กกจ.จับจริงนายหน้า นำเข้าต่างด้าวผิดกม.

เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม นายวรานนท์ ปีติวรรณ อธิบดีกรมการจัดหางาน (กกจ.) กระทรวงแรงงาน กล่าวถึงกรณีมีนายหน้าบริษัทนำเข้าแรงงานต่างด้าว และคนต่างด้าวเรียกเก็บเงินค่าหัวคิวของแรงงานต่างด้าวจากนายจ้างที่มาใช้บริการที่ศูนย์บริการเพื่อการทำงานของแรงงานต่างด้าวสัญชาติพม่า จังหวัดสมุทรปราการ ว่า จากการตรวจสอบพบคนต่างด้าวสัญชาติพม่า 4 คน กำลังกรอกเอกสาร จัดคิว รับถ่ายเอกสารให้กับคนต่างด้าวที่มาใช้บริการที่ศูนย์ มีหนังสือเดินทางและใบอนุญาตทำงาน ตำแหน่งกรรมกร แต่ทำงานไม่ตรงกับนายจ้างและสถานที่ที่ระบุไว้ในใบอนุญาตทำงาน 3 คน และไม่มีเอกสารใดๆ มาแสดงอีก 1 คน เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธร (สภ.) สำโรงเหนือ และแจ้งข้อกล่าวหาคนต่างด้าว 3 คน ในข้อหาเป็นผู้รับอนุญาตให้ทำงานทำงานแตกต่างจากประเภทงาน นายจ้าง ท้องที่ หรือเงื่อนไขในการทำงานตามที่กำหนดไว้ในใบอนุญาตทำงานตาม มาตรา 70

“คนต่างด้าวดังกล่าวให้การรับสารภาพและยินดีเปรียบเทียบปรับ และร้องทุกข์กล่าวโทษบริษัทนำคนต่างด้าวเข้ามาทำงานในประเทศในข้อหาให้คนต่างด้าวทำงานไม่ตรงตามที่กำหนดไว้ในใบอนุญาตทำงาน ตามมาตรา 73 พระราชกำหนด (พ.ร.ก.) การบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ. 2560 ส่วนคนต่างด้าวอีก 1 ราย แจ้งข้อกล่าวหาเป็นคนต่างด้าวหลบหนีเข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต ตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) คนเข้าเมือง พ.ศ. 2522 และประสานตำรวจตรวจคนเข้าเมืองเพื่อขยายผลักดันส่งกลับต่อไป” นายวรานนท์ กล่าวและว่า กระทรวงแรงงานได้แก้ไขปัญหาคิวยาว และป้องกันการเรียกรับเงินจากนายจ้างโดยได้ประสานทางการพม่าเพิ่มคิวและเพิ่มจำนวนเครื่องผลิตเล่มเอกสารรับรองบุคคล (CI) โดยเฉพาะที่ศูนย์ตรวจสัญชาติ จังหวัดระนอง จังหวัดสมุทรสาคร และ จังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งแต่ละศูนย์สามารถผลิตเอกสารรับรองบุคคลได้เพิ่มอีกเป็น 1,400 เล่ม ต่อวัน ขณะนี้มีแรงงานพม่ากลุ่มที่ผ่านการคัดกรองความสัมพันธ์นายจ้าง-ลูกจ้าง (ใบจับคู่) ได้รับใบแทนใบอนุญาตทำงานแล้ว 45,458 คน นายจ้าง 14,930 ราย

ขอบคุณข้อมูลจากมติชนรายวัน