฬร่วมกับจังหวัดบึงกาฬ จัดพิธีถวายดอกไม้จันทน์ที่บริเวณสนามหน้าที่ว่าการอำเภอเมืองบึงกาฬ สามารถรองรับประชาชนได้ประมาณ 50,000 คน 2.อำเภอบุ่งคล้า จัดพิธีถวายดอกไม้จันทน์ที่บริเวณเมรุวัดบึงสาราษฏร์ สามารถรองรับประชาชนได้ประมาณ 7,000 คน 3.อำเภอบึงโขงหลง จัดพิธีถวายดอกไม้จันทน์ที่บริเวณเมรุวัดสว่างวารี สามารถรองรับประชาชนได้ประมาณ 18,700 คน 4.อำเภอเซกา จัดพิธีถวายดอกไม้จันทน์ที่บริเวณเมรุวัดไตรภูมิ สามารถรองรับประชาชนได้ประมาณ 43,100 คน

5.อำเภอพรเจริญ จัดพิธีถวายดอกไม้จันทน์ที่บริเวณเมรุวัดป่าวิเวกธรรมคุณ สามารถรองรับประชาชนได้ประมาณ 21,800 คน 6.อำเภอศรีวิไล จัดพิธีถวายดอกไม้จันทน์ที่บริเวณเมรุวัดอรัญญวิเวก สามารถรองรับประชาชนได้ประมาณ 20,000 คน 7.อำเภอโซ่พิสัย จัดพิธีถวายดอกไม้จันทน์ที่บริเวณเมรุวัดสุวรรณาราม สามารถรองรับประชาชนได้ประมาณ 36,200 คน และ 8.อำเภอปากคาด จัดพิธีถวายดอกไม้จันทน์ที่บริเวณเมรุวัดโพธิ์ศรีสร้อย สามารถรองรับประชาชนได้ประมาณ 17,700 คน

ทั้งหมดกำหนดแล้วเสร็จในวันที่ 15 ตุลาคมนี้

สำหรับชาวจังหวัดบึงกาฬสามารถร่วมพิธีถวายดอกไม้จันทน์ ณ พื้นที่ซึ่งทางอำเภอกำหนดไว้ตามความสมัครใจ โดยอำเภอได้จัดทำแผนอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนที่จะมาร่วมพิธีถวายดอกไม้จันทน์เอาไว้เรียบร้อยแล้ว

 

ที่มา : มติชนออนไลน์