รายได้อุทยานฯพุ่งทะลุ 2.4พันล้าน พีพี”ครองแชมป์ 669 ล้าน “เกาะเสม็ด”กระฉูดจาก 21 เป็น 118 ล้าน

เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม นายทรงธรรม สุขสว่าง ผู้อำนวยการสำนักอุทยานแห่งชาติ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ทส.) เปิดเผยว่า เดือน ตุลาคม 2559- กันยายน 2560 กรมอุทยานฯ เก็บเงินรายได้อุทยานแห่งชาติทั่วประเทศ ได้ 2,413 ล้านบาท ถือว่ามากที่สุดเป็นประวัติศาสตร์

อุทยานฯ ที่เก็บเงินรายได้สูงที่สุด 10 อันดับแรก ได้แก่ 1.อุทยานฯ หาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี จ.กระบี่ 669,107,180 บาท 2.อุทยานฯ อ่าวพังงา จ.พังงา 390,217,349 บาท 3.อุทยานฯ หมู่เกาะสิมิลัน จ.พังงา 307,481,394 บาท 4.อุทยานฯ เขาแหลมหญ้า – หมู่เกาะเสม็ด 118,079,580 บาท จ.ระยอง 5.อุทยานฯ เอราวัณ จ.กาญจนบุรี 108,815,080 บาท 6.อุทยานฯ เขาใหญ่ จ.นครราชสีมา 107,215,072 บาท 7.อุทยานฯ ดอยอินทนนท์ จ.เชียงใหม่ 72,646,213 บาท 8.อุทยานฯ เขาสก จ.สุราษฎร์ธานี 63,000,830 บาท 9.อุทยานฯ หมู่เกาะลันตา จ.กระบี่ 59,214,941 บาท และ 10.อุทยานฯ หมู่เกาะอ่างทอง จ.สุราษฎร์ธานี 38,440,772 บาท

“เงินรายได้ที่กรมอุทยานฯ จัดเก็บได้นั้นจะถูกนำกลับมาใช้พัฒนาอุทยานฯ ให้ได้มาตรฐาน เข้าสู่ความเป็นสากลตามนโยบายของรัฐบาล และบางส่วนกลับคืนสู่ท้องถิ่น อุทยานฯ ไม่ได้ภูมิใจในตัวเงินรายได้ที่สามารถจัดเก็บได้ เพราะนั่นหมายถึงภาระที่ต้องนำกลับไปฟื้นฟูทรัพยากรและระบบนิเวศ นอกจากนั้นยังต้องนำกลับไปเฉลี่ยเพื่อใช้ในการพัฒนาอุทยานฯ ทั้งหมดกว่า 150 แห่งให้มีศักยภาพในทุกๆ ด้านใกล้เคียงกัน โดยเฉพาะการดูแลทรัพยากรป่าไม้ของประเทศไทย” นายทรงธรรม กล่าว

นายณัฐพล รัตนพันธุ์ ผู้อำนวยการส่วนกิจการทางทะเล สำนักอุทยานฯ กล่าวว่า สำหรับเงินรายได้ที่เพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะอุทยานฯ ทางทะเล เป็นเพราะการทำงานอย่างจริงจังของเจ้าหน้าที่และความร่วมมือจากประชาชน เช่น อุทยานฯ เขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด ที่กรมอุทยานฯ ได้เข้าไปจัดระเบียบผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ในช่วงปีที่ผ่าน จะเห็นได้ว่าเงินรายได้เพิ่มสูงขึ้นจาก 21 ล้านบาทในปีงบประมาณ 2559 มาเป็น 118 ล้านบาทในปีนี้ ถือว่าเพิ่มขึ้นอย่างมาก

ซึ่งเรื่องนี้ได้รับความร่วมมือจากประชาชนในพื้นที่เกาะเสม็ดที่ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่เป็นอย่างดี เพราะการดำเนินการจัดระเบียบนั้นก็เพื่อให้ประชาชนสามารถใช้ประโยชน์ในพื้นที่อุทยานฯ ได้อย่างเท่าเทียมกัน ไม่ใช่ผูกขาดเฉพาะนายทุนหรือผู้มีอิทธิพลที่ตักตวงผลประโยชน์ในพื้นที่มาเป็นเวลานาน