เผยแพร่ |
---|
อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศไทยลดลงมาก จากค่าเฉลี่ย 9% ต่อปีในปี 2529-2539 เหลือ 3% ในสองปีที่ผ่านมา เป็นผลมาจากการที่ภาคอุตสาหกรรมพัฒนาจนถึงจุดอิ่มตัว ในขณะที่เศรษฐกิจมีความหลากหลายมากขึ้น และปัจจุบันประเทศไทยมุ่งเน้นการนำนวัตกรรมมาขับเคลื่อนเศรษฐกิจ เป็นตัวพัฒนาความสามารถในการแข่งขันในระดับสากล ซึ่งนโยบายไทยแลนด์ 4.0 เป็นโครงการริเริ่มระดับประเทศ มีเป้าหมายพัฒนาอุตสาหกรรมที่ได้รับคัดเลือกให้มีมูลค่าสูงขึ้น โดยอาศัยนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ล้ำหน้า
“เชอร์มิน ก็อตเฟรดเซ็น” ผู้จัดการใหญ่ ยูนิเวอร์แซล โรบอทส์ ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และโอเชียเนีย กล่าวว่า ประเทศไทยจำเป็นต้องอาศัยบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถและมีทักษะทางเทคโนโลยี ในการผลักดันให้โครงการไทยแลนด์ 4.0 ประสบความสำเร็จ
ซึ่งไทยขาดแคลนบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถในเรื่องดังกล่าวมาก เนื่องจากระบบการศึกษาของไทยผลิตวิศวกร ช่างเทคนิค และผู้ปฏิบัติงานด้านการผลิตไม่เพียงพอ รวมถึงมีประชากรในวัยทำงานลดลง และขาดการส่งเสริมเพื่อพัฒนาทักษะฝีมือของแรงงานที่มีอยู่
โดยหุ่นยนต์ที่สามารถปฏิบัติงานร่วมกับมนุษย์ได้ หรือ “โคบอตส์” (Collaborative Robots : Cobots) ช่วยให้พนักงานที่มีทักษะฝีมือน้อย มีกำลังการผลิตมากขึ้น และช่วยให้ธุรกิจเข้าสู่ยุคประเทศไทย 4.0 ได้เร็วขึ้น โดยไม่ต้องลงทุนสูงเกินไป เนื่องจากการใช้โคบอตส์เรียนรู้ได้ง่าย พนักงานจึงพัฒนาทักษะฝีมือของตนเองได้รวดเร็ว และง่าย เพื่อไปปฏิบัติงานในหน้าที่ที่มีมูลค่าสูงขึ้น โดยอาศัยความรู้ในการใช้โคบอตส์ช่วยให้ภาคธุรกิจเปลี่ยนถ่ายเข้าสู่กิจกรรมที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรมเร็วขึ้น
“โคบอตส์เป็นหุ่นยนต์ที่ออกแบบมาเพื่อทำงานร่วมกับมนุษย์ ช่วยสร้างมูลค่าให้กับภาคธุรกิจ จึงไม่น่าแปลกใจที่ Barclays คาดการณ์ว่า ยอดขายโคบอตส์ทั่วโลกจะสูงถึง 12,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ในปี 2568ซึ่งธุรกิจในประเทศใช้ประโยชน์จากโคบอตส์เพื่อเสริมกำลังการผลิตและพัฒนาคุณภาพสินค้าได้ หุ่นยนต์ประเภทนี้มีขนาดกะทัดรัด ปลอดภัย ใช้ง่าย และนำไปปรับเปลี่ยนให้เข้ากับการใช้งานได้”
ผู้บริหาร “ยูนิเวอร์แซล โรบอทส์” มองว่า “โคบอตส์” จะเข้ามาปฏิรูปการทำงานร่วมกันระหว่างมนุษย์กับหุ่นยนต์ ช่วยให้พนักงานมีกำลังการผลิตสูงขึ้น ช่วยให้ทำงานเดิม ๆ ซ้ำ ๆ และงานที่ต้องใช้แรงมากได้มีประสิทธิภาพ และแม่นยำขึ้น ทั้งการนำมาร่วมทำงานกับพนักงานในสายงานผลิตเดียวกัน ยังช่วยเสริมกำลังการผลิตให้สูงขึ้น และคุณสมบัติด้านความปลอดภัยที่
บิลต์อินภายใน ช่วยให้นำไปใช้งานร่วมกับพนักงานได้โดยไม่ต้องใช้รั้วป้องกันหนา ๆ และช่วยเสริมซึ่งกันและกัน เพื่อสร้างงานที่มีคุณภาพที่ทั้งคู่ไม่อาจทำได้โดยลำพัง เช่น ยูนิเวอร์แซล โรบอทส์ (ยูอาร์) ใช้โคบอตส์และพนักงานร่วมกันประกอบแขนหุ่นยนต์ จึงได้ใช้ประโยชน์จากความแม่นยำของโคบอตส์ในการขันสกรู
และการวัดค่าต่าง ๆ ขณะที่พนักงานทำการติดตั้งชิ้นส่วนใหญ่ ๆ และสั่งงานเครื่องจักร งานติดตั้งทั้งกระบวนการสลับไปมาระหว่างโคบอตส์กับพนักงานบนโต๊ะทำงานตัวเดียวกัน ช่วยให้กระบวนการประกอบ รวมถึงคุณภาพของแขนหุ่นยนต์สูงขึ้นมาก
“พนักงานคนไทยที่ไม่เก่งไอที ก็เรียนรู้การใช้โคบอตส์ได้ไม่ยาก แค่ฝึกอบรมเล็กน้อยก็ใช้งานได้ พนักงานจะได้มุ่งเน้นในการพัฒนาทักษะฝีมือและความรู้ที่มีมูลค่ามากขึ้น เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของอุตสาหกรรม หรืองานของตนเอง พนักงานจะได้ฝึกฝนทักษะภาษา การคิดเชิงวิเคราะห์ ความสามารถทางเทคนิค ช่วยให้มีความรู้ความเชี่ยวชาญใหม่ ๆ เพื่อที่จะได้ปฏิบัติงานในหน้าที่ที่มีมูลค่าสูงขึ้น เช่น ออกแบบโซลูชั่นเพื่อพัฒนาศักยภาพธุรกิจ การวิจัยพัฒนา และการออกแบบผลิตภัณฑ์หรือระบบปฏิบัติการ”